10 ที่เที่ยวเดือนตุลาคม หอบเป้ลุยปลายฝนต้นหนาว

10 ที่เที่ยวเดือนตุลาคม

หอบเป้ลุยปลายฝนต้นหนาว

เดือนตุลาคม เป็นช่วงเคลื่อนผ่านจากฤดูฝน ไปสู่ฤดูหนาว อากาศกำลังเย็นสบายๆ ไม่เฉอะแฉะมาก ไม่หนาวจนเกินพอดี และที่สำคัญไม่ร้อนด้วยค่ะ travel.mthai.com จะขอพานักเดินทางทุกท่านไปขึ้นเขา ดำน้ำ ดูหมอก ชมน้ำตก เที่ยวทุ่งดอกไม้ แบบจัดเต็มครบทุกสไตล์การท่องเที่ยว รับประกันว่าถูกอกถูกใจแน่นอน

1. เกาะขาม สัตหีบ จ.ชลบุรี

อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม เป็นเกาะเล็กๆ อยู่ทางทิศใต้ของอำเภอสัตหีบ มีความอุดมสมบูรณ์ของชายฝั่งและธรรมชาติใต้ท้องทะเล แบ่งเป็นสองฝั่ง คือฝั่งทางทิศเหนือที่มีหาดทรายสีขาวนวล เหมาะกับลงเล่นน้ำและเล่นกีฬาชายหาด กับฝั่งทางทิศใต้ที่เป็นหาดหินกรวดทรายหยาบ ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมดำน้ำกันที่ฝั่งนี้ เพราะมีทั้งปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ ปะการังสมอง ดอกไม้ทะเล และยังมีฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกหว่ายมาให้สัมผัสแบบใกล้ชิด รวมไปถึง กุ้ง หอย ปู เม่นทะเล และปลิงทะเล เรียกว่าดำเพลินๆ จนตัวดำเลยทีเดียว แต่ถ้าใครไม่ดำน้ำก็สามารถนั่งเรือท้องกระจกชมสัตว์ใต้ทะเลได้เหมือนกัน มีเรือคายักให้พาย หรือจะปั่นจักรยานก็สุดแล้วแต่ ทั้งนี้เกาะขามเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวพักแรม และเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ แนะนำให้จองล่วงหน้า เพราะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยววันละไม่เกิน 300 คน

ข่าวดี! อุทยานแจ้งเปิดเกาะให้นักท่องเที่ยวเข้าชมแล้ว ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน 17  รีบจองแล้วไปลั้ลลาริมทะเลกัน

********************************************************

2. บ้านป่าบงเปียง จ.เชียงใหม่

มาสูดกลิ่นดิน ฟินกับทุ่งนาสีเขียว ท่ามกลางหุบเขาโอบโล้มที่“บ้านป่าบงเปียง” ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่นี่เป็นถิ่นอาศัยของชาวปกาเกอะญอ ที่ทำอาชีพปลูกข้าวแบบนาขั้นบันได ลดหลั่นระดับไปตามแนวเขา ผสมผสานกับการทำไร่ข้าวโพด โดยถูกขนานนามว่าเป็น ”นาขั้นบันไดซาปาแห่งเมืองไทย” เนื่องด้วยมีความคล้ายคลึงกับนาขั้นบันไดซาปาของเวียดนาม และในช่วงปลายฝนต้นหนาวนี้ เหมาะมากที่จะมาเที่ยวสักครั้ง เพราะในเดือนตุลาคม นาข้าวยังคงเขียวขจีเต็มท้องทุ่งไปจนถึงปลายเดือน จากนั้นรวงข้าวจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามไปทั่วผืนนา

อ่านรีวิวเติมที่ นาขั้นบันได บ้านป่าบงเปียง

********************************************************

3. ภูกระดึง จ.เลย

ฟิตร่างกายให้พร้อม! วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ภูกระดึง พร้อมเปิดภูให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปล่าทะเลหมอกกันอีกครั้ง … ช่วงเวลาปลายฝน อากาศเย็นฉ่ำแบบนี้ การขึ้นภูกระดึงอาจเฉอะแฉะไปบ้าง แต่แลกมาด้วยการได้ยลทะเลหมอกสวยๆ ที่หนาตากว่าช่วงฤดูหนาว น้ำตกหลายแห่งบนภูก็น้ำเยอะและงดงามกว่าช่วงอื่น มองรอบไปๆ ตัว ก็เห็นแต่ความเขียวชอุ่มของพืชพรรณป่าไม้ ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินขึ้นมาหายเป็นปลิดทิ้ง ไฮไลท์ที่ห้ามพลาด! ชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก และโพสท่าเก๋ๆ บนชะง่อนหินที่ยื่นออกจากหน้าผา โดยมีต้นสนใหญ่ลู่ลมไปมาอยู่ด้านหลัง และอย่าลืมไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น จุดชมวิวยามเช้าเคล้าไปกับสายหมอกงดงามเป็นที่สุด ห่างจากตรงนี้ไปไม่ไกล จะเจอกับจุดชมพันธุ์ไม้บนลานหิน อย่างกระดุมเงิน ดุสิตา สร้อยสุวรรณา เอื้องม้าวิ่ง ฯลฯ แข่งกันออกดอกบานสะพรั่งทั่วลานหิน

อ่านรีวิวข้อเพิ่มเติม  พิชิตเขาภูกระดึง

********************************************************

4. ประเพณีวิ่งควาย จ.ชลบุรี

ชวนไปดูควายวิ่ง ที่งานประเพณีวิ่งควาย ประจำปี 2560 (ครั้งที่ 146) จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 4 ตุลาคม 2560 บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอเมืองชลบุรี และบริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดชลบุรี สำหรับปีนี้วันวิ่งควายตรงกับวันที่ 4 ตุลาคม 2560 ภายในงานจัดกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การประกวดน้องนางบ้านนา การแห่ขบวนประเพณีวิ่งควาย การแข่งขันวิ่งควาย การประกวดควายงามในเขตจังหวัดชลบุรี การประกวดควายเผือกเพศผู้เพศเมียในเขตจังหวัดชลบุรี การประกวดตกแต่งควายประเภทสวยงามและตลกขบขัน การแข่งขันกีฬาไทยพื้นบ้าน และการประกวดสาว (เหลือ) น้อยบ้านนา

********************************************************

5. ทุ่งดอกไม้ป่า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม

จ.อุบลราชธานี

ทุ่งดอกไม้ป่า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม สถานที่เที่ยวเอาใจสาวๆ ที่อยากถ่ายรูปคู่กับดอกไม้สวยๆ และแปลงกายเป็นเจ้าหญิงวิ่งเล่นในทุ่งดอกไม้สักวัน โดยในช่วงต้นหนาวของทุกปี หลังฝนทิ้งช่วง จะมีดอกไม้ป่าที่พร้อมใจกันผลิดอกชูช่อรับลมหนาว ละลานตาเต็มทั่วลานหินเหนือน้ำตกสร้อยสวรรค์  อาทิ สร้อยสุวรรณ (ดอกหญ้าสีเหลือง) ดุสิตา (หญ้าข้าวก่ำน้อย) มณีเทวา (กระดุมเงิน) สรัสจันทร (หญ้าหนวดเสือ) ทิพเกสร (หญ้าฝอยเล็ก) และดอกไม้ป่าอื่นๆ ขึ้นสอดแซม นับเป็นทุ่งดอกไม้ป่าบนลานหินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ซึ่งจะบานอวดโฉมต้อนรับนักท่องเที่ยวไปจนถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์

********************************************************

6. งานบุญบั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย

ขอบคุณรูปภาพจาก เทศบาลเมืองหนองคาย

วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ช่วงเทศกาลออกพรรษาของทุกปี จะมีประเพณียิ่งใหญ่ที่สำคัญกับชาวอีสาน นั่นคืองานบุญบั้งไฟพญานาค ลักษณะของบั้งไฟพญานาค จะเป็นลูกไฟกลมๆ สีแดงอมส้ม ซึ่งจะพุ่งขึ้นมาจากลำน้ำโขงทะยานสู่ฟากฟ้า ค้างอยู่หลายวินาที ก่อนจะหายลับไปกับตา สร้างความอัศจรรย์ใจให้กับผู้คนที่ไปรอชมอยู่ริมฝั่งโขง โดยปีนี้กำหนดจัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 2 – 8 ตุลาคม 2560 ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย และ 4-11 ตุลาคม ในเขตเทศบาลตำบลโพนพิสัย นอกจากการรอชมบั้งไฟพญานาคแล้ว ยังมีการแสดงม่านน้ำแสงสีเสียง การประกวดธิดาบั้งไฟพญานาคโลก และร่วมทำบุญตักบาตรเทโวที่อำเภอโพนพิสัย

********************************************************

7. บ้านจ่าโบ จ.แม่ฮ่องสอน

ขอบคุณรูปภาพจาก บ้านจ่าโบ่

บ้านจ่าโบ เป็นชุมชนเล็กๆ ของชาวมูเซอ ซ่อนตัวอยู่ในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่อนสอน จังหวัดที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งหุบเขาและสายหมอก บ้านจ่าโบเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักได้ พร้อมสัมผัสกับวิถีชีวิตชาวเผ่าที่อยู่อาศัยกันแบบเรียบง่าย ตกกลางคืนถ้าโชคดีฝนไม่ตกก็จะเห็นดาวส่องประกายทั่วท้องฟ้า และฟินกับทะเลมอกขาวโพลนยามเช้าตรู่ที่โผล่มาทักทายเราถึงหน้าบ้านพัก ไฮไลท์! มาเที่ยวที่นี่แล้วอย่าลืมไปทานก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่ ถ้าไม่ทานถือว่ามาไม่ถึง นั่งทานแบบ open air รับลมธรรมชาติแบบเห็นวิว 360 องศา ราคาไม่ถึง 50 บาท แต่บรรยากาศหลักล้านไปเลย

********************************************************

8. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จ.กาญจนบุรี

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น หรือ น้ำตกแม่ขมิ้น อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ เกิดจากน้ำในลำห้วยไหลผ่านเทือกเขาหินปูนก่อเกิดเป็นม่านน้ำตกไหลลดหลั่นกันลงมาเป็นชั้นเล็กชั้นน้อย ทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งชั้นที่ 4 หรือชั้นฉัตรแก้ว ได้รับการยอมรับว่าเป็นชั้นที่สวยที่สุดของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น โดยช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวคือเดือนตุลาคมถึงธันวาคม เพราะเป็นช่วงที่มีน้ำมาก น้ำไม่แล้ง สามารถเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนาน ขณะเดียวกันก็ได้ชมธรรมชาติผืนป่าสีเขียวโดยรอบไปด้วย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่  น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น 

********************************************************

9. ไร่รื่นรมย์ จ.เชียงราย

ขอบคุณรูปภาพจาก rairuenrom

เปลี่ยนจากขึ้นเขาลงทะเล มาใช้ชีวิตแบบบ้านๆ ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ที่ไร่รื่นรมย์ จังหวัดเชียงราย ไร่รื่นรมย์เป็นฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ที่อยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีด้วยการหันมาทานอาหารออร์แกนิค พร้อมเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ ในไร่ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติ เช่น การดำนา, การปลูกข้าว, การรีดนมแพะ, การให้อาหารแกะแพะ และเปิดคอร์สต่างๆ สำหรับใครที่สนใจทำเกษตรอินทรีย์ เช่น คอร์สเตรียมกลับบ้าน, คอร์สเกษตรมือใหม่, คอร์สชวนเพื่อนทำนา, คอร์สทำอาหารร่วมกับเชฟ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโซนฟาร์มสเตย์ เป็นที่เตนท์พักทรงกระโจม ตั้งอยู่กลางทุ่ง ให้นักท่องเที่ยวที่มาทำกิจกรรมนอนพักแบบใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ และโซนคาเฟ่สุขภาพ ซึ่งวัตถุดิบอาหารกับขนมทุกจานก็ล้วนมาจากผลผลิตในไร่ทั้งสิ้น เรียกว่า สด สะอาด ปลอดสารพิษ แน่นอน

อ่านรีวิวเพิ่มเติมที่ พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ณ ไร่รื่นรมย์

********************************************************

10. สถานตากอากาศบางปู จ.สมุทรปราการ

ใครไม่อยากไปเที่ยวไหนไกล สถานตากอากาศบางปูก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะเดือนตุลาคมเป็นช่วงที่ฝูงนกนางนวลเริ่มบินหนีหนาวจากไซบีเรีย มองโกลเลีย ทิเบต และ จีน มาพักอาศัยที่บางปูทุกปี ซึ่งจะมีเยอะมากตอนปลายเดือน เนื่องจากบริเวณนี้เป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสัตว์น้ำและต้นไม้นานาชนิด จึงเป็นแหล่งอาหารชั้นเยี่ยมของเหล่านกนกนางนวล โดยนักท่องเที่ยวจะมายืนดูนกนางนวลริมสะพานสุขตา ซึ่งเป็นสะพานปลูกสร้างด้วยปูนยื่นออกไปในทะเล พร้อมกับโยนกากหมู หรือไก่ทอด เป็นอาหารให้กับนกอพยพเหล่านั้น

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ เที่ยวใกล้กรุง ดูนกนางนวล