โดย น้องบลาบลาบู๋ว์
น้องหมาเป็นสัตว์ที่อยู่คู่บ้านของมนุษย์อย่างเรา ๆ มาอย่างยาวนานค่ะ จนมีคำกล่าวที่ว่า น้องหมาคือเพื่อนที่ดีดีสุดของมนุษย์ แต่พี่ ๆ รู้กันไหมคะ ว่าน้องหมาเองก็อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน หลายพันปีแล้วค่ะ ซึ่งสุนัขท้องถิ่นของไทยเราเอง นอกจากไทยหลังอานและบางแก้วแล้ว ยังมีสายพันธุ์อื่น ๆ อีก ซึ่งในปัจจุบันน้อง ๆ เหล่านั้นได้สูญพันธุ์ หรือมีลักษณะที่เปลี่ยนไปจากเดิม
นอกจากนั้นยังมีความเชื่อต่าง ๆ ในการเลือกเลี้ยงน้องหมาด้วยนะคะ วันนี้น้องบลาบลาบู๋ว์ได้รวบรวม ประวัติศาสตร์ตำนานหมาไทย มาให้พี่ ๆ ฟังกันค่ะ ว่าแล้วก็เริ่มกันเล้ยยยยย
คำว่าสุนัขกับหมามาจากไหน คำว่า ”สุนัข” มาจากภาษาบาลี – สันสกฤต คำว่า ”สุ” แปลว่าความดีงาม และคำว่า “นัข” แปลว่าเล็บ รวมกันก็จะเป็น “ผู้มีเล็บสวยงาม” ค่ะ มากันที่คำว่า “หมา” กันต่อค่ะ หมา มาจากภาษาเขมรในยุควัฒนธรรมทวารวดี และวัฒนธรรมเขมรหรือเรียกง่าย ๆ ว่าขอมโบราณค่ะ
อย่างที่น้องบลาบลาบู๋ว์ได้บอกไปข้างต้นนะคะ ว่าหมาไทยไม่ได้มีแค่ไทยหลังอานและบางแก้ว น้องหมาไทยแต่เดิมแล้วมีถึง 4 สายพันธุ์เลยค่ะ ได้แค่ ไทยหลังอาน ไทยโบราณ บางแก้ว และไทยไร้ขนค่ะ ซึ่งทั้งไทยโบราณและไทยไร้ขนในปัจจุบันนั้นหายากมากกกก
โดย ไทยโบราณจะเป็นน้องหมาที่สง่า ขนสั้นเกรียน ตัวไม่ใหญ่สักเท่าไร เลี้ยงง่ายอยู่ง่าย รักเจ้าของมาก ๆ แต่อิ้นดี้ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ขี้อ้อน ส่วยหมาไทยไร้ขนก็ตามชื่อเลยค่ะ น้องจะไม่มีขน (นึกภาพง่ายๆก็แมวสฟิงซ์ เวอร์ชั่นหมาค่ะ) มีถิ่นกำเนิดที่แถว ๆ ขอนแก่นและโคราชค่ะ โดยทั่วไปมักจะเป็นน้องหมาที่ดุ ใจกล้า ว่องไว อยู่กินง่ายค่ะ
หมาเป็นการพัฒนามาจากตระกูลหมาป่า รวมไปถึงหมาไทยด้วยค่ะ โดยหมาไทยพัฒนามาจากหมาป่า แถบประเทศจีน เช่นพวกน้อง ๆ หมาใน หมาป่าทิเบอตัน หมาป่าพื้นเมืองของอินเดีย ทำให้หมาไทยส่วยใหญ่จะมีขนสั้น หูใหญ่ หางเรียวค่ะ
หลักฐานสำคัญของสุนัขในประเทศไทยก็คือ ภาพเขียนสีที่มีน้องหมาอยู่ด้วยบนเพิงผาหินปูน ที่เขาวังกุลา จังหวัดกาญจนบุรี คาดว่าอายุประมาณ 3,500-4,000 ปี อีกทั้งยังมีภาพของน้องหมาที่อยู่ร่วมกับคนที่ เขาปลาร้า อุทัยธานี และภาพน้องหมาตัวผู้ที่อยู่ท่ามกลางมนุษย์ และนายพรานที่เขาจันทร์งาม จังหวัดโคราชที่น่าจะมีอายุราว ๆ 3,200 – 3,500 ปีค่ะ
ทางด้านผาแต้มที่จังหวัดอุบลราชธานีเองก็มีภาพเขียนเป็นรูปน้องหมาช่วยมนุษย์ล่าสัตว์ด้วยค่ะ ซึ่งนอกจากภาพเขียนแล้ว ที่จังหวัดอุดรธานียังพบโครงกระดูกน้องหมาบ้านโบราณที่ถูกฝังไว้ คาดว่าน่าจะมีอายุราว ๆ 2,500 – 3,000 ปีอีกด้วยคร่าาาาา
มาต่อกันที่พิธีกรรมของคนกับน้องหมากันค่ะ มีร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข่องกันระหว่างคนกับน้องหมา ที่ตีความได้ว่า เป็นการฆ่า แล้วนำศพไปฝังเพื่ออุทิศให้กับเจ้าของที่ตาย (ง่ายๆ คือเจ้าของตายแล้วให้หมาตายไปกับเจ้าของด้วยอะค่ะ) ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ก็ถูกโต้แย้งด้วยหลักฐานจากโคราช ว่าน้องหมาที่พบในหลุมนั้น เกิดจากการตายโดยธรรมชาติ และเจ้าของก็นำร่างน้องไปฝังกับเจ้าของที่ได้เสียไปก่อนหน้าค่ะ โดยบางหลุมจะมีถาดน้ำถาดอาหารอยู่ในหลุมด้วยค่ะ
ทางวัดลาด จังหวัดเพชรบุรี เองก็มีตำราที่แสดงถึงลักษณะของน้องหมาที่ดี หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สกุลสุนัขค่ะ โดยมีเนื้อหาดังนี้
- สุนัขใดตัวขาว สี่เท้าดำงามดี เลี้ยงไว้เศรษฐีเงินทองครามครัน
- สุนัขตัวใดหางดอกสิ้นทั้งนั้น สู้ดีมีเผ่าพันธุ์ ใครเลี้ยงหมาตัวนั้นนานไปจะได้ดี
- สุนัขตัวใดมีขนเหลือง สี่เท้าขาวดังสำลี เลี้ยงไว้จะได้ดี ให้มั่งมีเงินทอง
- ต้องดังท่านกล่าวอันสมพอง ขนนั้นงามลำยอง เกิดเงินทองมากทุกวัน
- สุนัขใดขนขาวแดงแกมกัน เลี้ยงไว้อย่าเพิ่งหน่าย จะบอกขุมทองให้ในแผ่นดิน
- สุนัขใดสิบนิ้วท้าวเล็บดังกล่าวไว้ จำคาบเอาทรัพย์สินมาให้ เลี้ยงไว้เถิดไม่เสียแรง
- หมาเชื้อนอกกว่านี้ มันไม่ดีอย่ายอแสง เลี้ยงไว้จะเสียแรง มิได้เกิดผล
จบสกุลสุนัขเพียงเท่านี้
ทั้งหมดที่น้องบลาบลาบู๋วเล่ามา จะเห็นว่าน้องหมากับมนุษย์มีความผูกพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ซึ่งเมื่อกาลเวลาเป็น อะไร ๆ ก็เปลี่ยน น้องหมาในอดีตนั้นจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบไหนไม่มีใครสามารถรู้ได้แน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม น้องหมาเล่านี้ก็เต็มไปด้วยพลังบวก ความน่ารัก และความซื่อสัตว์เสมอไม่แปลเปลี่ยนตามกาลเวลา และน้องบลาบลาบู๋ว์ ขอย้ำว่าตำราก็เป็นแค่ตำนาน ไม่ควรหยิบมาใช้หรือตัดสนในปัจจุบันน้าาาา
ที่มา
ชาวเรือ ชายเล ไม่เห็นใครพูดถึง ไอ้เขียว ปากมอมเลย ไอ้เขียวหมาวัด หายไปไหน
02 ธ.ค. 2566 เวลา 06.01 น.
ดูทั้งหมด