ไลฟ์สไตล์

ฉลาด ขยัน ทำงานหนัก คำต้องห้ามตอนสัมภาษณ์งาน ไม่ชี้ทักษะเจาะจง

กรุงเทพธุรกิจ
อัพเดต 08 มี.ค. เวลา 21.06 น. • เผยแพร่ 09 มี.ค. เวลา 01.25 น.

วัยทำงาน รุ่นใหม่ ที่เพิ่งจะก้าวเข้าสู่โลกการทำงานได้ไม่นาน อาจต้อง การคำแนะนำการหางานและการสัมภาษณ์งาน ให้มากขึ้น เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ก่อนจะลงสนามคว้างานที่คาดหวังไว้มาให้ได้ หนึ่งในคำแนะนำที่น่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย จากปากของอดีตหัวหน้าฝ่าย HR ของบริษัท Microsoft ก็คือ "อย่าพูดแค่คำว่า ฉันฉลาด ขยัน และเป็นคนทำงานหนัก" ตอนสัมภาษณ์งาน อาจทำให้พลาดงานนั้นแบบไม่รู้ตัว

ซาบินา นาวาซ (Sabina Nawaz) เป็นโค้ชด้านการบริหารระดับสูงที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี ก่อนจะก่อตั้งบริษัทของตัวเอง เธอเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายทรัพยากรบุคคล ที่ Microsoft มานานถึง 15 ปี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากประสบการณ์ของเธอพบว่า มีสัญญาณเตือนหลายอย่างที่ทำให้เธอไม่ประทับใจในการสัมภาษณ์งานผู้สมัครหลายราย เช่น มาสาย ตั้งกล้องไม่ถูกตำแหน่ง (หากเป็นการสัมภาษณ์ออนไลน์) หรือแม้แต่ไม่ส่งข้อความขอบคุณหลังสัมภาษณ์

"อีกหนึ่งข้อผิดพลาดสำคัญคือ การไม่เตรียมตัวพูดถึงจุดแข็งของตัวเอง มีคนมากมายที่ไม่ใส่ใจเรื่องพื้นฐานเหล่านี้" นาวาซ บอก แต่เธอก็มีวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้ผู้สมัครงานมือใหม่สามารถดึงจุดเด่นของตัวเอง แสดงออกมาให้ตัวแทนบริษัทเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น

อย่าพูดแค่คำว่า "ฉันฉลาด ขยัน ทำงานหนัก" เพราะมันไม่เจาะจงถึงทักษะที่มี

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะสัมภาษณ์งานหากถูกถามถึงจุดแข็งของตนเอง หลายคนมักตอบแบบกว้างๆ เกินไป จนไม่สามารถสื่อถึงตัวตน หรือทักษะความสามารถที่แท้จริงได้ นาวาซ บอกว่า "ผู้สมัครงานมักจะบอกว่า พวกเขาฉลาด ฉันขยัน และทำงานหนักจนโครงการสำเร็จลุล่วงได้ ซึ่งมันก็ดีนะ แต่มันดูธรรมดาเป็นสิ่งที่ทุกคนพูดเหมือนกันหมด จนทำให้คุณไม่โดดเด่น"

ดังนั้นนาวาซจึงแนะนำว่าสิ่งที่ผู้สมัครควรทำแทนคำพูดเหล่านั้น ก็คือ หาสิ่งที่ทำให้คุณแตกต่างจากคนอื่น และเล่าออกมาเป็นเรื่องราวที่ทำให้เห็นภาพชัดเจน

โดยลองคิดถึงตัวอย่างการทำงานหรือกิจกรรม 20 - 30 เรื่อง จากประสบการณ์ส่วนตัว หรือโครงการที่คุณเคยทำ ทั้งในที่ทำงานและชีวิตส่วนตัว จากนั้นคัดเลือกเรื่องที่คุณทำด้วยตัวเอง สนุกกับมัน และภูมิใจในผลลัพธ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเมื่อวานนี้หรือเรื่องในอดีตย้อนกลับไปสมัยเด็กก็ตาม

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จากนั้นให้ดูว่า จุดแข็งอะไรที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุด เช่น คุณเป็นคนเรียนรู้เร็วหรือเปล่า? คุณชอบสร้างอะไรใหม่ๆ ไหม? แล้วในบรรดาจุดแข็งเหล่านี้ อะไรที่ทำให้คุณแตกต่างและเหมาะกับงานที่สมัครมากที่สุด?

สร้าง "คลังเรื่องราว" ที่สะท้อนความสำเร็จของคุณ

นาวาซอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า เมื่อพูดถึงการนำเสนอจุดแข็งในการสัมภาษณ์ ให้ผู้สมัครงานแบ่งเรื่องราวออกเป็นสองส่วนหลัก คือ ปัญหา และ วิธีที่คุณแก้ไขมัน โดยใช้เวลาประมาณ 50% อธิบายปัญหาที่เคยประสบมาก่อน และใช้เวลาอีก 50% ที่เหลือ อธิบายว่าคุณใช้จุดแข็งของคุณอย่างไรในการแก้ปัญหานั้น พูดง่ายๆ คือ ให้ทำตามสเต็ปดังนี้

1. เริ่มต้นด้วยการระบุจุดแข็งของคุณ

2. อธิบายให้ละเอียดว่าปัญหาคืออะไร

3. อธิบายวิธีแก้ไขปัญหานั้น พร้อมเชื่อมโยงความสำเร็จกลับไปที่จุดแข็งของคุณ

สุดท้าย อย่าลืมพูดถึงผลลัพธ์ของสิ่งที่คุณทำ เช่น "สุดท้ายแล้วเราปิดดีลลูกค้าให้บริษัทที่ปรึกษาของเราได้ ไม่ใช่แค่สัญญามูลค่าหลายล้านเหรียญ แต่ลูกค้ายังต่อสัญญาไปอีก 5 ปีติดกัน" เป็นต้น

ในการเรียน ทำกิจกรรม และประสบการณ์การทำงานในอดีต ล้วนแต่สามารถสร้าง "คลังเรื่องราว" ซึ่งเป็นชุดของเรื่องราวที่สะท้อนความสำเร็จของผู้สมัครงานได้ทั้งนั้น หลังจากนี้เมื่อต้องสัมภาษณ์งาน คุณก็จะมีเรื่องราวพร้อมใช้หลายสิบเรื่อง

ในท้ายที่สุดนาวาซแนะนำให้วัยทำงานทุกคนฝึกฝนในวิธีแบบเดียวกันนี้ เพราะไม่ว่าคุณจะเจอคำถามอะไร คุณจะสามารถเลือกใช้เรื่องราวที่เหมาะสมที่สุดมาเล่า เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณมีคุณค่าต่อองค์กรนั้นจริงๆ

อ้างอิง : CNBC

ดูข่าวต้นฉบับ