สภาเภสัชกรรมเผยมีร้านยาคุณภาพที่ผ่านการอบรมเพื่อดูแลโรคทั่วไปหรือการเจ็บป่วยเล็กน้อย(common illnesses) 16 อาการ แก่ผู้ใช้สิทธิบัตรทองแล้วกว่า500 แห่ง และจะเพิ่มเป็น1,500 แห่งทั่วประเทศ ขณะนี้มีร้านยาบางแห่งเริ่มให้บริการแล้ว เช็ครายชื่อได้ที่เว็บไซต์ สปสช. หรือสังเกตจากสติกเกอร์
ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช อุปนายกสภาเภสัชกรรม คนที่2 เปิดเผยว่า ด้วยความร่วมมือระหว่างสภาเภสัชกรรมและสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) สำหรับบริการดูแลโรคทั่วไปหรือการเจ็บป่วยเล็กน้อย(common illnesses) ให้แก่ผู้มีสิทธิบัตรทองที่ไปรับบริการที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาและการดูแลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางไปแออัดที่โรงพยาบาล
ภก.ปรีชา กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ เกิดจากในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ร้านยาได้มีส่วนร่วมช่วยดูแลประชาชน ทั้งโครงการแจกATK การให้บริการ“เจอ แจก จบ” ซึ่งจ่ายยาและดูแลอาการทั่วไปที่เกิดจากโควิด มีการติดตามอาการหลังได้รับยา และได้รับเสียงชื่นชมจากประชาชนเป็นอย่างมากเพราะรู้สึกว่าได้รับความใส่ใจ อีกทั้งสะดวกในการมารับบริการ
ดังนั้น ในปีงบประมาณ2566 สภาเภสัชกรรมมองว่าเนื่องจากประชาชนเข้าไปรับบริการที่โรงพยาบาลจำนวนมากจนเกิดความแออัดอย่างมาก ขณะที่แพทย์ก็มีภาระต้องดูแลทั้งผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก ซึ่งหากมีหน่วยบริการที่ลดความแออัดได้ก็จะเป็นเรื่องดี อีกทั้งยังทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งทาง สปสช.ก็ตอบรับในการให้ร้านยาเข้ามาเป็นหน่วยบริการในระบบบริการปฐมภูมิ จนเป็นที่มาที่ให้ร้านยาดูแลอาการเจ็บป่วยทั่วๆ ไป ซึ่งส่วนมากมักเป็นอาการที่พบเจอในลูกค้าที่มาซื้อยาอยู่แล้ว
ภก.ปรีชา กล่าวอีกว่า ในการดำเนินการดังกล่าวนั้น สภาเภสัชกรรมมุ่งเน้นในเรื่องการให้บริการที่มีคุณภาพและมาตรฐาน เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ นอกจากต้องผ่านมาตรฐานGPP ของกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จะต้องเข้าร่วมเป็นร้านยาคุณภาพตามเกณฑ์ที่สภาเภสัชกรรมกำหนด เมื่อขึ้นทะเบียนร้านยาคุณภาพแล้ว ยังต้องเข้ารับการอบรมในการดูแลผู้ป่วย เช่น เมื่อผู้ป่วยมาที่ร้านจะซักอาการอย่างไร ดูแลอย่างไร มาตรฐานการจ่ายยาเป็นอย่างไร เมื่อผ่านการอบรมแล้วยังต้องสอบให้ผ่านเกณฑ์จึงจะได้ใบประกาศนียบัตรรับรองและสามารถให้บริการดูแลโรคทั่วไปได้
“ในส่วนของcommon illnesses ที่เภสัชกรร้านยาสามารถให้การดูแลผู้ป่วยได้นั้น จะมี16 กลุ่มอาการ อาทิเช่น ปวดศีรษะ ปวดไมเกรน ไอ หวัด มีน้ำมูก ท้องเสีย ปวดท้อง ปวดกล้ามเนื้อ ตกขาว เป็นผื่นคัน อาการปวดกระดูกต่างๆ ฯลฯ ซึ่งอาการเหล่านี้หากไปโรงพยาบาลจะเสียเวลามาก ผู้ป่วยส่วนมากจึงมักจะเลือกมาที่ร้านยาแทน ดังนั้น เมื่อมีร้านยาที่เข้ามาเป็นหน่วยบริการในระบบของ สปสช.แล้ว ผู้ป่วยก็สามารถใช้สิทธิบัตรทองรับบริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการของประชาชน เมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยก็สามารถไปที่ร้านยาได้เลย” ภก.ปรีชา กล่าว
สำหรับขั้นตอนการเข้ารับบริการนั้น ผู้ป่วยมาสามารถเดินไปที่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้เลย โดยสังเกตที่หน้าร้านจะมีสติกเกอร์“ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย” เมื่อเข้าไปแล้วเภสัชกรจะขอบัตรประชาชนไปเสียบเครื่องอ่าน เพื่อตรวจสอบว่าเป็นสิทธิบัตรทองหรือไม่ จากนั้นก็จะซักประวัติและจ่ายยาพร้อมให้คำแนะนำการใช้ยาและการปฏิบัติตัวต่างๆ แต่หากเป็นอาการที่ไม่อยู่ใน16 กลุ่มอาการ เภสัชกรก็จะแนะนำให้ไปพบแพทย์ที่คลินิกหรือโรงพยาบาล
“ระบบของร้านยาจะมีแอปพลิเคชันที่บันทึกข้อมูล ตัวแอปฯ จะบอกว่าเจ็บป่วยอาการอะไรตรงกับมาตรฐานการรักษาในหมวดไหน มีรายการยาไหนบ้างที่สามารถจ่ายได้ เภสัชกรก็จะจ่ายยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยรายนั้นๆ และเมื่อจ่ายยาไปแล้วยังมีการติดตามอาการต่ออีกภายใน72 ชั่วโมงถึงจะปิดเคสได้ และระหว่างนั้นหากคนไข้อาการไม่ดีขึ้น ร้านยาก็จะมีระบบส่งต่อไปพบแพทย์ต่อไป”ภก.ปรีชา กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีร้านยาที่ผ่านการอบรมแล้ว800 แห่ง ได้นำรายชื่อขึ้นเว็บไซต์แล้วประมาณ500 แห่งและจะทยอยขึ้นเรื่อยๆ จนครบ นอกจากนั้นในเร็วๆนี้จะมีร้านยาที่ผ่านการอบรมรอบที่2 อีกกว่า1,000 แห่ง รวมแล้วในอนาคตอันสั้นจะมีร้านยาที่ให้บริการโรคทั่วไปกว่า1,500 แห่งทั่วประเทศ ขณะเดียวกันสภาเภสัชกรรมก็จะประชาสัมพันธ์เชิญชวนร้านยาอื่นๆเข้ามาร่วมโครงการให้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี ในส่วนของการให้บริการนั้น ขณะนี้เริ่มให้บริการในบางร้านได้แล้ว โดยผู้มีสิทธิบัตรทองสังเกตที่หน้าร้านจะมีสติกเกอร์“ร้านยาคุณภาพของฉัน ให้บริการเจ็บป่วยเล็กน้อย” หรือเข้าไปดูรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้ที่https://www.nhso.go.th/downloads/204
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์
• ไลน์ สปสช. พิมพ์ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6
- Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติhttps://www.facebook.com/NHSO.Thailand
Airtip โครงการนี้ดีสุดๆค่ะเพราะป้องกันประชาชนซื้อยาชุดกินเองและอำนวยสะดวกแก่คนทำงานคนไม่ค่อยมีเวลาไปหาหมอต้องเดินทางไกลตลอดจนยังช่วยแบ่งเบาภาระบุคลากรทางแพทย์โรงพยาบาลด้วยค่ะ
04 พ.ย. 2565 เวลา 01.30 น.
กอบกุล โครงการนี้ดี ปัจจุบัน คนก็ซื้อยากินเองมากพอควร
04 พ.ย. 2565 เวลา 00.46 น.
Thongchai น่าจะครอบคลุมสิทธิประกันสังคมด้วย ปวดหัวจะไปเอายาก็ต้องไปโรงพยาบาลอย่างเดียว
04 พ.ย. 2565 เวลา 01.38 น.
Surakiat สิทธิ์อยู่ต่างจังหวัดแล้วใช้ในกรุงเทพใด้รึเปล่าครับ
04 พ.ย. 2565 เวลา 01.17 น.
Vanida โครงการดีๆ ส่วนใหญ่มาพร้อมกับการทุจริต
โครงการคนละครึ่ง ร้านค้าที่รับ หายไปเยอะมาก ถามแล้วได้ความว่า โดนภาษียังผ่อนไม่หมดเลย พวกนี้ขาดสำนึกว่าเมื่อมีรายได้ ก็ต้องจ่ายภาษีด้วย
โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โดนเรียกไปเป็นพยาน รีสอร์ทที่ไปพักคงจะเอาชื่อไปเวียนเทียน
สรุปประเทศนี้ โกงกันตั้งแต่ นักการเมือง เจ้าของกิจการจนถึงปชช. ทั่วไป
เอากันเข้าไป
04 พ.ย. 2565 เวลา 02.22 น.
ดูทั้งหมด