ผลวิจัยสถานการณ์ความรุนแรง และละเมิดสิทธิผู้สูงอายุ พบว่าหลานและคนในครอบครัวทำร้ายและคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ผู้สูงอายุมากที่สุด
งานวิจัย การศึกษาปัญหาและความเสี่ยงในการถูกละเมิดสิทธิและประเมินสถานการณ์ เพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้สูงอายุ ที่จัดทำโดยมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย พบว่าความรุนแรงและการละเมิดสิทธิ์ผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้น โดยปัญหาที่พบมากที่สุด คือ ความรุนแรงด้านจิตใจ เช่น พูดไม่ดี ทะเลาะ ทำให้เสียใจน้อยใจ บางครั้งผู้สูงอายุรู้สึกว่าลูก-หลานไม่เข้าใจ ไม่มีเวลาให้ และไม่สำคัญ รองลงมา คือ ปัญหาการทอดทิ้ง ไม่ดูแล จากสถิติของศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 รายงานผู้สูงอายุพลัดหลง สูญหาย เร่ร่อน และขาดผู้ดูแล 3 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นเป็น10 เท่า
นอกจากนี้ ปัญหาความรุนแรง ถูกเอาประโยชน์ในด้านทรัพย์สินคนในครอบครัว หรือถูกหลอกให้ทำธุรกรรมต่าง ๆ ถูกหลอกให้ซื้อสินค้าและทำธุรกรรมในปี 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 700 ราย
ซ้ำร้ายคนที่ทำร้ายร่างกาย มักเป็นคนใกล้ตัว ข้อมูลส่วนใหญ่พบว่า ผู้ทำร้ายมีปัญหาสุขภาพจิต หรือติดสุรา สารเสพติด เป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดความรุนแรง และสุดท้ายผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพัง ถูกข่มขืน ล่วงละเมิดทางเพศจากคนในครอบครัว
สสส.และผู้วิจัย ขอให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งหน่วยงานขึ้นมาพิทักษ์สิทธิของผู้สูงอายุ มีกลไกช่วยเหลือคุ้มครอง
.... ใช่ทุกวันนี้ลูกหลานไม่ค่อยสนใจ พ่อแม่ที่แก่ชรา บางคนเอาลูกมาทิ้งให้เขาเลี้ยง พอโตนิดก็รีบเอาลูกไปไม่ห่วงความรู้สึกที่เขารักและถนอม บางคนก็ปล่อยให้พ่อแม่ที่แก่ชราเลี้ยงตามมีตามเกิด เลี้ยงแบบตามใจ ไม่ดัดนิสัย เด็กเสียคนเยอาะ
22 ก.พ. 2561 เวลา 06.14 น.
pornthip คนก็มีทั้งดีและไม่ดี ทุกเพศทุกวัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ดีก็ว่าไปตามดี ไม่ดีก็มีแยะ
22 ก.พ. 2561 เวลา 05.54 น.
เวรกรรมมีจริง. ทำสิ่งใดไว้ ย่อมได้สิ่งนั้น แล้ววันนึงจะเข้าใจ
22 ก.พ. 2561 เวลา 05.26 น.
Zircon การด่าผู้สูงอายุไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิแต่เป็นการแสดงความจริงใจต่างหาก ไม่ควรตั้งมูลนิธิใดเกี่ยวกับผู้สูงอายุเปลืองงบ ผู้สูงอายุที่ทำตังเป็นภาระสมควรโดนด่าอย่างยิ่ง
22 ก.พ. 2561 เวลา 05.08 น.
Tas ต้องมีจริยธรรมมากขึ้น
22 ก.พ. 2561 เวลา 05.06 น.
ดูทั้งหมด