“แอมป์” บ้าฤกษ์ยาม อยากให้เมียผ่าแต่เมียขอคลอดวิธีธรรมชาติ เสียวสะท้าน กลัวพลาดวินาทีสำคัญ

“แอมป์ พีรวัศ” คาดเมียคลอดต้นเดือน ก.พ. เผยอยากให้ผ่าแต่เมียขอคลอดวิธีธรรมชาติ ยอมรับบ้าเรื่องฤกษ์ยาม กลัวพลาดวินาทีสำคัญ รอลูกลืมตาดูโลกค่อยตั้งชื่อ อยากให้ถูกต้องตามตำรา ไม่อยากให้มีตัวกาลกิณี จะเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก

เผลอแป๊บเดียว “เบลล์” ภรรยาก็ใกล้จะคลอดแล้ว สำหรับ “แอมป์ พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์” ซึ่งเจ้าตัวตื่นเต้นมาก ถึงขนาดบอกลากองถ่ายเอาไว้แต่เนิ่นๆ เพราะกลัวว่าตัวเองจะพลาดวินาทีสำคัญภรรยาคลอดลูกวิธีธรรมชาติ ยอมรับอยากให้เมียผ่าคลอด แต่เมียไม่ยอมผ่า

“ไม่ได้เห่อนะผมว่า เราอยากได้อะไรที่ตอนเด็กๆ เราไม่มี เราก็ทำให้ดีที่สุด จะเรียกว่าเห่อได้ไงผมลูกคนแรก ก็ดีใจ เราอยากจะมีมาตั้งนานแล้ว เรามีเขาแล้วเราก็อยากจะเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเขา”

“เตรียมของไว้ให้เขาเยอะมากครับ ตอนนี้ก็ไปเกาะกลุ่มพี่ๆ ที่เขาเป็นคุณพ่อ คอยถามว่าอันนั้นทำยังไง อันนี้เป็นยังไง ตอนนี้บอกเลยว่าโลกของผมนั้นได้เปลี่ยนไป ปกติเวลาเราไปเจอเพื่อนเราก็จะคุยกันว่าไปเที่ยวที่นั่นที่นี่มาสนุกดี แต่ตอนนี้โลกของผมเปลี่ยนไป กลายเป็นพาภรรยาไปว่ายน้ำ ไปเจอครอบครัวคุณแม่คุณพ่อมือใหม่เหมือนกัน ก็จะคุยกันว่าอันนี้ดีมั้ย ใชัอันนี้ดีรึเปล่าผมก็ได้เรียนรู้ ตัวผมก็มีคัมภีร์เลี้ยงลูกอ่อนอยู่ ผมไปซื้อมาอ่าน แต่ต่อให้ในหนังสือจะเขียนยังไงก็ไม่สู้เจอกับตัวเอง ฉะนั้นเราก็ต้องถามประสบการณ์จากคนที่เคยเจอมา ช่วงนี้ผมก็มักจะโทร.หาพี่จิม (เจจินตัย) คุณพ่อน้องพลอยเจว่าอันนี้ดีมั้ย จะต้องซื้อมั้ย อย่างไรพี่เขาก็บอกว่าใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบ บางอันมันแทบไม่ได้ใช้เลย เราก็ค่อยๆ ศึกษาไป”

อยากให้ผ่าแต่เมียอยากคลอดเองตามธรรมชาติ รับเชื่อเรื่องดวงมาก แต่คงไปกำหนดชะตาฟ้าไมได้

“เรื่องเจ็บเตือนก็มีแล้วครับ วันนั้นพอดีผมอยู่ต่างจังหวัด ภรรยาหน้าท้องเกร็งทั่วท้องชั่วโมงหนึ่ง ต้องรีบไปโรงพยาบาล ผมก็ใจจดจ่อ กลัวเครื่องบินดีเลย์มาเจอวินาทีสำคัญไม่ทัน ตอนนี้ก็เตรียมไว้หลายแผนมาก แต่พอไปถึงโรงพยาบาลคุณหมอบอกว่ายัง อีก 2 วันถัดมาก็เริ่มมีน้ำใสๆ ออกมาเตือน จากที่ฟังหลายๆ คนเขาก็บอกว่าหลังจากเจ็บท้องเตือนก็ไม่น่าเกิน 10 วันหลังจากนี้ วันที่ 22 นี้ก็ 9 เดือนแล้ว ตอนนี้ก็เตรียมตัวไว้ให้พร้อม ภรรยาผมเขาอยากคลอดเอง ผมเองกลัวพลาดวินาทีสำคัญก็เสนอให้ผ่ามั้ย เขาก็ไม่เอา ตัวผมบ้ามากนะเรื่องฤกษ์ยาม ผมเชื่อเรื่องดวง แต่พอสุดท้ายมาเป็นลูกเราเองแค่เขาเกิดมาก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว เราจะไปกำหนดชะตาฟ้าได้อย่างไรในเมื่อเขามาแล้ว ผมอยากให้เขาเป็นเขา ไม่ใช่ว่าเด็กคนนี้เราเลือกมาแล้วว่าให้นิสัยอย่างนี้ เกิดตรงนี้แล้วจะรวย สุดท้ายดวงเราอาจจะเลี้ยงเขาไม่ได้ก็ได้ เขาอาจจะไม่เชื่อฟังเรา ฉะนั้นให้เขาเป็นเขาที่เขาอยากอยู่กับเราผมว่าน่าจะดีที่สุด”

เข้าใจหัวอกพ่อ บอกกองถ่ายแต่เนิ่นๆ ไม่อยากพลาดวินาทีสำคัญ

“ผมได้บอกทางกองไว้แล้วว่าถ้าเกิดกรณีนี้ผมขออนุญาตนะครับ ก็คงต้องหาทางมาเจอเขาให้เร็วที่สุด แต่คงไม่ถึงขั้นหยุดงานไปเลย ผมหยุดเองไม่ได้เพราะมันจะกระทบหลายคน แต่ถ้าถึงวินาทีนั้นผมว่าทุกคนเข้าใจว่าผมต้องไป ผมตื่นเต้นมาก กลัวจะไปไม่ทันมากๆ เลย ไปสืบมาว่าท้องสาวถ้าเจ็บแบบจะแตกแล้วเร็วที่สุด 30 นาทีเท่านั้น กำหนดคลอดคร่าวๆ 11 - 19 กุมภาพันธ์ แต่นี่เตือนจะคลอดแล้ว เราเลยเสียวเป็นพิเศษ คุณหมอบอกว่าในครรภ์แข็งแรงมาก เราอัลตร้าซาวด์ทุกเดือน ล่าสุดเอารกมาบังหน้าแล้วดูดรกอยู่ ผลทุกอย่างดี แข็งแรงหมด”

“ก็ดูเห่อเนอะ ก็เห่อแหละ ตอนแรกก็ไม่เข้าใจว่าเวลาที่เรามีลูกเราจะรู้สึกยังไง ต้องลองมีดูครับแล้วคุณจะเข้าใจอาการของผม เชื่อว่าทุกคนที่กำลังจะเป็นคุณพ่อคุณแม่รู้สึกเหมือนผมกันหมด จะคิดแทนลูกไปหมด ผมเชื่อว่าสุดท้ายเด็กเขาจะเลือกของเขาเองว่าเขาต้องการอะไร เราแค่เตรียมความพร้อมไว้ให้เขาเท่านั้นเอง อย่างเช่น ลูกอยากเล่นเปียโน ไปลองดูมั้ย ไม่ชอบก็ไม่ต้องเรียน ผมคิดอย่างนี้เลย เพราะตอนเด็กๆ เราอยากเรียนแล้วเราไม่ได้เรียน ก็เดี๋ยวจะลองเสิร์ฟให้เขาดู อยากเรียนเต้น เราก็หาครูสอนเต้นไว้ให้ อยากเรียนร้องเพลงเราก็ไว้แล้ว อยากนั่งสมาธิเราก็หาคนสอนไว้”

เผย ท่าน ว. วชิรเมธี ตั้งชื่อไว้ให้ แต่รอลูกเกิดก่อนจะได้ตั้งทีเดียว ถูกต้องตามตำรา ไม่มีกาลกิณี

“ก็รอให้เขาเกิดมาก่อน จะได้ตั้งทีเดียวจะได้ตั้งถูกต้องตามตำราไม่มีกาลกิณี ท่าน ว.วชิรเมธี ท่านตั้งชื่อไว้ให้แล้วแต่ท่านก็รอให้ได้ฤกษ์ยามเกิดจริงก่อน จะได้ไม่เสียเวลาแก้ไปแก้มา”

“ตอนนี้ซ้อมอุ้มลูกเผื่อไว้ไง เพราะเรากลัวอุ้มไม่ได้ วันเด็กที่ผ่านมาผมลองไปอุ้มเด็กคนหนึ่ง ก็บ่นว่าหนักจังคุณพ่ออุ้มได้ยังไง เขาก็ตอบกลับมาว่าถ้าเป็นลูกตัวเองจะอุ้มได้เพราะเราอุ้มทุกวัน ช่วงนี้เลยพยายามฝึกไว้ ก็ตื่นเต้นครับ ตอนนี้ก็เตรียมแพ็กกระเป๋า ตอนนี้ภรรยาสุขภาพแข็งแรงมากก็เลยกลัวว่าเขาจะแข็งแรงจนอยากจะออกมาแล้ว ผมก็จะพูดกับลูกตลอดว่าจะได้เห็นหน้ากันแล้วนะลูก”