เมียเชื่อสนิทใจ ผัวปลิดชีพ เซ่นคำสั่งมท. "ให้ออกจากครู" แบกหนี้ 1.5 ล้าน

ยังไม่จบ กรณีช่างซ่อมจยย.ที่กาฬสินธุ์ ตัดสินใจปลิดชีพตัวเอง หลังภรรยา "ครูผู้ดูแลเด็ก" โดนคำสั่ง มท. ว.33 "ให้ออกจากราชการครูโดยพลัน" จากสาเหตุเครียดกับหนี้ก้อนโต 1.5 ล้าน เตรียมเดินหน้าทวงความเป็นธรรม 

วันที่ 25 ก.ย. จากเหตุสลด ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์เครียดจัด หลังภรรยาซึ่งเป็นครูผู้ดูแลเด็ก ถูกคำสั่ง ว.33 ซึ่งเป็นหนังสือจากกระทรวงมหาดไทยให้ออกจากราชการครูโดยพลัน จนสามีเกิดภาวะเครียดซึมเศร้า และได้ก่อเหตุอัตวินิบาตกรรม ทิ้งหนี้ก้อนโตกว่า 1.5 ล้าน และภาระเลี้ยงลูก 2 คนไว้ข้างหลัง ล่าสุดผู้สื่อข่าวติดตามบรรยากาศ ที่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 5 บ้านหนองคู ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านของนางปิยะวดี ภูผานม อดีตครูผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กบ้านโนนศิลาเลิง ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

หลังสูญเสียสามี คือ นายนิยม ภูผานม อายุ 43 ปี ไปอย่างไม่มีวันกลับ เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 12 กันยายน ด้วยการปลิดชีพตัวเอง สาเหตุมาจากความเครียด ประกอบกับป่วยซึมเศร้า ญาติได้เคลื่อนศพประกอบพิธีฌาปนกิจตามประเพณีที่วัดประจำหมู่บ้านเมื่อวานนี้ มีเพื่อนในวงการครู และญาติพี่น้องร่วมงานจำนวนมาก บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

นางปิยะวดี ภูผานม ครูผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กบ้านโนนศิลาเลิง ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย กล่าวว่า ยืนยันในสาเหตุการตัดสินใจของนายนิยมสามี เกิดจากความเครียดสะสม ว่า ถ้าตนถูกให้ออกจากครูศูนย์เด็กแล้ว ครอบครัวจะประสบปัญหาแน่นอน เนื่องจากภาระหนี้สินที่มีจำนวนมากถึง 1,500,000 บาท ที่หากตนยังได้รับราชการก็ยังจะมีเงินพอผ่อนทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย แต่ถ้าหากตกงานแล้วจะหาเงินที่ไหนมาผ่อนชำระหนี้ ลำพังรายได้จากการซ่อมรถจักรยานยนต์และขายอะไหล่เล็กๆ น้อย ก็แค่พอประทังชีวิตและใช้จ่ายในครัวเรือนเท่านั้น

ทั้งนี้ กรณีที่ตนถูกคำสั่ง ว.33 ให้ออกจากราชการ ได้นำมาปรับทุกข์ให้สามีฟังหลายครั้ง กลายเป็นความเครียดสะสม และเป็นสาเหตุให้ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตดังกล่าว  ซึ่งคำสั่ง ว.33 ดังกล่าว ไม่ใช่เพียงมีแต่สามีตนที่เครียดเท่านั้น จากการสอบถามเพื่อนในวงการครูศูนย์เด็ก ที่มีรายชื่อทั้ง 98 คน รวมทั้งคนในครอบครัวก็ตกอยู่ในอาการเครียดเช่นกัน หรือแม้แต่ตนเองตอนนี้ที่สูญเสียสามีไป ก็เครียดจุกอกจนพูดไม่ออก ได้แต่จุดธูปบอกวิญญาณสามีว่าจะต้องสู้ต่อไป จะอ่อนแอไม่ได้ ทั้งในฐานะที่เป็นทั้งพ่อและแม่ เลี้ยงลูก 2 คน และในฐานะครูที่ต้องทำหน้าที่อบรมสั่งสอนเด็กให้มีความรู้ให้ดีที่สุด

"เราเป็นครูด้วยจิตวิญญาณ มีใบประกอบวิชาชีพ มีใบประกาศรับรองเอกครูประถมวัยถูกต้องครบทุกประการ เราจะสู้ต่อไป และเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมคืนกลับมาให้ครูศูนย์เด็กทั้ง 98 คน และเพื่อศักดิ์ศรีของครูศูนย์เด็กเล็กทั่วประเทศ"

ด้านนายสมคิด หอมเนตร นักวิชาการอิสระในฐานะประธานเครือข่ายภาคประชาชนต่อต้านคอร์รัปชัน สมัชชาคุณธรรมแห่งชาติ กล่าวว่า ในวันอังคารที่ 17 กันยายนนี้ ตนและตัวแทนครูผู้ดูแลเด็กที่เดือดร้อนจะเดินทางไปยื่นหนังถือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านทางเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการ 3 ก ประกอกบด้วย 1.กจ. 2.กท. และ 3.ก.อบต. รวมทั้งปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้กำหนดมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาครูผู้ดูแลเด็กจำนวน 98 คนทั่วประเทศ ที่ถูกให้มีคำสั่งให้ออกจากราชการโดยพลัน เนื่องจากหนังสือเวียนฉบับวันที่ 23 สิงหาคม 2562 หรือที่เรียกว่าหนังสือ ว.33 นั้น เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะข้าราชการครูทั้งหมด 98 คน เข้ารับราชการครูผู้ดูแลเด็กตามการกำหนดมาตรฐานตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก พ.ศ.2553 ซึ่งคณะกรรมการ 3 ก. ให้การรับรองไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว แต่มาตรฐานกำหนดตำแหน่งครูผู้ดูแลเด็ก พ.ศ.2558 กำหนดมาตรฐานผู้ดูแลเด็กใหม่ เป็นการตรวจสอบคุณสมบัติย้อนหลัง ซึ่งกระทบครูผู้ดูแลเด็กทั้ง 98 คน

นายสมคิด กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา คณะครูได้เคลื่อนไหวคัดค้านมาโดยตลอด มีการนำเข้าที่ประชุมคณะ 3 ก.ไม่ต่ำกว่า 9 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข โดยครั้งที่สำคัญเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2559 หรือที่เรียกว่า ว.35 ได้มีการกำหนดมาตรการเยียวยาครูผู้ดูแลเด็กไว้อย่างชัดเจน แต่ในการประชุมครั้งที่ 6/2562 เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 คณะกรรมผู้ทรงคุณวุฒิคนหนึ่งกลับเสนอคัดค้านมาตรการเยียวยาครูผู้ดูแลเด็ก และเป็นที่น่าสังเกตว่า ตาม พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 หมวดที่ 1 ว่าด้วย อบจ.หมวดที่ 2 ว่าด้วยเทศบาล และหมวดที่ 3 ว่าด้วย อบต.กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการประชุมโดยตำแหน่ง แต่ในการประชุมครั้งนั้นกลับมีนายบุญธรรม เลิศสุขขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธานในที่ประชุม อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นคือ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ เข้าร่วมประชุมด้วย และมีรองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นอีก 1 คน คือ นายสันติทร ยิ้มละไม เข้าร่วมประชุมอีกด้วย และมีมติออกหนังสือ ว.33 ให้ข้าราชการครูผู้ดูแลเด็กทั้ง 98 คน ออกโดยพลันดังกล่าว

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตอีกว่าหลังออกมติเรื่องนี้แล้ว คณะรัฐมนตรีได้ย้ายนายสุทธิพงษ์ไปเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน

"สำหรับครูผู้ดูแลเด็กทั้งหมดนั้น หลังจากสอบเข้าบรรจุ ทุกคนได้ไปพัฒนาตนเอง ทั้งทุนกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและทุนส่วนตัวไปเรียนประโยชน์วิชาชีพครูเพิ่มเติมทั้ง 98 คน ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะสอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่งที่คณะกรรมการ 3 ก กำหนดไว้ และมีการศึกษาระดับปริญญาโทกว่า 80 คน จึงมีคุณสมบัติสมบูรณ์ทุกประการ"

ในส่วนของ นางปิยะวดี ภูผานม ครูผู้ดูแลเด็กศูนย์พัฒนาเด็กบ้านโนนศิลาเลิง ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ ก่อนหน้านั้นเป็นครูอัตราจ้างที่ อบต.โนนศิลาเลิงตั้งแต่ปี 2550 จึงเกินระยะเวลา 3 ปี ที่คณะกรรมการ 3 ก.กำหนด และตลอดที่ทำงานก็ได้พัฒนาตนเองจนจบ ป.โท ด้านบริหารการศึกษา ซึ่งก็มีคุณสมบัติครบถ้วน แต่กลับมีรายชื่อในคำสั่ง ว.33 ที่จะต้องให้ออกโดยพลัน ซึ่งหากประธานคณะกรรมการ 3 ก.คือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไม่พิจารณาทบทวนใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 31 จังหวัด ก็จะต้องนำรายชื่อครูเข้าที่ประชุม ก.จังหวัดต่อไป

"เรื่องดังกล่าวนี้ ทำให้นายนิยมสามีของนางปิยะวดีเกิดความเครียดที่ภรรยาได้ถูกออกจากราชการ จึงตัดสินใจผูกคอตาย เซ่นคำสั่ง ว.33 อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายนิยมเคยพูดกับภรรยาว่า หากไม่รับความเป็นธรรม และถูกให้ออกจากข้าราชการครูจะไปประท้วงโดยการแขวนคอตายที่หน้ากระทรวงมหาดไทย แต่ภรรยาห้ามไว้ แต่ก็ไม่นึกเขาว่าจะแขวนคอตายจริงๆ ดังนั้นจึงอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งการถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับเรื่องหนังสือ ว.33 เป็นการเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหา ก่อนที่จะมีโศกนาฏกรรมเพิ่มขึ้นมาอีก หรือมีผู้ไปแขวนคอประท้วงกระทรวงมหาดไทยจริงๆ".

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

• “ชวน” เผย กำหนดวันอภิปรายปมถวายสัตย์ ต้องรอผลหลังประชุม ครม.พรุ่งนี้
• "สภากาชาดไทย" เปิดรับบริจาค ช่วยเหลือผู้ประสบภัย "พายุโพดุล"
• ส่งออกทรุด-ภัยแล้งทำคนตกงาน สศช.ห่วงไทยรั้งที่ 11 โลกหนี้ครัวเรือนสูงสุด

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath