ไลฟ์สไตล์

เหตุที่ทำคุณคนไม่ขึ้น - ดังตฤณ

THINK TODAY
เผยแพร่ 28 ก.ย 2562 เวลา 17.05 น.

ทำดีกับใคร

ช่วยเหลือเขายามลำบาก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แล้วเขาไม่จดจำ

ได้สิ่งที่ต้องการแล้วหายไปเลย

หรือหนักกว่านั้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นอกจากไม่ตอบแทน

วันดีคืนดียังกลับมาแว้งกัดเข้าให้อีก

แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องเกิดกับใจคุณ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คือ รู้สึกเจ็บช้ำน้ำใจ

และหากเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ราวกับมีเสียงคำรามจากฟ้าเป็นระยะ ๆ ว่า

ชีวิตคุณต้องเป็นอย่างนี้แหละ

ก้มหน้าก้มตายอมรับซะเถอะ

ช่วยใครเมื่อไร เจอดีเมื่อนั้น

คุณก็จะไม่นึกอยากช่วยใครอีก 

เพราะรู้ตัวแล้วว่า 

อยู่บนเส้นทาง ‘ทำคุณคนไม่ขึ้น’ แน่ ๆ 

.

เมื่อมีใจหดหู่ นึกรังเกียจมนุษย์ 

ไม่อยากมองใครดี

ไม่มีแก่ใจทำบุญให้ทานกับคน

ก็เท่ากับตัดทางสร้างทานบารมีใหญ่ ๆ

เกิดใหม่ก็มีสิทธิ์อัตคัดขัดสน

ไม่มีคนช่วยเหลือเมื่อถึงคราวลำบาก

.

ถ้าเจ็บเกินกว่าจะศรัทธาการช่วยมนุษย์ได้อีก 

คิดอย่างนั้นก็แล้วไป ไม่ว่ากัน

เพราะเป็นเรื่องน่าเห็นใจอยู่

แต่หากนี่คือจุดใหญ่ที่ชวนให้สะกิดใจ

สงสัยแบบพุทธขึ้นมาว่า

ฉันเคยไปทำอะไรกับใครไว้

จึงต้องมาอยู่บนเส้นทางแบบนี้?

แล้วถ้าจะออกจากเส้นทางเสวยกรรมแบบนี้

ต้องทำบุญกรรมอันใด

จะช่วยเจือจางบาปเวรเก่า ๆ ลงเสียได้?

นั่นแหละ! จึงเริ่มได้ประโยชน์

จากการเป็นพุทธกันบ้าง

.

เริ่มต้นแรกสุด คือ ทำความเข้าใจ 

ที่ทำคุณคนไม่ขึ้นในชีวิตนี้ 

เพราะชีวิตก่อน ๆ

เคยทำตัวเป็นพวกไม่รู้คุณคนมาก่อน

หรือหนักกว่านั้น คือ เคยหักหลังคนที่มีบุญคุณ

ซึ่งอาจไม่ใช่คนอื่นคนไกล

ไม่ใช่คนที่ให้เงินร้อยล้านพันล้านอย่างที่คิด

แต่เป็นคนให้ชีวิต ให้เลือดเนื้อ

ซึ่งแพงกว่าร้อยล้านพันล้านมากนัก

.

พ่อแม่ผู้ให้เลือดเนื้อกับเรานั้น

แค่ไม่ตอบแทนท่านเลย

ปล่อยปละละเลย ก็นับว่าไม่รู้คุณแล้ว

แต่หนักกว่านั้น

บางชาติอาจรีดไถพ่อแม่ตลอดชีวิต

พูดจาสามหาวร้ายกาจกับพ่อแม่ตลอดเวลา

.

พ่อแม่เป็นแหล่งขยายบุญบาปขนาดใหญ่

ทำอะไรไว้กับพวกท่าน

ก็ขยายผลได้หนักกว่าทำกับคนทั่วไป 

แล้วพ่อแม่ก็เป็นรากของชีวิต 

บำรุงท่าน ก็เท่ากับบำรุงชีวิต 

หลงลืมท่าน ก็เท่ากับหลงลืมรดน้ำพรวนดินให้ชีวิต 

ถ้าชีวิตก่อนยังไม่เน่าเสีย

ก็อาจได้มาเห็นผลเน่าเสียเอาในชีวิตนี้เอง

.

เมื่อมองว่าพ่อแม่เป็นของใหญ่

เป็นนาบุญนาบาปอันใหญ่

ก็อาจใช้เป็นโอกาสทดลอง

เช่น ตั้งใจไว้ล่วงหน้าว่า

เมื่อได้อะไรดี ๆ มา จะนึกถึงพ่อแม่ก่อน

เผื่อแผ่ท่านก่อนเสมอ

พูดอะไรให้พวกท่านมีความสุขได้ ให้พูดเต็มที่

พูดอะไรให้พวกท่านระคายใจ ให้มีสติยั้งไว้

แล้วเลือกคำ หรือเลือกวิธีให้ระคายโสตน้อยที่สุด

.

นอกเหนือจากพ่อแม่ 

ก็ต้องเห็นค่าของคนที่มีบุญคุณอื่น ๆ ด้วย

เมื่อใครทำดีให้ อย่าดูเบา

ให้เห็นค่า ให้จดจำไว้เสมอ

และเมื่อมีโอกาสตอบแทนคุณ ก็อย่าช้า

อย่าตอบแทนด้วยความรู้สึกเสียไม่ได้

แต่ให้ตอบแทนด้วยความคิดว่า

เราจะสร้างจิตสำนึกที่ถูกต้องขึ้นมา

โดยอาศัยเขาเป็นฐาน เป็นที่ตั้ง

ยิ่งทำได้มากขึ้นเท่าใด

ยิ่งสะท้อนว่าจิตสำนึกสูงขึ้นเท่านั้น

.

คิดอย่างนี้ ทำอย่างนี้อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

นานไปจะกลายเป็นกรรมดีที่มีพลังคงเส้นคงวา

และผนึกรวมกันเป็นกระแสบุญใหญ่

เป็นกรรมใหม่ที่ให้ผลทันตาในชาติปัจจุบัน

อย่างที่เรียกกันว่า ‘ทิฏฐธัมมเวทนียกรรม’

ไม่ต้องรอข้ามภพก่อนจึงเห็นผล

อย่างน้อยจะมีส่วนช่วยเจือจางบาปเก่า

กระแสในตัวคุณจะเปลี่ยนไป

แม้ไม่ลำเลิกบุญคุณให้ใครอึดอัด

เขาก็จะเห็น จะรู้สึกว่า

ตัวคุณเป็นที่ตั้งของความสว่าง

ควรแก่การระลึกถึง ควรค่าแก่การตอบแทน

นึกถึงคุณแล้วทนไม่ได้ที่จะดูดาย เฉยชา

ยิ่งถ้าเห็นคุณลำบาก ก็จะอยากช่วยทันที

หรืออย่างน้อยที่สุด ก็ไม่ใจไม้ไส้ระกำ

ทำมึน จำบุญคุณไม่ได้

อยากกลับมาทำให้เจ็บช้ำน้ำใจ

แบบเดียวกับลูกเนรคุณ

ที่ประทุษร้ายได้แม้ผู้ให้กำเนิดตน!

ความเห็น 48
  • sujira
    ไม่เคยคิดว่าสร้างบุญคุณกับใคร​ แล้วจะได้ผลตอบรับเช่นไรค่ะ​ เลยทำสบายๆเท่าที่ทำได้​ แค่นี้ก็มีความสุขค่ะ​ ไม่เคยทวงถามถึงสิ่งที่จัดให้ใครเลยด้วย​ เพราะคิดว่าแค่ทำเราสุขใจ​ ไม่หวังใครต้องคิดว่านี่คือบุญคุณ
    29 ก.ย 2562 เวลา 07.09 น.
  • อานิสงฆ์ของในการช่วยเหลืออนุเคราะห์แก่บุคคลอื่นนั้น ย่อมสามารถที่จะทำให้จิตใจมีแต่ความสุขเสมอ หากแต่ก็ควรที่จะอยู่ในขอบเขตของความเป็นจริงทั้งสองฝ่าย และที่สำคัญไม่ควรที่จะหวังในผลตอบแทนกลับคืนมา.
    29 ก.ย 2562 เวลา 04.29 น.
  • สาธุค่ะในเรื่องแม่พ่อคือจริงมากๆค่ะ
    29 ก.ย 2562 เวลา 05.51 น.
  • nee
    สาธุค่ะ..ขอขอบคุณในบทความดีๆส่งมาชี้แนะนะคะ🙏🙏🙏🙏
    29 ก.ย 2562 เวลา 07.41 น.
  • ทำดีเพื่อหวังสิ่งประโยชน์ตอบแทนย่อมได้รับสิ่งกลับมาคือความทุกข์ใจความสุขของการทำดีคือการที่มีโอกาสได้ทำได้ให้ความสุขทางใจคือสิ่งตอบแทนเพราะคนที่ทำส่วนมากคือไปตั้งความหวังไว้ว่าต้องยังงั้นยังงี้เลยเป็นที่มาของคำว่าทำดีแล้วไม่ได้ดีมันก็ไม่ต่างกับการที่คิดว่าทำดีแล้วไปทวงบุญคุณเขา ใจเลยไม่สงบสุดท้ายตัวเองต้องทุกข์ใจเองนั่นเพราะไม่ได้ทำด้วยใจให้ไม่ได้เพราะใจกุศลอย่างแท้จริงมันก็เหมือนผ้าย้อมสีแต่เข้าไม่ถึงเนื้อผ้าแต่มาบอกว่าผ้าของฉันสีนั้นสีนี้สุดท้ายกลายเป็นผ้าสีตกเพราะเข้าไม่ถึงเหตุแห่งดีที่แท้
    29 ก.ย 2562 เวลา 08.58 น.
ดูทั้งหมด