ไลฟ์สไตล์

แก้กรรม ไสยศาสตร์มักง่าย - วินทร์ เลียววาริณ

THINK TODAY
เผยแพร่ 06 พ.ค. 2562 เวลา 10.37 น.

ถ้าคุณเป็นหนี้หลักล้านบาท จงแลกเหรียญ 1 บาท 5 บาท 10 บาทไปที่หน้าโบสถ์ จงอธิษฐานว่าหากคุณมีกรรมเคยโกงผู้ใด จะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี ขอให้พระประธาน หลวงพ่อ พระแม่ธรณีจงเป็นพยานว่าคุณขออโหสิกรรม นำเหรียญนั้นใส่ตู้ จบพิธี หรือคุณอาจเลือกวิธีทำบุญ เพียงระลึกถึงดวงจิตเดิมที่เคยเป็นหนี้สินในอดีต บอกให้จงหลุดพ้นเพราะคุณเกิดใหม่แล้ว

นี่เป็นวิธีแก้กรรมจากตำราแก้กรรมตำราหนึ่ง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ตำรานี้ไม่ได้บอกว่า เสร็จพิธีแล้ว หนี้จะหายไปหรือไม่

การแก้กรรมเป็นเรื่องฮิตในรอบหลายปีนี้ มันกินพื้นที่กว้างมาก ครอบคลุมทุกอย่างในชีวิตที่คุณไม่ชอบ ตั้งแต่หน้าตาไม่ดี คนไม่ชอบ ตกาน ไปจนถึงป่วยเป็นมะเร็ง ด้วยคำอธิบายว่า “มันเป็นกรรมเก่าแต่ชาติก่อน”

ตำราแก้กรรมตำราหนึ่งบอกว่าการที่ใครคนหนึ่งไม่รวยสักที ก็เพราะติดขัดที่กรรมเก่ายังคงส่งผลในชาติปัจจุบัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

และวิธีแก้กรรมในตำราแทบทั้งหมดเน้นเพื่อให้รวย

ตำราหนึ่งสอนวิธีลดกรรมดังนี้

- ไม่มีลูก เกิดจากกรรมที่ทำร้ายลูกสัตว์อื่น พรากสัตว์อื่นจากพ่อแม่ หรือเคยทำร้ายลูกคนอื่น วิธีแก้กรรม : งดกินเนื้อสัตว์ทุกสัปดาห์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาทุกเดือน บริจาคเงินให้มูลนิธิสัตว์หรือมูลนิธิเด็กอ่อน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

- เจ็บป่วยบ่อยหรือเป็นโรคร้าย เกิดจากกรรมที่เคยทำทารุณกรรมต่อสัตว์ วิธีแก้กรรม : ทำบุญทำทานให้สัตว์อนาถา บริจาคยาหรือเงินให้โรงพยาบาลสงฆ์ ทำบุญปล่อยเต่าปล่อยปลา

- ตาบอดหรือเป็นโรคตา เกิดจากกรรมที่เคยทำร้ายนัยน์ตาสัตว์ หรือไม่เคยทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงในชาติก่อน วิธีแก้กรรม : มอบหลอดไฟ เทียนไข ไฟฉาย น้ำมันตะเกียงให้วัด

- ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกสัตว์กัดต่อย เกิดจากกรรมที่พาลเกเร ก่อความเดือดร้อนให้ผู้อื่น วิธีแก้กรรม : หัดพูดดี ไพเราะ

- ไฟไหม้บ้าน ไฟดูด เกิดจากกรรมที่เคยลบหลู่พระสงฆ์ วิธีแก้กรรม : ตักบาตร ถวายสังฆทาน ฟังเทศน์ พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี

- ไร้ญาติขาดมิตร เกิดจากกรรมที่ไม่เคยไปร่วมงานบุญงานศพ วิธีแก้กรรม : ร่วมทำบุญงานศพ บริจาคเงิน ช่วยงานศพ

- ขาดเสน่ห์ เกิดจากกรรมที่ไม่เคยถวายของหอม วิธีแก้กรรม : ทำบุญไหว้พระ ถวายธูปหอม เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย ทองคำเปลว 

- มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว เกิดจากกรรมที่ดูแคลนผู้ที่ชอบทำบุญทำทาน วิธีแก้กรรม : ทำบุญทำทาน ฟังเทศน์มหาชาติ พิมพ์หนังสือธรรมะแจก

- เป็นคนรับใช้ เกิดจากกรรมที่เคยเนรคุณผู้ที่เคยมีพระคุณ วิธีแก้กรรม : ทำบุญสร้างพระพุทธรูป พระประธาน

- ไม่มีคู่ เกิดจากกรรมที่เคยผิดลูกผิดเมียเขา วิธีแก้กรรม : บวชพระหรือชีพราหมณ์ เป็นเจ้าภาพงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจน

- มีคู่ครองไม่ดี เกิดจากกรรมที่ข่มขืนเขาในชาติก่อน หรือทุบตีทำร้ายคู่ วิธีแก้กรรม : บวชพระหรือชีพราหมณ์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา

- อยู่โดดเดี่ยวยามบั้นปลาย เกิดจากกรรมที่เคยจับสัตว์ขัง วิธีแก้กรรม : ปล่อยนกปล่อยปลา ทำบุญทำทานให้เด็กอนาถาและสัตว์อนาถา

- หน้าตาไม่ดี เกิดจากกรรมที่ไม่เคยถวายดอกไม้ของหอมให้วัด วิธีแก้กรรม : ถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ทำบุญ บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล

- ถูกโกง เกิดจากกรรมที่เคยคดโกงผู้อื่น วิธีแก้กรรม : สละทรัพย์บริจาคในการกุศลต่างๆ ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน

- พิการ ไม่สมประกอบ เกิดจากกรรมที่เคยทำร้ายพ่อแม่ ด่าพ่อแม่ วิธีแก้กรรม : ทำบุญไหว้พระ ปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล 5 ศีล 8 นั่งวิปัสสนา

- ลูกหลานไม่ดี เกเร เกิดจากกรรมที่ทำแท้ง ทำร้ายคนใกล้ชิดในชาติก่อน วิธีแก้กรรม : ให้ลูกบวชหรือร่วมพิธีบวช ปฏิบัติธรรม อุทิศให้ลูก

- เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เกิดจากกรรมที่ฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ ในชาติก่อน วิธีแก้กรรม : ตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ ปล่อยนกปล่อยปลาในวันเกิดตัวเอง

- เป็นมะเร็ง เกิดจากกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำแท้ง การทารุณสัตว์ วิธีแก้กรรม : ทำบุญอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ขออโหสิกรรม ทำบุญสร้างพระพุทธรูป โบสถ์ ศาลาวัด พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี ฝึกกรรมฐาน

- ค้าขายขาดทุน เกิดจากกรรมที่เคยลบหลู่เจ้าที่เจ้าทาง วิธีแก้กรรม : ทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ถวายเครื่องเซ่นสังเวย เจ้าที่เจ้าทาง

- ตกงาน เกิดจากกรรมที่เคยแย่งงานผู้อื่น วิธีแก้กรรม : ทำบุญทำทาน ร่วมงานบุญ ปล่อยนกปล่อยปลา

- เรียนไม่จบ เกิดจากกรรมที่ชาติก่อนไม่ฟังเทศน์ฟังธรรม วิธีแก้กรรม : เข้าวัดบ่อยๆ ร่วมงานบุญต่างๆ อ่านหนังสือธรรมะ

ฯลฯ

…………..

จากตำราเหล่านี้เราพบว่า ทุกๆ กรรมจากชาติก่อน (หากเป็นเรื่องจริง) สามารถขจัดลดได้ด้วยวัตถุและกิจกรรมทางศาสนา เช่น ถวายสังฆทาน ถวายดอกไม้ ธูปเทียน ปิดทองคำเปลว ถวายเครื่องหอม ถวายน้ำมันตะเกียง 

(ช่วยให้ชีวิตรุ่งโรจน์โชติช่วงเหมือนแสงตะเกียง ไม่อับจนปัญญา) ทำบุญปล่อยสัตว์ ซื้อโลงศพบริจาคศพอนาถาไร้ญาติ (จะได้อานิสงส์แรงมาก) บูชาเทพต่างๆ ฯลฯ

หลักการนี้บอกว่า การทำบุญชนิดต่างๆ ได้ผลในการแก้หรือลดกรรม นอกจากนี้ยังช่วยเสริมดวงชะตาให้แข็ง สามารถต้านเคราะห์ร้าย ผ่อนหนักเป็นเบาได้

กิจกรรมเหล่านี้มิเพียงช่วยลด-ล้างกรรมเก่า ยังช่วยให้ชีวิตรุ่งเรือง หมดเคราะห์หมดโศก ไม่ยากจน ช่วยให้ชีวิตมั่งคั่ง เพียบพร้อมด้วยบารมี จัดว่าเป็นพิธีแบบ Two in One

นี่ทำให้ต้องตั้งคำถามหลายข้อ เช่น 

- ถ้าแค่ถวายน้ำมันตะเกียงให้วัด ได้ผลขนาดนี้ ถวายไฟฟลูออเรสเซนต์จำนวนวัตต์สูงๆ ที่สว่างกว่าตะเกียงหลายเท่า จะทำให้ชีวิตรุ่งโรจน์ขึ้นไปอีกหรือไม่ 

- คนชาติอื่นที่ไม่มีพิธีนี้หมดสิทธิ์? เช่น ชาวคริสต์หรืออิสลามที่ไม่มีพิธีสังฆทาน หรือไม่ฝึกกรรมฐาน

- ทำบุญปล่อยสัตว์ ปล่อยนกปล่อยปลา ที่จะได้บุญแรง ไม่ใช่การทรมานสัตว์หรือสร้างกรรมหรือ? เพราะคนต้องไปจับสัตว์มา หลังจากปล่อยนกปลาแล้ว ก็จับพวกมันมาอีก ต่างอะไรจากพิธีบูชายัญของคนโบราณ?

- ถ้าไม่ใช่ชาวพุทธ ก็หมดสิทธิ์หรือ? ยกตัวอย่าง เช่น การพิมพ์หนังสือธรรมะแจก ถ้าเป็นชาวคริสต์ สามารถพิมพ์ไบเบิลแจกได้ไหม? ถ้าเป็นชาวเซนที่ไม่ยึดมั่นอะไร จะให้พิมพ์อะไร?

การถือศีลกินเจเพื่อหวังบุญไม่ใช่การสร้างความเห็นแก่ตัวกว่าเดิมหรือ?

เห็นชัดว่าทั้งหมดนี้ก็คือการลงทุนชนิดหนึ่ง

มันก็คือไสยศาสตร์นั่นเอง

คำถามคืออำนาจพิเศษอะไรที่ชอบรับสินบนจากมนุษย์ เพื่อรับจ๊อบลบล้างกรรมของมนุษย์?

เป็นไปได้ไหมที่เราอาจเข้าใจเรื่องกรรมผิดๆ ?

…………..

คนไทยจำนวนมากกลัวอำนาจของเจ้ากรรมนายเวร เชื่อว่าเจ้ากรรมนายเวรเป็นอำนาจลึกลับที่ทำให้คนคนหนึ่งเคราะห์ร้าย 

ความคิดเรื่องเจ้ากรรมนายเวร อาจจะเกิดขึ้นเพื่อขู่หรือปรามการทำชั่ว โดยหลักว่าเจ้ากรรมนายเวรคือผู้เคยมีเวรมีกรรมกับเราในชาติก่อน และส่งผลข้ามชาติมาถึงเราในชาตินี้ได้ ทำให้เราไม่กล้าทำชั่ว เมื่อทำบุญ ก็อุทิศส่วนบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย แต่มันกลายเป็นความกลัวผลของกรรมเก่า

คนไทยใช้คำ ‘เทวดา’ คู่กับ ‘เจ้ากรรมนายเวร’

เทวดามีฤทธิ์บวก บันดาลสิ่งดีๆ เจ้ากรรมนายเวรมีฤทธิ์ลบ บันดาลเคราะห์ร้าย

เรามีความเชื่อสะสมต่อเนื่องมาว่า ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าดีหรือไม่ดี เป็นผลจากกรรมที่ได้ทำไว้ในชาติก่อน หรือ ‘กรรมเก่า’

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) เขียนในหนังสือ เชื่อกรรม รู้กรรม แก้กรรม ว่า เราใช้คำว่ากรรมในความหมายที่คลาดเคลื่อนมาตลอด กลายเป็นปรัชญาการดำเนินชีวิตแบบ “แล้วแต่บุญแต่กรรม”

มันเริ่มที่เราใช้คำในความหมายเพี้ยน

เราใช้คำว่าบุญและกรรมคู่กัน เป็นขั้วตรงข้ามกัน

บุญเป็นเรื่องดี กรรมเป็นเรื่องร้าย

นี่เป็นการใช้คำที่ผิดความหมายอย่างมโหฬาร

ความจริงแล้ว กรรม แปลว่า การกระทำ มันเป็นคำกลางๆ ไม่บ่งว่าดีหรือเลว ดีก็ได้ ชั่วก็ได้

เมื่อใช้ผิด ก็เขวกันไปตลอด

กรรมเป็นการกระทำ เป็นเหตุ (cause) ส่วนผลของกรรมเรียกว่าผล (effect) ทางพุทธเรียกว่า วิบาก

กรรมจึงไม่ใช่ผล

‘กรรมเก่า’ อย่างที่คนจำนวนมากเข้าใจกันก็ไม่ใช่ผล

พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตฺโต) พูดถึงเรื่องนี้ว่า “จะลองยกข้อความในพระสูตรหนึ่ง ชื่อว่า วาเสฏฐสูตร มาพูดสักนิดหนึ่ง ในพระสูตรนั้นพระพุทธเจ้าตรัสว่า บุคคลเป็นชาวนาก็เพราะกรรม เป็นโจรก็เพราะกรรม เป็นพราหมณ์ก็เพราะกรรม เป็นกษัตริย์ก็เพราะกรรม เป็นปุโรหิตก็เพราะกรรม ฯลฯ เป็นโน่นเป็นนี่ก็เพราะกรรม”

พระสูตรนี้ไม่ได้หมายถึงว่าชาติก่อนทำกรรมอะไร ทำให้ชาตินี้ต้องเกิดเป็นชาวนา หรือชาติก่อนทำดีอะไร ชาตินี้จึงมาเกิดเป็นกษัตริย์

“ในพระสูตร คำว่าเป็นชาวนาเพราะกรรม เป็นต้นนี้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้เองเลยว่า นายคนนี้ เขาดำนา หว่านข้าว ไถนา เขาก็เป็นชาวนา การที่เขาทำนานั่นเอง ก็ทำให้เขาเป็นชาวนา คือเป็นไปตามการกระทำ อันได้แก่อาชีพการงานของเขา อีกคนหนึ่งเป็นที่ปรึกษาของพระเจ้าแผ่นดิน เขาก็เป็นปุโรหิตตามอาชีพการงานของเขา ส่วนนายคนนี้ไปลักของเขา ไปปล้นเขาก็กลายเป็นโจร”

นอกจากทางกายภาพแล้ว พระพุทธองค์ยังทรงสอนให้มองถึงจิตใจด้วย ดังพุทธพจน์ที่ว่า “เจตนาหํ ภิกฺขเว กมฺมํ วทามิ” (ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม)

หมายถึงเจตนาคือตัวความคิด คือเจตจำนง และมันก็คือกรรม

พูดง่ายๆ ก็คือ หากมองที่เปลือกนอก กรรมก็คืออาชีพ การทำงาน การดำเนินชีวิต หากมองลึกเข้าไปถึงจิตใจ กรรมก็คือเจตนา

ความเชื่อเรื่องกรรมเก่าแบบนี้มาจากไหน?

…………..

ความเชื่อเรื่องกรรมเก่าเป็นแนวคิดของสามลัทธิเดียรถีย์ ที่พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า ติตถายตนะ 3

ลัทธิที่ 1 บุพเพกตวาท สอนว่าคนเราจะสุขจะทุกข์ล้วนเป็นเพราะกรรมที่ทำไว้แต่ชาติก่อน

ลัทธิที่ 2 อิศวรนิรมิตวาท สอนว่าคนเราจะสุขจะทุกข์ล้วนเป็นเพราะเทพบันดาลให้

ลัทธิที่ 3 อเหตุวาท สอนว่าคนเราจะสุขจะทุกข์ล้วนเป็นเรื่องบังเอิญ แล้วแต่โชคชะตา ไม่มีเหตุปัจจัย

พระพุทธเจ้าทรงปฏิเสธสามลัทธินี้ เพราะมันทำให้คนไม่มีฉันทะ ไม่มีความเพียร ไม่คิดจะทำอะไร เพราะเชื่อว่าทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากทุกอย่างถูกควบคุมจากกรรมเก่า เทพ และปัจจัยที่เราคุมไม่ได้

กรรมเก่าและการแก้กรรมที่เกริ่นมาในตอนต้นจึงไม่ใช่พุทธศาสนาโดยสิ้นเชิง

มันเป็นแค่ศาสนาผี

พระไพศาล วิสาโล กล่าวว่า “ผู้ใดก็ตามที่บอกว่าตนสามารถหยั่งรู้ได้ว่าที่ใครเป็นอย่างนี้ๆ เพราะทำกรรมอย่างนั้นๆ ในชาติที่แล้ว จึงสมควรที่จะถูกตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่ารู้จริงแน่หรือ ยิ่งถ้าบอกว่ารู้วิธี ‘แก้กรรม’ ด้วยแล้ว ก็แสดงว่าเขากำลังสอนลัทธินอกพุทธศาสนา 

เพราะกรรมในอดีตนั้น ไม่มีใครสามารถแก้ได้ มีแต่บรรเทาผลกรรมด้วยการทำกรรมดีในปัจจุบัน หรือนำผลกรรมนั้นมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในทางธรรม คือเป็นเครื่องเตือนใจให้ทำความดี ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท”

พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เราใช้ปัญญาพิจารณาความสัมพันธ์ของเหตุและปัจจัย

แนวคิดทางพุทธจริงๆ ชี้ว่า สรรพสิ่งเกิดขึ้นไปตามกฎแห่งเหตุและผล (cause-effect) และกฎแห่งเหตุและผลนั้นไม่ได้หมายเฉพาะถึงกฎแห่งกรรมอย่างเดียว มันยังเกิดจากกฎอื่นๆ 

ประกอบด้วย เช่น พีชนิยาม (กฎเกี่ยวกับพืชพันธุ์ ปลูกพืชอะไรก็ได้พืชชนิดนั้น) และอุตุนิยาม (กฎเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมและดินฟ้าอากาศ เช่น อากาศร้อน เหงื่อก็ออก) เป็นต้น 

คนที่มัวแต่หมกมุ่นกับกรรมเก่าและการแก้กรรม อาจสร้างกรรมใหม่โดยปริยาย เพราะการไม่ทำอะไรก็เป็นกรรมอย่างหนึ่งซึ่งจะส่งผลต่อเราในเวลาถัดไป

เป็นเรื่องง่ายที่จะโยนความผิดทุกอย่างให้กรรม และไม่ต้องทำอะไร แต่คนฉลาดคิดวิเคราะห์ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตนมาจากหาเหตุปัจจัยอะไรในชาติปัจจุบัน

ต่อให้เรื่องกรรมในความเชื่อนี้เป็นจริง ก็ยังต้องลงมือทำ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถทำให้ทุกคนรวยได้โดยนอนอยู่เฉยๆ

พระไพศาล วิสาโล กล่าวว่า “หากไม่งอมืองอเท้าก้มหน้า ‘รับกรรม’ ก็คิดแต่จะ ‘แก้กรรม’ สถานเดียว แต่ไม่ขวนขวายที่จะสร้างกรรมใหม่ที่ดีงามขึ้นมา หรือเปลี่ยนเคราะห์ให้เป็นประโยชน์ เช่น เป็นเครื่องเตือนใจให้ตระหนักถึงความไม่เที่ยงของชีวิต หรือกระตุ้นให้เกิดความไม่ประมาท เร่งทำความดีงามขณะที่ยังมีเวลาและกำลังวังชาอยู่”

ชีวิตเราก็เหมือนที่ดินผืนหนึ่ง บางคนได้ที่ดินอุดมสมบูรณ์ บางคนไม่ได้ แต่เราก็ทำให้มันดีที่สุด

ถ้าผืนดินของเราเป็นดินแข็งหรือดินเสีย ปลูกอะไรไม่ขึ้น เราจะแก้กรรม หรือว่าหาวิธีแก้ไขดิน ปรับปรุงจนมันปลูกพืชได้?

ประเทศในแถบทะเลทรายหลายประเทศไม่ได้ทำพิธีแก้กรรมที่ปลูกพืชไม่ขึ้น แต่พัฒนาระบบชลประทานจนปลูกพืชได้

นี่ก็คือการสร้างกรรมดี และได้รับผลที่ดี

ไม่มีสักตำราแก้กรรมสักตำราเดียวสอนให้แก้ปัญหาตรงจุด แต่ให้อ้อนวอน ทำบุญให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือ

มีแต่การหาทางลัด

เหล่านี้มิใช่พุทธศาสตร์ แต่คือไสยศาสตร์ และไม่ใช่ไสยศาสตร์ธรรมดา มันคือ ‘ไสยศาสตร์มักง่าย’

ตำราแก้กรรมทั้งหลายไม่เคยบอกว่า พวกเราทำกรรมอะไรในชาติก่อน ชาตินี้จึงต้องอ่านตำราแก้กรรม!

…………..

วินทร์ เลียววาริณ

winbookclub.com

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/

ความเห็น 16
  • Muaythai
    ลัทธิจำนนต่อกรรม เรียกให้ถูก คือ ลัทธิจำนนต่อผลของกรรม หรือลัทธิจำนนต่อวิบากกรรม ...บุคคลนั้นจะไม่ยอมทำอะไรเลย ปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวัน ๆ มักจะพูดว่าแล้วแต่โชคชะตาฟ้าลิขิต แล้วแต่ดวง, ถ้าอยากประสบความสำเร็จก็อ้อนวอนอำนาจศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเชื่อว่ามีอยู่จริง บางครั้งถึงกับติดสินบนด้วยสิ่งต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ธูปเทียน อาหารหวานคาว ผลไม้ เงินทอง การร่ายรำบูชา ฯลฯ ...ชาวพุทธที่แท้จริงต้องไม่งมงายมักง่าย แต่ไม่ดื้อรั้นดันทุรัง ต้องมีเหตุผลศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้าให้เข้าใจครบถ้วนและพิสูจน์ด้วยการลงมือปฏิบัติ
    06 พ.ค. 2562 เวลา 12.04 น.
  • มนุษย์เกิดมาประดับโลกเฉกเดียวกับต้นไม้แม่นํ้าภูเขาทะเลดินนํ้าลมไฟส่วนเรื่องราวต่างฯกำหนดมาเรียบร้อยเกิดแก่เจ็บตายคือธรรมชาติของคนส่วนกรรมมากกรรมน้อยขึ้นหยู่กับการกระทำ
    06 พ.ค. 2562 เวลา 10.51 น.
  • @wichayapisut@
    กรรม คือ การกระทำ มนุษย์เรามีกรรมอยู่ 2 กรรม คือ กรรมดี กับ กรรมชั่ว กรรมไม่สามารถแก้ไขได้เมื่อได้กระทำลงไปแล้ว
    06 พ.ค. 2562 เวลา 13.04 น.
  • Nuzz Lightyear
    กิน "หมากโง่หาว หมากง่าวโห่"
    06 พ.ค. 2562 เวลา 12.04 น.
  • J
    อย่าไปขัดกิจกรรมหาเงินของวัดซิพระต้องกินต้องใช้ถ้าคนไม่มาพระจะรวยได้ไง คิดสิคิด
    06 พ.ค. 2562 เวลา 14.29 น.
ดูทั้งหมด