ทั่วไป

ลูกสาวคนเล็กรองผกก.ป.ปล่อยโฮ หลังรู้พ่อแม่ประสบอุบัติเสียชีวิตแล้ว

MATICHON ONLINE
อัพเดต 19 เม.ย. 2562 เวลา 05.30 น. • เผยแพร่ 19 เม.ย. 2562 เวลา 05.29 น.
น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์

กรณีนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เจ้าของโรงงานอะไหล่ยนต์ ขับรถเบนซ์พุ่งชนรถซูซูกิ สวิฟท์ เป็นเหตุให้ พ.ต.ต.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือรองตี๋ อายุ48ปี รองผกก.ป. และนางนุชนาฏ งามสุวิชชากุล อายุ43ปี สองสามี-ภรรยาเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนลูกสาวคนเล็กอายุ 12 ปี ที่นั่งมาด้วย มีอาการบาดเจ็บอาการสาหัสและกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น

เมื่อวันที่ 19 เมษายน น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ พี่สาวของ นางนุชนาฏ ภรรยา พ.ต.ท.จตุพร ได้กล่ามถึงความคืบหน้าอาการหลานสาวว่า ขณะนี้ก็ดีขึ้นมาก เริ่มพูดได้เเล้ว เเละถามหาพ่อกับเเม่เพียงอย่างเดียว ซึ่งทางญาติได้บอกความจริงกับหลานเเล้ว เเละหลานก็ร้องไห้เพียงอย่างเดียว โดยก่อนหน้า ตอนที่ยังไม่ได้บอกความจริง เวลาไปเยี่ยม ญาติทุกคนจะใส่เสื้อผ้าสีอื่นเข้าไป เพื่อไม่ให้หลานสงสัย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ส่วนผู้ก่อเหตุ หลังจากที่ได้กราบขอขมาผู้ตาย และบอกว่าจะบวชให้นั้น ตนเเละญาติๆ ก็เข้าใจว่ามันคืออุบัติเหตุ ส่วนเรื่องทางกฎหมายก็ต้องดำเนินไป เเละเข้าใจว่าเขารู้สึกผิด เเละเขาก็พยายามที่จะเเก้ไขให้ดีที่สุด ซึ่งทางเราก็ให้โอกาสเขา ที่เขาอยากจะไถ่โทษ ซึ่งก็ต้องดูต่อไปว่า ในเมื่อเขาได้โอกาสจากเราเเล้ว เขาจะใช้โอกาสที่ได้มาได้ดีเเค่ไหน โดยเขารับปากว่าจะดูเเลหลาน 2 คนให้ดีที่สุด ซึ่งทางเราก็มั่นใจเขา

น.ส.ขนิษฐา กล่าวต่อว่า สำหรับนางนุชนาฏ น้องสาว เป็นคนจิตใจดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร เเละไม่เคยทะเลาะกับใคร เเม้เเต่กับสามีที่อยู่ด้วยกันมา 20 ปี ก็ยังไม่เคยทะเลาะกันเลย นอกจากนี้น้องสาวยังเป็นคนที่เรียนเก่ง เเละสอบได้ทุนเรียนดีมาโดยตลอด เเละยังเรียนจบด้วยเกียรตินิยมอันดับ2 ซึ่งวันที่เกิดเหตุ น้องสาว-สามี เเละหลานสาว กำลังเดินทางกลับหลังจากไปเลี้ยงวันเกิดของหลานสาวเอง ซึ่งก็ไม่ได้มีลางบอกเหตุใดๆ

“ในอดีต ครอบครัวไม่มีกำลังจะส่งเสียให้เรียน เราจึงเสียสละหยุดเรียน เพื่อให้นางนุชนาฏ น้องสาว ได้เรียนต่อ เเละได้บอกกับน้องสาว ว่าได้มอบอนาคตให้น้องสาวเเล้ว เเละเขาก็ทำได้ดีที่สุด หลังจากที่น้องสาวเรียนจบ ก็ได้งานเป็นพยาบาลทันที เเละได้มอบเงินเดือนเดือนเเรกให้เเม่ เเต่ด้วยน้องสาวเเละสามี(รองตี๋) รับงานราชการทั้งคู่ เเละต้องทำงานเข้ากะเหมือนกัน จึงทำให้ไม่ค่อยมีเวลาดูเเลลูก น้องสาวจึงตัดสินใจลาออกจากงานพยาบาล เเล้วมาทำงานที่บริษัทประกันชีวิตบริษัทหนึ่ง เพื่อที่จะได้มีเวลาให้ลูกสาวทั้งสองมากขึ้น น้องสาวเป็นทุกอย่างของครอบครัว การสูญเสียน้องสาวไปจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงเปรียบเหมือนการเสียเสาหลักของครอบครัวไป” นางสาวขนิษฐา กล่าวและต่ออีกว่า ก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่วัน ทั้งครอบครัวได้วางเเผนว่าจะไปเที่ยวพัทยา ซึ่งได้จองที่พักไว้เเล้ว เเต่มาเกิดเหตุการณ์นี้ก่อน ซึ่งหลังจากนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรต่อไป จากที่เมื่อก่อนเคยไปเที่ยวด้วยกันทุกวันหยุด เคยอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งภาพเหล่านั้นจะไม่มีอีกต่อไปเเล้ว

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ตอนนี้ถ้าน้องสาวรับรู้อยากบอกกับน้องสาวว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร หลับให้สบาย พี่จะดูเเลลูกทั้งสองคนให้เอง เเละจะดูเเลพ่อกับเเม่เเทนน้องด้วย” นางสาวขนิษฐา กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 18
  • Thitaporn Petchairat
    อ่านแล้วต้องเสียใจไปด้วยเพราะพ่อแม่คือหัวใจลูกทีเดียว..คนที่ชนเขาตายแบบนี้ต้องชดใช้ให้กับเด็กทั้ง2ที่อนาคตจะยาวไกล.แค่ทดแทนค่าเลี้ยงดูเด็กสัก10ล้านก็พอ..ไม่ต้องมาดูแลหรอกเพราะอนาคตใครจะไปรู้ว่าทำจริงแค่ไหนให้จ่ายค่าเลี้ยงดูกับเด็กไป..อนาคตใครจะรู้ว่าคุณแน่นอนไหม..
    20 เม.ย. 2562 เวลา 04.37 น.
  • พยอม
    สะเทือนใจ..อนิจจัง..ไม่เที่ยง..เศร้ามาก!!..
    20 เม.ย. 2562 เวลา 04.14 น.
  • Rich 88/162
    ดูไว้เป็นตัวอย่างไอ้พวก ขี้เมา ร่ำรวยอวดเก่ง ต้องแก้ไข กฎหมาย ให้หนักขึ้น
    20 เม.ย. 2562 เวลา 04.06 น.
  • P a n d o r a
    น่าเห็นใจจริงๆ เมื่ิอไหร่พวกเมาแล้วขับ จะเลกพฤตกรรมแบบนี้สักที เราวูญเสียกันมากพอหรือยัง
    20 เม.ย. 2562 เวลา 03.59 น.
  • Or’oay
    คนอยู่โครตทรมานกี่ปีกี่ชาติก็ไม่หายคิดถึงเจอกับตัวเองแล้ว😭😭😭😭
    20 เม.ย. 2562 เวลา 03.56 น.
ดูทั้งหมด