ไอที ธุรกิจ

Google Glass อัปเดตใหม่ เก่งขึ้นแต่ยังดีไซน์เดิม

Manager Online
อัพเดต 22 พ.ค. 2562 เวลา 03.28 น. • เผยแพร่ 22 พ.ค. 2562 เวลา 03.28 น. • MGR Online

แม้จะไม่เหมือนเดิมทุกมุม แต่กูเกิลกลาส (Google Glass) เวอร์ชันใหม่ล่าสุดยังคงมีดีไซน์คล้ายรุ่นก่อนหน้าแบบไม่ปิดบัง ความใหม่ของแว่นนี้คือการสร้างบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) และรองรับระบบจัดการอุปกรณ์มือถือแอนดรอยด์สำหรับองค์กร Android Enterprise Mobile Device Management ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างแอปใหม่ และรวมแว่นตาเข้ากับบริการหรือ API ที่มีอยู่ได้ง่ายยิ่งขึ้น

เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา อัลฟาเบ็ต (Alphabet) บริษัทแม่ของ Google พยายามบอกให้โลกรู้ว่า Google Glass ไม่ได้ล้มหายตายไป เพียงแต่จะถูกออกแบบให้เหมาะสำหรับองค์กรบริษัทไม่ใช่ผู้บริโภคทั่วไป การรีแบรนด์ Google Glass ใหม่ในฐานะเครื่องมือสำหรับองค์กรถูกมองว่าจะบุกตลาดกลุ่มโรงงาน และคุณหมอผ่าตัดได้ ซึ่งถือเป็นวิธีสร้างตลาดใหม่ให้กับแว่นตาอัจฉริยะได้อย่างชาญฉลาด

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ความคืบหน้าของ Alphabet ในการส่ง Google Glass ไปบุกตลาดองค์กรคือการปรับฮาร์ดแวร์ให้ Google Glass เสียใหม่ พร้อมกับการเปลี่ยนสังกัดให้ Glass ย้ายออกจากแผนกทดลองผลิตภัณฑ์อย่างเอ็กซ์ (X) มาสู่อ้อมอกของ Google โดยสมบูรณ์

Google Glass เวอร์ชันใหม่จึงถูกเรียกอย่างเป็นทางการว่ากลาสเอ็นเตอร์ไพรส์อิดิชันทู (Glass Enterprise Edition 2) เป็นแว่นสมาร์ทกลาสที่ใช้พลังงานจากชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon XR 1 ผลจาก CPU ที่ดีขึ้นมีผลช่วยให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่และประสิทธิภาพของแว่นดีขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะความเร็วของระบบงานที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์และการเรียนรู้ของเครื่อง (computer vision และ machine learning)

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แว่นเวอร์ชันใหม่ยังปรับปรุงกล้องเพื่อการรับชมวิดีโอและสตรีมสดได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็เพิ่มพอร์ต USB-C สำหรับการชาร์จที่รวดเร็วกว่าเดิม

อีกจุดที่เด่นที่สุดคือ Glass Enterprise Edition 2 สร้างขึ้นบน Android และรองรับ Android Enterprise Mobile Device Management ผลคือบริษัทต่างๆจะสามารถสร้างแอปใหม่และผนวกแว่นตาเข้ากับบริการหรือ API ที่มีอยู่ได้ง่ายขึ้น ทำให้นักวิเคราะห์มองเห็นโอกาสทองที่ Alphabet จะโกยความสำเร็จมากขึ้นกับธุรกิจฮาร์ดแวร์อย่าง Glass ในตลาดองค์กร เมื่อเทียบกับการบุกตลาดแว่นอัจฉริยะสำหรับผู้บริโภคที่ยังเป็นเรื่องยาก

Google ไม่ใช่รายเดียวที่ต้องเรียนรู้ความล้มเหลวของการส่งแว่นอัจฉริยะสู่ตลาดคอนซูเมอร์ ปีที่ผ่านมา อินเทล (Intel) ก็ทนไม่ไหวปิดแผนกแว่นอัจฉริยะ Vaunt ไปหลังจากเปิดตัวต้นแบบรุ่นใหม่ได้เพียง 2 เดือน ยังมีบริษัทแว่นตาอัจฉริยะสัญชาติอเมริกันอีกแห่งชื่อนอร์ธ (North) ที่ประกาศปลดพนักงานจำนวน 150 คนไป ทุกรายรวมถึง Google ล้วนพยายามแก้ปัญหาเรื่องรูปแบบการใช้งาน และความเป็นส่วนตัว ปัจจัยทั้งหมดทำให้แว่นอัจฉริยะดั้งเดิมต้องเปลี่ยนไป กลายเป็นอุปกรณ์การทำงานสำหรับองค์กรแทน อย่างน้อยก็ในขณะนี้.

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • 𐒄λⲄⲄ𐒅𐒢Ꮚ 𐒨𐒅λ𐒐
    แล้วก็เจ๊งเหมือนเดิม..
    22 พ.ค. 2562 เวลา 05.36 น.
  • Surapun
    รอเวอร์ชั่นของ​ หัวเหว่ย​ ไม่เกิน​ 2 ปี​ มีให้ใช้เเน่ เเต่คิดว่า​ เสี่ยวมี่​ น่าจะทำออกมาก่อนนะ
    22 พ.ค. 2562 เวลา 10.44 น.
  • ตัวจริงสายเขียว
    ขายสองพัน ก็พอ เผื่อซื้อซั้กอัน
    22 พ.ค. 2562 เวลา 11.11 น.
  • มหาเกล้า
    28 พ.ค. 2562 เวลา 14.20 น.
  • Mr ton
    อยากให้ออกแบบแว่นให้เหมือนพวกดาวไซย่าใช้ ติดต่อสื่อสารผ่านแว่น ฉายภาพ 3d หรือสั่งให้เกิดหน้าจอ interactive แบบไอรอนแมน สามารถมองเห็นในที่มืด night vision แล้วไม่ต้องชาร์ต ใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือไม่ก็ใช้ออกซิเจนรอบๆ ตัวแปลงเป็นเป็นพละงงานไฟฟ้า รับรองจะซื้อแบบไม่ต้องผ่อนเลยอ่ะ
    22 พ.ค. 2562 เวลา 14.32 น.
ดูทั้งหมด