จาก 'พลุ' ที่สวยงาม สู่โศกนาฏกรรมคร่าชีวิต : เสาร์นี้ในอดีต

'ดอกไม้ไฟ หรือ พลุ' หนึ่งสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลอง ที่มักจุดในช่วงเวลาสำคัญ เพื่อโชว์ความยิ่งใหญ่ สุดอลังการ บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ด้วยสีสันที่ระยิบระยับละม้ายคล้ายดวงดาว บางครั้งก็ทำให้รู้ซึ่งถึงความโรแมนติกเมื่ออยู่กับคนรัก เพียงเงยหน้าขึ้นบนท้องฟ้า ก็เสมือนล่องลอยอยู่ทางช้างเผือกแบบ 2 ต่อ 2  

แต่หารู้ไม่ความสวยงามของพลุ มาพร้อมกับเสียงที่ดังกึกก้องไปทั่วนภา อีกทั้งพลุถูกอัดด้วยดินปืน (ดินประสิวผสมกับกำมะถัน) แถมยังมีส่วนประกอบอื่นอีกเพียบ และยังจัดอยู่ในหมวดหมู่ 'วัตถุระเบิด'

เสาร์นี้ในอดีต : สัปดาห์นี้เรื่องราวอาจไม่ได้เกิดขึ้นในช่วง เดือน มิ.ย. แต่ถือเป็นอุทาหรณ์ให้ได้ระวัดระวังการใช้พลุและเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุในลักษณะดังกล่าวซ้ำรอย

จุดฉลองวันเกิด แต่ชาวบ้านหวาดระแวง 

เริ่มด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้น สด ๆ ร้อน ๆ ถึงจะผ่านมาเพียงไม่กี่วัน แต่ก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้หลายคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัย

เมื่อแฟนหนุ่มของ ดิว อริสรา ได้จัดงานวันเกิดแบบจัดเต็ม โดยทั้งคู่ไปฉลองกันที่โรงแรมริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งหนึ่งใน จ.อยุธยา บรรยากาศอบอวลไปด้วยความโรแมนติก จากนั้นไม่นานเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ มีการจุดพลุชุดใหญ่ แสง สี เสียง แบบจัดเต็ม 

จุดนี้เองทำให้เกิดดรามาสนั่นโซเซียล เพราะชาวบ้านละแวกข้างได้รับความเดือนร้อนเพราะเป็นช่วงกลางดึก รวมถึงหมาแมวหลุดออกจากบ้าน ต่างต้องวิ่งหากันวุ่น ถึงจะมีใบอนุญาตในการจุดพลุ แต่ไม่ควรดึกจนเกินไป 

ล่าสุดแฟนหนุ่มและ ดิว อริสรา ได้เดินทางขอโทษชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้วยตัวเอง พร้อมมอบกระเช้าและอาหารสุนัขถึงเหตุดังกล่าว 

ถึงเหตุการณ์นี้จะไม่มีใครสูญเสียชีวิต แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้หลายคนเกิดการตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของเวลา และความปลอดภัยของผู้คนที่พักอาศัยในรอบข้างที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

หล่นจากฟ้า โดนศีรษะเสียชีวิต 

หากยังจำกันได้ช่วงมีนาคม 64 ที่ผ่านมา จ.นครราชสีมา เกิดเหตุสลดกับหนูน้อย วัย 10 ปี ขณะรอแม่มารับกลับบ้านที่บริเวณหน้าโรงเรียน ทันใดนั้นพลุขนาดใหญ่ ได้ตกลงมาจากท้องฟ้าใส่กลางศีรษะ มีแผลฉกรรจ์เลือดไหลหมดสติ และอาการโคม่า 

แต่ปาฏิหารก็ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะหนูน้อย วัย 10 ปี เสียชีวิตในวันที่ 13 เมษายน 64 ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว 

ส่วนพลุที่ตกใส่หนูน้อยมาจากงานศพ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีตามกฏหมายเป็นที่เรียบร้อย 

(เปิดคลิปนาที “พลุตะไล”ตกใส่หัวเด็ก)

โรงงานเถื่อน ทำพลุจนระเบิด เสียชีวิตระนาว

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 64 ที่ผ่านมา โรงงานผลิตพลุใน จ.พิจิตร เกิดระเบิดและคร่าชีวิตคนงานถึง 6 ศพ เป็น ลูกจ้าง 4 ศพ และผู้ที่บ้านอยู่ใกล้เคียงโรงงาน 2 ศพ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าโรงงานที่เกิดเหตุ ลักลอบทำพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟเถื่อน และเกิดความผิดพลาดจนทำให้เกิดเหตุการณ์สลดขึ้น 

หลังจากเกิดเหตุได้ไม่นานนัก เจ้าของโรงงานได้โผล่มอบตัว ก่อนสารภาพทั้งน้ำตาว่าก่อนหน้านี้เปิดผลิตตุ๊กตาปูนระบายสี ด้วยความจำเป็นจึงได้ผันตัว ทำพลุลูกบอลไล่นกและทำเฉพาะช่วงที่มีกันสั่งซื้อเท่านั้น ไม่คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ 

(เจ้าของรง.พลุระเบิดร่ำไห้ยอมรับทำพลุเถื่อน)

สะเทือนขวัญ ตรุษจีนสุพรรณบุรี 2555  

นับเป็นเหตุโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจทำให้คนไทยลืมเลือน เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555 ในขณะนั้นอยู่ในช่วงพิธีเปิดงานตรุษจีนสุพรรณบุรี จู่ ๆ เกิดพลุระเบิดขึ้น ทำให้ผู้คนวิ่งหนีตายกันจ้าระหวั่น

ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 80 คน และมีผู้เสียชีวิตถึง 4 ราย คือคนจุดพลุ ร่างถูกแรงระเบิดขาดสองท่อน ,ทีมงานถูกเพลิงย่างสด 2 ราย และหญิงวัย 50 

โดยแรงระเบิดของพลุทำให้บ้านเรือนที่อยู่ละแวกข้างได้รับความเสียหายถึง 435 หลัง บางหลังเกิดเพลิงไหม้จนชาวบ้านไม่มีที่อยู่อาศัย จนรัฐได้จัดศูนย์พักพิงชั่วคราว

ส่วนสาเหตุที่เกิดนั้นมาจากการวางท่อพลุในทิศทางเอียง ทำให้พลุพุ่งเข้าไปในกองพลุที่ยังไม่ได้ยิง และจัดเก็บพลุสำรองใกล้สถานที่จุดและใกล้บริเวณชุมชน จึงทำให้เกิดเหตุสลดครั้งใหญ่นี้

อยากจุดพลุต้องขอใคร ?

สำหรับใครที่อยากจุดพลุเพื่อฉลองวันสำคัญ ก็ควรยื่นขอรับใบอนุญาตล่วงหน้าก่อนวันจุดพลุ อย่างน้อย 15 วัน เพื่อให้อำเภอสามารถตรวจสอบความเหมาะสมของสถานที่ และจะได้มีการประสานกับทางศูนย์ควบคุมการบินในพื้นที่นั้น ๆ ให้ได้ทราบล่วงหน้า 7 วัน 

ซึ่งผู้ขออนุญาตจะต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีอายุ ไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และเป็นผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดของตนเอง

ส่วนสถานที่จุดและปล่อยพลุ ต้องไม่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงหรือโรงพยาบาลในระยะ 300 เมตร หรือสถานที่ที่อยู่ในการคุ้มครองตามกฎหมายอื่น

ไม่ทำตามกฎอาจติดคุก!!

บ้านเมืองย่อมมีกฎหมาย ถ้าไม่ทำตามก็อาจจะมีความผิดติดตัว ซึ่งเมื่อไปดูข้อกำหนดโทษในช่วงเทศกาลลอยกระทงพบว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถ้าทำให้อากาศยานที่กำลังบินได้รับความเสียบหายหรือเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยระหว่างการบิน มีโทษถึงประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10-20ปี ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558

"ทุกเรื่องราวที่เกิดถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ ซึ่งในทุก ๆ ปี มักเห็นเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวอยู่บนหน้าสื่อไม่มากก็น้อย ดังนั้นเราควรระมัดระวังไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ถึงแม้บางเหตุการณ์จะไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ความไม่ประมาณเป็นสิ่งสำคัญ ดีกว่ามานั่งเสียใจและรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น จากความอลังการของพลุ"

อ้างอิง

เรารักสุพรรณบุรี We Love Suphanburi 

scimath.org 

parliament.go.th

thaihealth.or.th