ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Jelisa Charoenkitchanchai โพสต์ข้อความเรื่อง ประสบการณ์ตรง เจริสา ( หลี่กุง ) ในวันที่สามีฉันติดเชื้อไวรัสCOVID-19 ระบุว่า…
📢📢ประสบการณ์ตรงเจริสา (หลี่กุง)📢📢
ในวันที่สามีฉันติดเชื้อไวรัส C O V I D 19…!!!
สวัสดีค่ะ…
เราคือภรรยาของสามีที่ติดเชื้อโควิด 19 ค่ะ
สามีของเราเป็นลูกชายนายกเทศมนตรีเกาะสีชังค่ะหมายเหตุ : ที่ต้องบอกว่าเป็นลูกใครมันมีเหตุผลค่ะเดี๋ยวจะบอกในตอนท้ายๆ นะคะ
เราอยากจะใช้พื้นที่ตรงนี้บอกเล่าถึงอาการของสามีก่อนทราบว่าติดเชื้อไวรัสนะคะ
อ.10/3/63 - สามีเริ่มมีไข้หนาวสั่นเมื่อประมาณ 18.00 น. ค่ะ เลยทานยาพาราไปค่ะ เมื่อยาออกฤทธิ์ ไข้ก็ลดและเหงื่อก็ออกเยอะมากค่ะ แต่ยังสามารถทานข้าวได้ปกติดีค่ะ สามีทนกับอาการไข้แบบนี้อยู่ 2 วัน จนวัน
พฤ.12/3/63 - ตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาล… (โรงพยาบาลที่ 1) ไปถึงคุณหมอแจ้งว่าอาการยังไม่ชัดเจน เนื่องจากเพิ่งมีไข้ได้ 2 วัน ถ้าตรวจเชื้อไวรัสก็อาจจะยังไม่แสดงผล เชื้อไวรัสที่คุณหมอพูดหมายถึงเชื้อไวรัสตัวอื่น ยกเว้น โควิด 19 คุณหมอบอกเราไม่ได้ไปในประเทศที่เสี่ยงจึงไม่น่าจะใช่ไวรัสโควิด 19 ให้สามีเราและเราคลายกังวล จึงนัดให้ไปตรวจอีกที ถ้ายังมีไข้ในวันที่คุณหมอนัดคือ อา.15/3/63 ดังนั้นเรากับสามีก็กลับบ้านมารักษาตัวด้วยยาพาราที่คุณหมอให้มา ช่วงเวลาตั้งแต่ พฤ.12/3/63 - อา.15/3/63 อาการของสามีเริ่มแย่ลงคือ เริ่มทานได้น้อย ไม่มีแรง ปวดข้อเท้า หายใจแล้วรู้สึกเหนื่อยง่าย และไข้ยังไม่ลดเหมือนเดิม
ศ.13/3/63 - เรากับสามีก็ทำงานกันปกติค่ะ แต่สามีร่างกายก็ไม่ได้เต็มร้อยค่ะ เราและสามีลงไปเกาะสีชัง ไปรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นความจำเป็นที่ต้องลงไปค่ะ เนื่องจากชื่อเราและสามีเป็นประชากรของเกาะสีชังค่ะ ซึ่งตอนขึ้นเรือที่เกาะสีชัง ก็ได้มีการคัดกรองในเรื่องของการวัดอุณหภูมิสามีก็ปรากฏว่าผลแสดงว่าไม่มีไข้ 36.3 และให้เจลมาล้างมือ กลับมาถึงบ้านสามีก็นอนซมค่ะ ด้วยอาการที่ยังไม่หายดี
อา.15/3/63 - สามีเข้าไปพบคุณหมอตามที่นัดไว้ และขอคุณหมอแอดมิททันที เพราะทราบอาการตัวเองว่าไม่ไหวแล้ว เมื่อเข้าไปโรงพยาบาลก็ทำการเอ็กซเรย์ปอด เจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจ โดยคุณหมอก็ยืนยันว่ายังไม่ต้องตรวจเชื้อไวรัสโควิด 19 เนื่องจากอาการไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง สามีนอนอยู่ที่โรงพยาบาลนี้อยู่ 4 วัน โดยยาหลักที่ได้รับคือพาราและยาฆ่าเชื้อ ซึ่งเป็นยาฆ่าเชื้อไวรัสหรือฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เราก็ไม่แน่ใจ เพราะคุณหมอบอกอยู่ตลอดว่าปอดปกติดี เลือดที่นำไปตรวจไวรัสไข้เลือดออก / ไวรัสชิกุนปุนย่า / และไวรัสอื่นๆ อีก 20 สายพันธุ์ ก็ไม่พบเชื้อ คุณหมอตรวจทุกอย่างยกเว้น โควิด 19 เราพยายามบอกสามี และพยายามบอกด้วยตัวเองทุกครั้งที่เจอคุณหมอว่าไม่ต้องตรวจโควิด 19 จริงๆหรอคะ คุณหมอบอกเหมือนเดิมว่าสามีเราไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงตามนโยบายรัฐบาลไม่จำเป็นต้องตรวจ การที่คุณหมอพูดแบบนี้ทำให้สามีเราเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ติดเชื้อโควิด 19
**ระหว่างที่อยู่โรงพยาบาลเราและลูกคือสลับกันเฝ้าสามีในช่วงกลางวัน และในเวลากลางคืนเราและลูกก็นอนเฝ้ากันอยู่ที่โรงพยาบาลทุกคืน**
อาการระหว่างอยู่โรงพยาบาล : ความถี่ของไข้ค่อยๆลดลง / เหนื่อยง่าย / กินได้น้อย / ไม่มีแรง / ปวดตามข้อ / ผื่นที่คอเนื่องจากเหงื่อออกเยอะและคัน มีเท่านี้
พ.18/3/63 - คุณหมอให้กลับบ้านเนื่องจากไข้ไม่มีแล้วอาการปวดข้อไม่มีแล้ว แต่อาการอย่างอื่นที่ได้กล่าวข้างต้นยังอยู่ครบ คุณหมอแจ้งว่าน่าจะเป็นไวรัสทั่วไปไม่ได้รุนแรงมาก ถ้าต้องหาว่าเป็นชนิดไหนคงต้องโดนเจาะเลือดไปเพาะเชื้อเกือบทุกวันและคงยังไม่ได้กลับบ้าน และก่อนออกเราก็ได้ถามคุณหมอว่าไม่ใช่ไวรัสโควิด 19 ใช่ไหม?? คุณหมอก็ยืนยันว่าไม่ใช่ จึงให้กลับมาทานยาต่อที่บ้าน
พฤ.19/3/63 - วันนี้เป็นวันแรกที่สามีเริ่มมีอาการไอค่ะ ไอแห้งๆ ไม่ได้รุนแรง ไม่มีอาการเจ็บคอนะคะ มีแค่ไอ
ศ.20/3/63 - วันนี้ตอนเช้าสามีเริ่มมีอาการไอและมีเสมหะปนเลือดค่ะ เราก็เลยบอกสามีว่าเราไปหาหมอกันไหม คราวนี้เข้า กทม. เลย และจะขอตรวจไวรัสโควิด 19 ให้ได้ เราจึงตัดสินใจพาสามีไปที่โรงพยาบาล… (โรงพยาบาลที่ 2) ค่ะ
เมื่อได้พบคุณหมอเล่าอาการและเหตุการณ์ทุกอย่างให้คุณหมอฟัง คุณหมอบอกว่าขอเอ็กซเรย์ปอดก่อน เมื่อผลเอ็กซเรย์ออกมาคุณหมอพูดคำแรกว่า "ปอดไม่ดีเลย" มีฝ้าเยอะมาก อาการแบบนี้เรียกว่า ปอดติดเชื้อ/ปอดอักเสบค่ะ (เราคิดในใจทำไม…แจ้งว่าปอดปกติดี)
คราวนี้คุณหมอแจ้งว่าขอให้ตรวจไวรัสโควิด 19 และขอให้แอดมิททันที และผลการตรวจจะออกอีก 3 วัน ระหว่างแอดมิท คุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อทันที อาการเริ่มดีขึ้น สีหน้าดูดีขึ้น แต่ยังทานได้น้อย ไอปนเลือดอยู่ สามีเรานอนอยู่ที่นี่ 5 วัน**เราพาลูกไปเยี่ยมสามี 1 วัน และเราไปเยี่ยมโดยไม่มีลูกไป 1 วัน และนอนเฝ้าสามี 1 คืนเป็นคืนก่อนที่คุณหมอแจ้งว่าจะให้กลับในวันถัดไป หากตรวจปอดแล้วดีขึ้น**
ระหว่างอยู่โรงพยาบาล คุณหมอให้เอ็กซเรย์ปอดทุก 2 วัน 2 วันแรกผลยังมีฝ้าขาวในแผ่นฟิล์ม จึงต้องนอนต่ออีก 2 คืน จนเช้าวัน
อ.24/3/63 - เอ็กซเรย์ปอดอีกครั้ง ปอดก็ยังมีฝ้าขาว แต่คุณหมอก็บอกให้กลับบ้านเอายามาทานต่อ และนัดตรวจอีก 1 สัปดาห์ ซึ่งระหว่างที่อยู่โรงพยาบาล 5 วัน ผลโควิด 19 ก็ยังไม่ออกสักที และมันเลยกำหนดวันที่โรงพยาบาลแจ้งมา 1 วัน คุณหมอบอกให้กลับมาก่อนแล้วถ้าผลออกจะรีบแจ้ง (เราก็คิดผลมันออกช้าไปไหม) และค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าตรวจไวรัสโควิด 19 ของโรงพยาบาลนี้ เราต้องจ่ายเอง เพราะก่อนออกคุณหมอไม่ได้เขียนเบิกประกันว่าสามีเราติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ประกันจึงไม่ครอบคลุม พอเคลียทุกอย่างเรียบร้อย เรากับสามีก็กลับบ้านมาประมาณบ่าย 3 (15.00 น.)
**พอเวลา 19.00 น. ในวันเดียวกัน**
คุณหมอโทรมาแจ้งผลตรวจว่าสามีเราติดเชื้อไวรัสโควิด 19 สามีเรารีบมาบอกเราด้วยความตกใจ และเป็นห่วงเรา / ลูก และคนใกล้ชิด กลัวว่าตัวเองจะทำให้ทุกคนเดือดร้อน และหนักไปกว่านั้น สามีเราโทรกลับไปที่โรงพยาบาลและบอกว่า จะขอกลับเข้าไปรักษาต่อ โรงพยาบาลอ้างว่า "ห้องเต็ม"เสนอให้เราไปหาโรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน เราจึงถามว่าโรงพยาบาลคุณมีห้องสำหรับคนไข้ติดเชื้อกี่ห้อง? โรงพยาบาลบอกว่า 1 ห้อง และมีคนไข้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เข้าพักพอดีหลังจากเรากลับมาบ้านในเวลาเพียงแค่ 15.00 น. - 19.00 น. เพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น โรงพยาบาลใช้ข้ออ้างนี้ในการปฏิเสธคนไข้ที่เพิ่งออกมาด้วยการวินิจฉัยของแพทย์ว่าให้กลับบ้านได้ สามีและเราเริ่มเครียดหนักไม่รู้จะไปโรงพยาบาลไหนหลังจากถูกโรงพยาบาล…ละเลยคนไข้ เราถามพยาบาลว่า "คุณทำแบบนี้มันไม่ได้เป็นการทิ้งคนไข้เกินไปหรอคะ? " นางก็อ้างสารพัด (เราแม่งคิดในใจ คือ เฮ้ มากกโรงพยาบาลระดับนี้)
สามีเราพยายามติดต่อหาโรงพยาบาลเพื่อที่จะเข้ารับการรักษา แต่ในวันนั้นก็ยังไม่ได้เรื่องมีแต่คนโทรมาสอบถามและแจ้งว่าให้รอที่บ้านเดี๋ยวจะพยายามหาโรงพยาบาลที่มีห้องพักให้เข้ารับการรักษาให้และจะติดต่อกลับ และจะส่งรถเข้ามารับที่บ้านเอง วันนี้เรา สามีและลูกก็นอนแยกกันทันทีที่ทราบผล
พ.25/3/2563 - ระหว่างที่สามีมีความหวังว่าจะมีรถมารับที่บ้าน เราและลูกรีบไปโรงพยาบาล…ทันทีในตอนเช้าเพื่อขอไปตรวจไวรัสโควิด 19 เพราะเรา / แม่สามี และลูก นั้นอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแล้ว ในวันนี้เราขอเล่าแยกเป็น 2 ฝั่งนะคะ
1.ฝั่งเราที่ไปโรงพยาบาลตรวจเชื้อ
- เราไปถึงระหว่างรอตรวจเราสอบถามพยาบาลว่าถ้าเราเจอเราสามารถรักษาที่นี่ได้ไหม โรงพยาบาลบอกว่าได้
เราจึงถามต่อว่าสามีเราตรวจเจอเชื้อที่โรงพยาบาล… ตอนนี้ยังหาโรงพยาบาลไม่ได้เราให้สามีเราเข้ารักษาที่โรงพยาบาล…ได้ไหม พยาบาลบอกว่าตอนนี้กฏที่รัฐแจ้งออกมาคือถ้าโรงพยาบาลไหนตรวจเจอต้องรับตัวคนไข้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนั้น พยาบาลถามกลับเราว่าทำไมเค้าไม่รับ จริงๆ เค้าต้องรับ ปฏิเสธคนไข้ไม่ได้เรารู้สึกแย่มาก เราโทรกลับไปเพื่อจะสอบถามข้อเท็จจริงที่ทางโรงพยาบาล…แจ้งมา ทางคุณหมอที่โรงพยาบาล…บอกว่าจริงแต่ก็ยืนยันว่า ห้องเต็ม แต่จะรับเป็น "ภาระ" หาโรงพยาบาลให้ เราแบบงง มาก กับโรงพยาบาลระดับนี้ เราพยายามขอร้องคุณหมอที่โรงพยาบาล…หลายครั้งระหว่างตรวจว่าให้รับสามีเราได้ไหม เรายินดีเสียค่าตรวจซ้ำอีกรอบที่นี่ก็ได้ คุณหมอแจ้งว่าไม่ได้จริงๆ
2.ฝั่งสามีที่รอคอยอยู่ที่บ้าน
- ตั้งแต่เช้าพยายามติดต่อหาโรงพยาบาลรัฐหลายๆแห่ง โดยได้ความช่วยเหลือจากหลายๆคนในการประสานงาน และยังมีหลายหน่วยงานโทรมาสอบถามข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับไทม์ไลน์ว่าช่วงที่เริ่มมีอาการไปไหนมาบ้าง สามีเเละเราพยายามนึกย้อนทุกอย่างและบอกทั้งหมดเท่าที่นึกได้ว่าไปไหนมาบ้างเพื่อที่มันจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่คิดว่าได้เจอเราและสามีเพื่อที่เค้าจะได้ป้องกันตัว
หลังจากแต่ละหน่วยงานได้รับข้อมูลจากสามีและเราไปเค้าก็ได้ทำการโทรสอบถามและแจ้งลงไปยังหน่วยงานราชการบนเกาะสีชังเพื่อให้ทุกคนที่ได้พบเจอสามีเรา เพื่อให้กักตัว และเพื่อป้องกันตัวเองและผู้อื่นและเวลาประมาณ 14.00 น. สามีก็โทรหาเราว่าจะกลับถึงชลบุรีรึยังจะให้ไปส่งที่โรงพยาบาล… ในวันที่สามีฉันติดเชื้อไวรัส C O V I D 19…!!!
พฤ.26/3/2563 - เวลาประมาณ 15.00 น. โรงพยาบาล…โทรมาแจ้งผลการตรวจเชื้อไวรัสโควิด 19 ว่าเรา / แม่สามี และลูกไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด 19
ที่ต้องอธิบายทั้งหมดนี้เพราะมันมีประเด็นจากการสื่อสารข้อมูลผิดๆ และจากทัศนคติแย่ๆ ความคิดติดลบของคน "บางกลุ่ม" บนเกาะสีชังค่ะ คนที่คิดว่าตัวเองเป็นปัญญาชน ซึ่งความเป็นจริงแล้ว "คุณแค่เก่งอยู่ในกะลาแคบๆ ที่มันสูงปริ่มหัวกบาลคุณเท่านั้น" เกี่ยวกับครอบครัวของสามีเราและเรา "ลูกชายคนเล็กนายกเกาะสีชัง แจ็ค เภตรา"
คนเกาะสีชังกลุ่มนี้ได้กระทำการที่เรียกว่า "Cyber Bully" ครอบครัวสามีเรามาตลอดค่ะ ซึ่งก็ปล่อยผ่าน ปล่อยวางกันมาตลอดค่ะ เนื่องจากครอบครัวสามีเป็นคนของประชาชนที่เกาะสีชังค่ะ แต่ครั้งนี้คนกลุ่มนี้ Bully กันแบบไร้จิตสำนึกมากในช่วงเวลาที่ครอบครัวคนอื่นย่ำแย่ และทั้งโลกเกิดสถานะการณ์เลวร้ายแบบนี้ และในช่วงเวลาที่ทุกคนต้องช่วยกันเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน คนกลุ่มนี้กระทำการดังนี้ค่ะ
1.ปล่อยข่าวว่าทางครอบครัวเราปิดข่าวเรื่องสามี จริงๆรู้มาหลายวันแล้ว หลักฐานผลตรวจระบุวันที่/เวลาตามรูปเลยค่ะ
**อ่านไม่ออก / หน้ามืดตามัวจนไม่อยากอ่านบอกนะคะ จะโทรไปแปลให้ฟัง comment ใส่เบอร์โทรมาได้เลยจะรีบติดต่อกลับ**2.ปล่อยข่าวว่าติดทั้งครอบครัว เราและลูกก็ติด หลักฐานผลตรวจระบุวันที่/เวลาตามรูปเลยค่ะ
**อ่านไม่ออก / หน้ามืดตามัวจนไม่อยากอ่านบอกนะคะ จะโทรไปแปลให้ฟัง comment ใส่เบอร์โทรมาได้เลยจะรีบติดต่อกลับ**3.โพสต์เฟสบุ๊คด่าท่อ สาปแช่ง ซ้ำเติมสารพัด โพสต์ประมาณว่า คนติดเชื้อคือคนเลว เวรกรรมตามทันคนที่ติดเชื้อ แบบนี้ผู้คนทั่วโลกที่ติดเชื้อโควิด 19 ก็เป็นคนเลวแบบที่คุณว่าหรอคะ?
**คือ งง ค่ะ นี่คือคุณใช้สมองในการกลั่นกรองก่อนพิมพ์แล้วหรอ อายุมากมันทำให้ความ "โง่เขลา" ของคุณมากตามอายุไปด้วยหรือไง???? เราว่าอาการคุณน่ากลัวกว่าคนติดเชื้อไวรัสโควิด 19 เสียอีก**
ดูเหมือนคุณจะมีปัญหาทางการเงินนะคะ??
เพราะดูคุณว่างงานเหลือเกินถึงเอาเวลามา Bully คนอื่นได้ตลอดเวลาแบบนี้ แนะนำนะคะ เอาเวลาไปทำมาหากินดูแลตัวเอง ภรรยาและลูกดีกว่าไหมคะ? เพราะวันนึงคุณติดโรคไม่ว่าจะเป็นโควิด 19 หรือมะเร็งอะไรก็แล้วแต่ คุณอาจจะเป็นคนเลวแบบที่คุณเที่ยว Bully คนอื่นก็ได้นะคะ แบะการกระทำแบบนี้ของคุณมันจะส่งผลกระทบกับลูกของคุณนะคะ ลูกไม้มันหล่นไม่ไกลต้นหรอกค่ะ
ออ ลืมไปคุณไม่ได้เอาเวลาสั่งสอนลูก เพราะคุณเอาเวลาส่วนใหญ่มา Bully ชาวบ้านเค้าเป็นงานถนัดของคุณ คราวหน้าถ้าคุณกล้าจริงช่วยลงชื่อ/แท็กชื่อด่าตรงๆ เลยค่ะ เพราะคนอย่างคุณถ้าไปถามก็หน้าด้านบอกไม่ได้เอ่ยชื่อจะร้อนตัวทำไมแน่นอน ยินดีรับแท็กทุกกรณีค่ะ ถ้าคุณเป็น
"ลูกผู้ชายนะคะ ไม่ใช่หมาแก่ไร้ประโยชน์ ขยะสังคม"
ตลอดระยะเวลาที่ย่ำแย่ของครอบครัวเรา เราขอขอบคุณน้ำใจเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ให้ความช่วยเหลือเราในช่วงเวลานี้นะ คนไทยหลายคนมีน้ำใจมาก โทรมาถามไถ่รับฟังปัญหาเราตลอดเวลา
สุดท้ายนี้ อยากจะ "ขอโทษ" ทุกคนจากใจจริงค่ะ ทั้งคนที่ได้อยู่ใกล้ / พูดคุยกับสามีไม่ว่าจะในระยะไหน อยากให้ทุกคนดูแลตัวเองและกักตัวนะคะ
**ใครอยากทราบข้อมูลเพื่อเช็คตัวเอง สอบถามว่าทำไงถึงไม่ติด ทั้งที่นอนเตียงเดียวกัน กินข้าวร่วมช้อน ทุกอย่างที่สามี ภรรยาเค้าใช้ชีวิตร่วมกัน เราทำหมดตั้งแต่วันแรกที่สามีเป็นไข้ ติดต่อเราได้ทางอินบ็อคเลยนะคะ ยินดีตอบทุกคำถามที่สร้างสรรค์จากคนคิดดีค่ะ**
🙏🙏🙏❤️❤️❤️🙏🙏🙏😷😷😷
เหนื่อยใจแทนเลย สู้ๆครับ.
28 มี.ค. 2563 เวลา 03.36 น.
Butsarin 7896 โอ๊ย กรูอ่านจนจบ
28 มี.ค. 2563 เวลา 04.04 น.
November Rain 59 บุญรักษาพระคุ้มครองนะครับ
28 มี.ค. 2563 เวลา 03.44 น.
orange รพ. วินิจฉัยแย่มาก หมอความรู้ไม่ถึง
28 มี.ค. 2563 เวลา 04.21 น.
kim 私の名前はキムです。🎎🎌🌻 ถ้ารพ.ไม่รับต้องร้องเรียนไป รมต.กระทรวงสาธารณสุข (อาจจะรับฟัง แต่ไม่แก้ปัญหา)
เกาะสีชัง คงมีนทท.ฝรั่งเยอะ.
เปนกำลังใจให้นะคะ สู้ สู้
28 มี.ค. 2563 เวลา 04.26 น.
ดูทั้งหมด