ทั่วไป

บุรีรัมย์โมเดลสะเทือนถึงแคนดิเดตคนผู้นำประเทศ หลัง “อนุทิน” ประกาศเป็นนายกฯ

Manager Online
อัพเดต 19 ม.ค. 2562 เวลา 05.07 น. • เผยแพร่ 19 ม.ค. 2562 เวลา 05.07 น. • MGR Online

“อนุทิน” ประกาศพร้อมส่งสส. 500 ที่นั่ง มั่นใจนโยบายปากท้องโดนใจชาวบ้าน ทลายอำนาจรัฐ -นายทุน จนนายชัชชาติ ยืมแบ่งปันกำไรข้าวไปใช้หาเสียง เชื่อ “กัญชาเสรี” สไตล์แคลิฟอร์เนีย ทางรอดทางเศรษฐกิจไทย

ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการเปิดตัวผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย 500 เขต และการอาสาตัวอย่างหมูไม่กลัวน้ำร้อน ของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรค ที่อาสาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเมืองไทย เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่ผ่านมา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เชื่อว่าเสียงเชียร์จากพี่น้องประชาชนกว่า 3 หมื่นคนจากเมืองปราสาทสองยุค ได้ส่งแรงสะเทือนจากที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เข้าไปสร้างความหวาดหวั่นให้แก่แคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมืองต่างๆ ได้ไม่น้อย

นอกจากตัวผู้นำพรรคที่เป็นคนทำงานที่ได้รับการยอมรับแล้ว ผู้สมัครของพรรคก็เป็นอดีตส.ส.จำนวนมากแล้ว ยังมีสิ่งที่โดดเด่นและถูกพูดถึงกันมาก คือนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ที่วันนี้ตรงต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ที่ต้องการให้แก้ปัญหาปากท้องมาก่อนการเมือง ภายใต้สโลแกน “ลดอำนาจรัฐเพื่อปากท้องประชาชน”

ที่บัดนี้เข้าไปเขย่าจิตใจของผู้ยากจน ให้เกิดความหวัง ที่จะเปลี่ยนแปลง หลังให้โอกาสรัฐบาลคสช. คืนความสุข 5ปี แต่สถานการณ์กลับเลวร้ายลง หรือพรรคการเมืองเดิมๆที่ได้รับโอกาสก่อนหน้านี้ แต่สุดท้ายชาวบ้าน ได้ความขัดแย้ง หรือบ้านเมืองไม่ได้รับการพัฒนา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จนมีเสียงจากออกมาต้องการความเปลี่ยนแปลง และ “พรรคภูมิใจไทย” ก็ถือเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่ชาวบ้านอยากทดลองให้โอกาส ด้วยมาตรฐาน “บุรีรัมย์โมเดล” ที่จะนำแนวคิดนี้ ไปพัฒนาจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศให้เกิดความเจริญ พร้อมทลายความยากจนที่ผูกติดกับอำนาจรัฐและนายทุนผูกขาด

ผ่านนโยบายสำคัญๆ อาทิ ระบบกำไรแบ่งปัน ( Profit sharing ) มาใช้สินค้าการเกษตร ยกตัวอย่างเรื่องข้าวให้ชาวนามีส่วนแบ่งทางการตลาด 75 % โรงสีและผู้ส่งออกได้ 25 % โดย “อนุทิน” ได้แสดงความมั่นใจว่า ทำได้จริงพร้อม และตอบคำถามผู้ใหญ่ในรัฐบาลได้รับทราบวิธีการดำเนินงานของพรรคไปแล้วดังเช่นกฎหมายอ้อยและน้ำตาลที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2527 หรือ 35 ปีมาแล้ว จนกระทั่ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีจากพรรคเพื่อไทย ยังต้องยืมนโยบายนี้จากคนภูมิใจไทย ไปหาเสียงกับชาวนา

ถัดมาคือนโยบายพักหนี้กยศ. 5 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ย และผ่อนจ่ายภาษีประจำปี ก็ได้รับเสียงเชียร์จากลูกหนี้กยศ. ที่เป็นนักเรียน และนักศึกษากว่า4 ล้านคนทั่วประเทศ , ยกระดับอสม.กว่าล้านคนให้มีศักดิ์ศรี กฎหมายรองรับที่ชัดเจน และมีรายได้ 2,500 –10,000บาทต่อเดือน , แก้กฎหมายคนขับแกร็บคาร์ และไบค์ ให้ถูกกฎหมาย ที่สร้างรายได้ให้แก่คนเมืองหาเช้ากินค่ำ และเพิ่มทางเลือกการเดินทางที่ตรงใจแก่ชาวกรุงเทพฯ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่กระแทกใจคนไทย ถือเป็นความท้าทายใหม่ ปรับเปลี่ยนความเชื่อเดิม ๆในสังคมไทย คือ “ปลูกกัญชาเสรี” ที่ “อนุทิน” มั่นใจว่าหากได้เป็นรัฐบาลจะเข้าไปผลักดันเรื่องนี้ให้สำเร็จ ภายหลังกฎหมายดังกล่าว ที่สนช.ให้ความเห็นชอบวาระ 3ไปแล้ว แต่ยังมีเสียงท้วงติงว่า เอื้อให้เฉพาะนายทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ

ขณะที่ชาวบ้านยังถูกกีดกันเช่นเดิม ไม่ต่างจากการไม่สามารถผลิตคราฟต์เบียร์ในประเทศไทยได้ หรือเกษตรกร ต้องจำใจซื้อเมล็ดพันธุ์พืชจากบริษัทยักษ์ใหญ่เท่านั้นเป็นต้น

แนวคิด การปลูกกัญชาเสรีของ พรรคภูมิใจไทย เริ่มที่ จะแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ใช้โมเดลของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งทำให้กัญชากลายเป็นพืชเศรษฐกิจ ถือเป็นตลาดกัญชาที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าถึง 5 แสนล้านบาทและหลังเปิดให้ประชาชนสามารถซื้อขายได้อย่างเสรีทำให้เก็บภาษีได้ 1 แสนล้านบาท

โมเดลดังกล่าวนี้หากประเทศไทยนำมาใช้ จะทำให้ทุกครอบครัวสามารถปลูกกัญชาได้โดยไม่ติดข้อจำกัดเรื่องค่าใบอนุญาตการปลูกที่สูงถึง 30 ล้านบาท ตามที่ สนช.ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายไปก่อนหน้านี้ ที่เอื้อต่อคนรวย และทำให้คนไทยและประเทศไทยสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจ เนื่องจากผลผลิตกัญชา 1 ต้นจะได้ 1 กิโลกรัมต่อปี ราคากิโลกรัมละ 7 หมื่นบาท หากปลูก 6 ต้นตามโควตา จะทำให้มีรายได้ 420,000 บาท ต่อปี ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน

พร้อมเปลี่ยนความเชื่อว่า กัญชาจากยาเสพติดให้โทษ เป็นพืชเศรษฐกิจและให้ประโยชน์ อาทิ ใช้ทำยาเพื่อรักษาทางการแพทย์ เช่น รักษาโรคอาการเบื่ออาหารในผู้ป่วยโรคเอดส์ ลดอาการคลื่นไส้ในผู้ป่วยโรคมะเร็ง รักษาโรคหัวใจ ใช้เพื่อการพักผ่อนสันทนาการใช้เพื่อผสมผลิตภัณฑ์ อาหาร เครื่องดื่ม ขนม เป็นต้น

นี่คือคำมั่นสัญญาของพรรคภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ“นายอนุทิน ชาญวีรกูล” แคนดิเดตนายกฯคนใหม่ ที่กล้าประกาศตัวแบบ“หมูไม่กลัวน้ำร้อน” และทลายความยากจนของพี่น้องชาวไทย ภายใต้สโลแกน “ลดอำนาจรัฐเพื่อปากท้องให้ประชาชน

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 41
  • good and good
    ไอ้ขี้โกง!!!ชาติหมาเนวินมึงเจอไอ้แม้วเอาคืนแน่
    19 ม.ค. 2562 เวลา 07.32 น.
  • Worrayut
    พรรคไหนก็ได้แต่ไม่ใช่ไอ้พรรคที่เลียรองเท้าบู้ทอยู่ทุกวัน และขอให้เศษฐกิจดี ปากท้อง ปชช.เรื่องใหญ่
    19 ม.ค. 2562 เวลา 06.47 น.
  • Patcharapun🥰poo
    ควรมองที่เหตุและผลนะคะไม่ว่าพรรคไหนๆๆต้องมีนโยบายเพื่อขับเคลื่อน ยอมรับว่าพรรคนี้มีแนวที่ตรงและแก้ไขปากท้องคนจนและเศรษฐกิจยังไงพูดแล้วตั้งแล้วก้อขอให้เป็นอย่างที่พูดนะคะ เราจะรอดูพรรคคุณ
    19 ม.ค. 2562 เวลา 08.47 น.
  • ชอบนโยบายปลูกกัญชาเสรีโอเครปลูกในกระถางหน้าบ้านกะได้เลิกสงวนอาชีพไว้ให้นายทุนแถมคุ้มครองอย่างดีแบบยุคตู่แอนด์ป้อมโมแดลสนช.ผู้ผลิตคสช.วางจำหนาย555ความไม่เป็นธรรมแม้แต่อาชีพ
    19 ม.ค. 2562 เวลา 06.49 น.
  • ZAPAO
    อย่างน้อยก็มีนโยบาย ดีกว่าสาดโคลน
    19 ม.ค. 2562 เวลา 05.51 น.
ดูทั้งหมด