SMEs-การเกษตร

“เหี้ย” เดียวที่เคยกิน คือ “ขนมไข่เหี้ย” แจกสูตรขนมโบราณ ทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน

เส้นทางเศรษฐี
อัพเดต 02 มี.ค. 2566 เวลา 06.18 น. • เผยแพร่ 02 มี.ค. 2566 เวลา 05.19 น.

“เหี้ย” เดียวที่เคยกิน คือ “ขนมไข่เหี้ย” แจกสูตรขนมโบราณ ทำกินเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน

นี่ไม่ใช่หนังปลากรอบ นี่ไม่ใช่ลูกชิ้นปลา แต่เป็น ขนมไข่เหี้ย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขนมไทยโบราณที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 โดยจุดเริ่มต้นของขนมไข่เหี้ย เกิดจาก พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเสวยไข่เหี้ยกับมังคุด แต่ไม่มีใครสามารถหาไข่เหี้ยมาถวายได้ เนื่องจากไม่ใช่ฤดูกาลวางไข่ของเหี้ย

เจ้าจอมแว่นสนมเอกของรัชกาลที่ 1 จึงได้ประดิษฐ์ “ขนมไข่เหี้ย” ขึ้นมาแทน และภายหลังในสมัยรัชกาลที่ 4 ขนมไข่เหี้ยก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “ขนมไข่หงส์” แทน

ถึงกระนั้น ไข่เหี้ย ก็ยังเป็นอาหารโบราณ โดยมีวิธีการทำคือ นำไข่เหี้ยมาต้มสุกให้ไข่ขาวยังพอเหลว ใช้เข็มเจาะรูให้พรุนไปแช่ในน้ำผสมเกลือ หลังจากนั้นก็นำไปย่างไฟต่อเพื่อประกอบอาหาร รสชาติจะออกเค็มๆ มันๆ อีกทั้งยังเป็นที่มาของคำพังเพยที่ว่า “เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

มาอ่านสูตรขนมไข่เหี้ย ที่เรากินมาตั้งแต่เด็กๆ กันได้เลย

เตรียมวัตถุดิบ

* ปริมาณนี้สามารถทำขนมไข่หงส์ได้ประมาณ 100 กว่าลูก

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
  • เเป้งข้าวเหนียว 1 กก.
  • แป้งข้าวเจ้า ขีดกว่าๆ
  • น้ำตาลทราย 2 กก.
  • น้ำมันบัว 3 กก.
  • ถั่วซีก 1 กก.
  • กระเทียมไทย 1 ขีด
  • พริกไทย ครึ่งขีด
  • หัวกะทิ 1 กก.
  • น้ำตาลปี๊บ กับเกลือป่น นิดหน่อย

วิธีทำไส้

1. เอาถั่วซีกมาแช่น้ำไว้ 6 ชม. แล้วนำไปหุงจนสุก ทับน้ำให้แห้งสนิทแล้วพักไว้

2. ป่นพริกไทยแล้วแยกไว้ ตำกระทียมให้ละเอียดยิบ

3. ตั้งกระทะไฟอ่อนๆ โดยไม่ต้องใส่น้ำมัน นำถั่วที่ทับน้ำจนแห้งลงไปผัดกับกระเทียมจนเนียน

4. เติมเกลือกับน้ำตาลทราย ชิมรสให้หวานนำเค็มน้อยๆ (ถ้าเค็มนำจะแก้ไม่ได้ ปรุงเป็นขนมแล้วเสียรส)

5. ผัดต่อไปจนแห้งเนียน สามารถปั้นได้ จากนั้นค่อยโรยพริกไทย แล้วยกลงมาพักแล้วจึงปั้นเป็นลูกกลมๆ

วิธีทำแป้ง

1. เอาแป้งข้าวเหนียวกับแป้งข้าวเจ้าผสมกัน ใส่น้ำตาลปี๊บสัก 2 ขีดกว่าๆ นวดผสมกัน

2. ค่อยๆ เติมหัวกะทิทีละน้อย นวดไปเรื่อยๆ จนแป้งเนียน ไม่ติดมือ ต้องค่อยๆ เติมน้ำกะทิผสมลงไป ไม่งั้นเวลาทอดจะแตก เสร็จแล้วพักไว้ 1 ชม.

วิธีปั้น

1. นำแป้งมาปั้นแล้วแผ่เป็นแผ่นกลมๆ รักษาความหนาให้เท่ากัน

2. นำไส้มาวางแล้วห่อให้มิด อย่าให้มีรูให้อากาศเข้าไป เพื่อที่เวลาทอด ขนมจะได้ไม่กระเด็น แต่ไม่ต้องคลึงให้กลมมาก ไม่งั้นแป้งจะแข็งเหนียว

* ข้อควรระวังอีกอย่างคือ ถ้าปั้นไม่ดี แน่นไป มีรอยรั่ว แป้งไม่เสมอกัน หรือใช้ไฟแรงเกินไป ขนมก็ระเบิดติดหลังคาได้เหมือนกัน

3. ทอดไฟอ่อนถึงกลาง คอยกลับและใช้ตะแกรงคลึงตลอดเวลาทอด อย่าตกใจถ้าขนมมีสีเหลืองไม่เสมอกัน แต่ให้ค่อยๆ ทอด ขนมจะพองกลมสวยเหลืองทอง พักไว้จนเย็นสนิท (ถ้าขนมยุบ ไม่กลม แสดงว่าแป้งอ่อนไป ฉาบแล้วไม่สวยจะแบน)

วิธีฉาบ

1. นำน้ำตาลทรายใส่กระทะ ตั้งไฟเติมน้ำเล็กน้อย เคี่ยวจนเหนียวโดยฟองที่ขึ้นมาจะละเอียดยิบ

2. นำขนมที่ทอดแล้วลงไปผัด ปิดไฟและผัดไปเรื่อยๆ อย่าหยุด จนแห้งน้ำตาลจับสวย เป็นอันเสร็จ

เคล็ด(ไม่)ลับ คือ การผัดไส้ให้แห้งสนิท ขนมจะไม่เยิ้มน้ำตาลและไม่ละลายหลุดออก เป็นวันก็ไม่เยิ้ม แป้งข้าวเหนียวถ้าใช้มากไป เวลาทอดจะยุบ ฉาบแล้วจะแบน ต้องผสมแป้งข้าวเจ้า เวลาทอดให้ใช้ไฟกลางกับอ่อน อย่าใจร้อน ส่วนการปั้น อย่าปั้นแน่นแต่ต้องปั้นให้มิดและเสมอกัน ป้องกันขนมระเบิด

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติไข่เหี้ยได้ที่

https://www.silpa-mag.com/history/article_22678

https://www.silpa-mag.com/culture/article_84796

https://www.matichon.co.th/columnists/news_132070

ดูข่าวต้นฉบับ