สืบนครบาล รวบ "เต้ อะไหล่ซิ่ง" คาร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ ย่านบางขุนเทียน หลอกขายอะไหล่มอเตอร์ไซค์แต่งซิ่ง โกงใน blacklistseller เกือบ 20 ราย
ตามที่สืบนครบาล ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้เดือดร้อนว่าคนร้ายโพสต์ประกาศหลอกขายในช่องทางออนไลน์ (FACEBOOK) และในกลุ่มของผู้ชื่นชอบตกแต่งรถจักรยานยนต์ในกลุ่มยี่ห้อ ยามาฮ่า และ ฮอนด้า ซึ่งมีผู้ติดตามในช่องทางดังกล่าวกว่าพันราย พบข้อมูลการโกงใน blacklistseller เกือบ 20 ราย มีหมายจับ 3 หมาย
นายเต้ อายุ 28 ปี ถูกจับกึมในข้อหา "ฉ้อโกงประชาชน และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน" โดยจับกุมตัวได้ที่ หน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ และจากการตรวจสอบประวัติต้องโทษพบผู้ต้องหามีหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 หมาย ในคดีฉ้อโกง
ก่อนเกิดเหตุ ผู้ถูกจับมีพฤติกรรมชอบแต่งรถจักรยานยนต์สวยงามมาเป็นเวลากว่า 10 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา ผู้ถูกจับเกิดความคิดจะจำหน่ายอะไหล่ชิ้นส่วนแต่งซิ่งรถจักรยานยนต์ประเภท ท่อไอเสีย โช๊ค และอุปกรณ์แต่งซิ่งอื่นๆอีกหลายรายการ ตนจึงได้สมัครเป็นสมาชิกในกลุ่มดังกล่าวและได้โพสต์ประกาศขายในช่องทางออนไลน์ (FACEBOOK) และในกลุ่มของผู้ชื่นชอบตกแต่งรถจักรยานยนต์ในกลุ่มยี่ห้อ ยามาฮ่า และ ฮอนด้า อีกหลายกลุ่ม ซึ่งมีผู้ติดตามในช่องทางดังกล่าวกว่าพันราย หากมีลูกค้าคนใดสนใจจะติดต่อและทักมาพูดคุยและหลงเชื่อตกลงซื้อขายอะไหล่เป็นจำนวนมาก รายละประมาณ 2,000 บาท - 8,000 บาท ซึ่งบางรายตนก็ส่งสินค้าตามที่ตกลง โดยเงินที่ได้นั้นตนจะเอาไปใช้จ่ายทั่วไปรวมถึงซื้อของแต่งรถจักรยานยนต์ของตนเอง จนมาภายหลังเห็นว่า บางรายที่ตนไม่ส่งสินค้า ก็ไม่ถูกผู้เสียหายรายใดติดตามทวงเงินแต่อย่างใด บางครั้งได้ใจจึงส่งบางเป็นบางราย จนมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลจับกุมตัวได้
ทั้งนี้ ผู้ถูกจับได้กล่าวสำนึกในการกระทำผิดของตนในครั้งนี้และครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเกิดจากความคึกคะนองและการใช้จ่ายแบบฟุ่ยเฟือย ของตน ที่เกินตัวเกินไป โดยไม่คิดถึงผลกระทบหรือผลที่จะตามมา จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลจับกุม จึงได้สำนึกปรับปรุงตัวและรับปากกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาลว่าจะล้างมือจากพฤติกรรมที่ไม่ดีดังกล่าว เพราะตนต้องใช้ชีวิตอย่างระวาดระแวง กลัวลูกค้าจะมาทำร้ายร่างกายหรือทำอันตรายตนขณะออกไปข้างนอก และยังต้องใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ ให้พ้นจากการจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ หลังจากนี้จะยินยอมชดใช้กรรมที่ตนเองก่อขึ้นให้หมด และใช้ชีวิตใหม่หลังจากที่พ้นโทษของตนที่ได้ก่อขึ้นต่อไป