ทำไมถึงชื่อ “ลาบานูน” เปิดตำนานวงดนตรีตัวพ่อกับเส้นทางในวงการเพลง
หากกล่าวถึงวงดนตรีในตำนาน ผู้ยืนในวงการเพลงไทยมาตั้งแต่สมัย “อัลเทอร์ครองเมือง” ช่วงปี พ.ศ. 2535 – 2545 ด้วยแนวเพลงเข้มข้น จัดจ้าน ได้รับแรงบันดาลใจจากพังก์ร็อก ของวงอินดี้ทั้งหลายที่ตบเท้าเข้ามาชวนวัยรุ่นไทยให้ “โดด” ไปพร้อมความมันของดนตรีและเนื้อหาที่หนักแน่น หนึ่งในนั้นย่อมต้องมีชื่อของ "ลาบานูน" (Labanoon) ขึ้นแท่นเสมอ
เพราะไม่เพียงแต่ดนตรีที่ “ขยี้” มาตั้งแต่โน้ตแรก แนวเพลงและความเป็นตัวของตัวเอง ที่ผสมผสานระหว่างกระแสดนตรีหลักและ “ความเป็นอาหรับ” ที่พวกเขาใช้ระบุตัวตน ยังคงความเข้มข้นมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้จะล้มลุกคลุกคลาน และมีจังหวะที่พวกเขาพร้อมใจกัน “หยุด” ทำวงไปกว่า 6 ปี แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งในช่วงปี 2555 จนวันนี้ ก็พิสูจน์แล้วว่า ไม่มีใครลืมพวกเขา ประหนึ่งมี “เชือกวิเศษ” ที่ยึดโยงลาบานูนกับคนฟังไว้อย่างเหนียวแน่น และหากได้รับรู้เรื่องราวของพวกเขาต่อจากนี้ ที่เราได้หยิบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่รวบรวมจากปากคำของ “ลาบานูน” ตลอดการเดินทางกว่า 20 ปีในวงการ คุณผู้อ่านก็คงไม่แปลกใจว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
“นมสด” ที่เพิ่งแกะกล่องเอาเมื่อ“19 ปี”
แม้จะคร่ำหวอดในวงการมานานนับสิบ ๆ ปี แต่ลาบานูนนั้น เพิ่งจะได้มีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเอง เมื่อแจ้งเกิดไปแล้วกว่า 19 ปี ! ในชื่อคอนเสิร์ต “LABANOON CONCERT เปิดกล่อง” ไปเมื่อ 13 พฤษภาคม 2560 โดยชื่อคอนเสิร์ตนั้นมีที่มาจากชื่อวงลาบานูน ที่เป็นภาษาอาหรับแปลว่า“นมสด” โดยก่อนที่จะสรุปว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะเป็นชื่อนี้นั้น ก็เกือบจะได้ใช้ชื่อ “นานนม” (เพราะพลิกกลับมาเป็น“นมนาน”) และ191 หรือ19+1 คอนเสิร์ต ตามชื่ออัลบั้มที่สอง ซึ่งชื่อทั้งหมดเหล่านี้มาจากความคิดของสมาชิกในวงล้วน ๆ
“Sha La La” อย่างร็อกบนเวที “Hotwave”
การแจ้งเกิดของลาบานูนนั้น เกิดขึ้นด้วยการเข้าประกวด Hotwave Music Awards ครั้งที่2 ในปี2540 ซึ่งได้เข้ารอบ 10 วงสุดท้าย และแม้จะไม่ได้รางวัลติดมือกลับบ้านในครั้งนั้น แต่เพลง “Sha La La” ของวงลาบานูน ที่ทุกคนยอมรับว่า “เบสโคตรตึ๊บ” แน่น ๆ เน้น ๆ ก็ทำให้ผลงานไปเข้าตาหนึ่งในกรรมการอย่าง “ธเนศวรากุลนุเคราะห์” จากค่ายมิวสิคบั๊กส์ จนได้ชักชวนให้พวกเขาไปเข้าสังกัด และมีผลงานอัลบั้มแรกคือ นมสด(พ.ศ. 2541)
แม้เป็น “ยาม” ก็ต้องมีวัน“หยุด”
หลังจากปล่อย Single แรกแจ้งเกิดอย่างถล่มทลายด้วยเพลง “ยาม” จากอัลบั้มนมสด(พ.ศ. 2541) พวกเขาก็ได้มีอัลบั้มออกมาอย่างต่อเนื่องไล่ไปตั้งแต่ 191 (พ.ศ. 2542), คนตัวดำ (พ.ศ. 2545), Clear (พ.ศ. 2546), สยามเซ็นเตอร์ (พ.ศ. 2548), 24 ชั่วโมง (พ.ศ. 2549) รวม 6 อัลบั้ม จนในที่สุดเมื่อหมดสัญญากับทางต้นสังกัด พวกเขาก็ตัดสินใจร่วมกันที่จะหยุดการทำวงลาบานูน ซึ่งในครั้งนั้นเป็นการตั้งใจ “หยุดแบบไม่มีกำหนด”
ทางเดินเมื่อต้อง “แยกย้าย” (ชั่วคราว)
เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย พักเลือกทำอะไรให้กับชีวิตของตัวเองในปี 2549 หลาย ๆ คน อาจจะไม่ทราบเลยว่า ทางเดินที่พวกเขาแต่ละคนเลือกนั้น สุดแสนจะแหวกแนว ! โดย เมธี (เมธี อรุณ - ร้องนำ, กีตาร์) สมัครเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล และเป็นอาจารย์ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ อนันต์ (อนันต์ สะมัน – เบส) เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์มือถือเจ้าหนึ่ง (ซึ่งใช้สีฟ้าเป็นสีหลัก) และสมพร (สมพร ยูโซ๊ะ – กลอง) ย้ายไปเล่นกลองให้วงกะลา
จาก “สมัครเล่น” สู่“แมส” จาก“แมส” สู่“วงใต้ดิน”
หลังจากที่พักวงไป ในช่วงปี 2553 เมธีก็ได้ชักชวนเพื่อน ๆ มาร่วมกันทำคลิปเล่น ๆ แบบใต้ดินให้หายคิดถึง และในปี 2555 เมธีและอนันต์ ก็ได้ชักชวนเมย์ - ณัฐนนท์ ศรีศรานนท์ ให้เข้ามารับตำแหน่งมือกลองของวงและออกอัลบั้มที่ 7 ในชื่อ “Keep Rocking” มี Single เด่น ๆ อย่าง "ประกันชั้น 3" จนกระทั่งปี 2557 พูนศักดิ์ จตุระบุล (อ๊อฟ) และขจรเดช พรมรักษา (กบ) จากวงบิ๊กแอส ผู้ซึ่งเห็นพัฒนาการของลาบานูนมาโดยตลอดได้ชักชวนให้ลาบานูนย้ายมาที่ค่ายgenie records
“N.E.W.S.” อัลบั้มที่8 ที่ไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอัลบั้ม
สิ่งที่น่าทึ่งสำหรับลาบานูนก็คือ ในอัลบั้มใหม่ล่าสุดของพวกเขานี้ เกิดจากการทำเพลงออกมาทีละ Single แต่ด้วยกระแสตอบรับและคุณภาพงานที่ดี จึงทำให้พวกเขาได้มีอัลบั้มที่ 8 ในชื่อ “N.E.W.S.” ที่เกิดจากการรวมผลงานใต้หลังคาบ้านของ genie records อย่าง "ศึกษานารี" "พลังงานจน" "เชือกวิเศษ" "แพ้ทาง" และ "พนักงานดับเพลิง" เข้าด้วยกัน ซึ่งทั้งหมดนี้มีได้เพราะ “แฟนเพลง” ล้วน ๆ
“เชือกวิเศษ” ที่ยึดโยง“ลาบานูน” กับ“คนฟัง”
การกลับมาของลาบานูน ด้วยเพลง “เชือกวิเศษ” นั้น นับว่าสร้าง “ปรากฏการณ์” ให้วงการเพลงไทยก็ไม่ปาน เพราะเพลงนี้ประสบความสำเร็จทั่วประเทศ ทำลายสถิติยอดผู้ชมในยูทูบถึง100 ล้านครั้งเร็วที่สุดในประเทศไทยโดยใช้เวลาเพียง2 เดือนมีการเข้าชมแล้วมากกว่า200 ล้านครั้ง กวาดรางวัล Single Hit Of The Year จากเวที THE GUITAR MAG AWARDS 2016 และเพลงยอดนิยมในโลกออนไลน์ จาก MThai Top Talk - About 2016 การันตีได้เป็นอย่างดีว่า “ลาบานูน” นั้น สมควรแล้วที่จะได้รับสมญา วงดนตรีตัวพ่อที่เปิดศักราชความเกรียงไกรมาตั้งแต่ยุค “อัลเทอร์เนทีฟ” !
***************
ข้อมูลเพิ่มเติม :
https://themomentum.co/momentum-hotpop-labanoon-before-20th-year/
ภาพประกอบ
เฟซบุ๊ก @LABANOON
นายมิน คนวังทอง วงสตริงวงแรกที่ผมฟังก็บาบานูนนี้เละครับชอบมากตั้งแต่อัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มล่าสุดชอบทุกเพลง
24 มี.ค. 2562 เวลา 06.00 น.
รัชต์วดี ชอบ & รัก นะจ๊ะ ลาบานูน
เลิฟ นะ ยูว์ ยูว์ ยูว์
20 มี.ค. 2562 เวลา 00.47 น.
Joe ชุดแรก ดังมาก แต่โป๊ะแตก เพราะมีคนจับได้ว่าก๊อบของต่างประเทสเกือบทั้งชุด
หายไปพักใหญ่ตามที่ข่าวบอกแหละ
19 มี.ค. 2562 เวลา 09.09 น.
รัก..ลาบานูน
19 มี.ค. 2562 เวลา 02.55 น.
กระนวนฟิชชิ่ง ชอบมากเพลงเชือกวิเศษฮิทอันดับต้นๆในใจ
19 มี.ค. 2562 เวลา 02.54 น.
ดูทั้งหมด