ไอที ธุรกิจ

เลือก ‘โทรศัพท์มือสอง’ อย่างไร ไม่ให้ ‘โดนโกง’

The Bangkok Insight
อัพเดต 27 ก.พ. 2563 เวลา 10.12 น. • เผยแพร่ 27 ก.พ. 2563 เวลา 10.10 น. • The Bangkok Insight

ทุกวันนี้ โทรศัพท์มือสองกำลังเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวาง เนื่องจากราคาที่ประหยัดกว่ามือหนึ่งถึง 70% เหมาะสำหรับเป็นเครื่องสำรองยามฉุกเฉิน บางคนอยากทดลองเปลี่ยนระบบการใช้งานระหว่าง iOS กับ Android ก็สามารถซื้อโทรศัพท์มือสองมาทดลองใช้ก่อน

หรือบางคนมองหาโทรศัพท์มือสองสำหรับงาน หรือแยกใช้เฉพาะส่วนตัว หรือเป็นของขวัญให้คนในครอบครัวช่วยประหยัด และได้คุณภาพ และอีกสารพัดเหตุผล โดย "ตลาดโฟน" มีเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกซื้อโทรศัพท์มือสองมาฝากกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เช็คกล่อง

ควรเช็คสภาพกล่องก่อนว่าอยู่ในสภาพที่ดีหรือไม่ ลองสังเกตตัวอักษรบนกล่องหากเป็นของปลอม ตัวอักษรจะไม่เหมือนของแท้ เช็คลักษณะหมายเลข IMEI (อิมี่) สีของสติ๊กเกอร์ และบาร์โค้ด ถ้าเป็นของแท้จะต้องชัดเจน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นอกจากนี้ ควรเช็คอุปกรณ์ภายในกล่อง ไม่ว่าจะเป็นอะแดปเตอร์ชาร์จ จะมีซีเรียลนัมเบอร์กำกับอยู่ ทดลองจับสายชาร์จ หูฟัง จะนิ่มๆ เพราะผลิตจากวัสดุที่ได้คุณภาพ ตรวจดูมีคู่มือและบัตรรับประกันให้หรือไม่

เช็คตัวเครื่อง

ในกรณีที่ไม่มีกล่อง เราสามารถเช็คได้จากตัวเครื่อง เช่นการประกอบเครื่อง อยู่ในสภาพเรียบร้อยดีหรือไม่ หากเครื่องที่ถูกเปลี่ยนเคส ซ่อมหรือแกะมา การระบายความร้อนจะสู้ของแท้ไม่ได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

บริเวณรอบตัวเครื่องต้องไม่มีรอยบุบ รวมถึงลองกดปุ่มต่างๆ บนเครื่อง เช่น ปุ่ม Power ปุ่มควบคุมเสียง หรือปุ่มโฮม (ถ้ามี) ว่าปุ่มยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ กดแล้วต้องเด้งกลับปกติ

เช็คสภาพแบตเตอรี่จากภายนอก

ให้ถอดตัวแบตเตอรี่ออกมาดูสภาพภายนอก ซึ่งโดยปกติแล้วแบตเตอรี่จะต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่บวม บิดเบี้ยว หรือมีรอยถลอกจนเห็นเนื้อในของแบตเตอรี่
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบด้วยแอปพลิเคชันที่ติดมากับเครื่องหรือโปรแกรมตรวจสอบ

เนื่องจากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หลายรุ่นนั้นไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออกมาทดสอบได้ สำหรับแอปพลิเคชันนั้นสามารถเลือกดาวน์โหลดมาใช้งานได้ตามความสนใจของผู้ใช้งานได้เลย

สำหรับ iOS ให้เข้าไปที่ Settings > Battery > Battery Health หน้าจอจะแสดงเปอร์เซ็นต์ความจุสูงสุด ของแบตเตอรี่ที่เครื่องเราสามารถเก็บประจุได้, ประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดที่เครื่องเราทำงานได้ และบอกปัญหาที่เกิดขึ้นกับแบตเตอรี่ของเรา หากตัวเลขเปอร์เซ็นต์ลดลง ส่วนที่บอกประสิทธิภาพของการทำงานก็จะเปลี่ยนไปด้วย

สำหรับวิธีเช็คสถานะแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนที่เป็นระบบ Android มีขั้นตอนง่าย ๆ เพียงกดเบอร์ *#*#4636#*#* แล้วเลือกข้อมูลแบตเตอรี่ ให้เราสังเกตที่คำว่า “สภาพแบตเตอรี่” จะแสดงเลยว่าแบตของเราเสื่อมสภาพหรือไม่

ตรวจสอบสัญญาณอินเทอร์เน็ต และการเชื่อมต่อต่าง ๆ

ทดสอบตัวเครื่อง การรับสัญญาณ โดยใส่ซิมการ์ดและเชื่อมต่อ Wi-Fi ลองค้นหาและเชื่อมต่อ Bluetooth ดูว่าใช้งานได้ตามปกติหรือไม่

เช็คประกันตัวเครื่อง

หากประกันเครื่องเหลือเยอะ อาจเป็นไปได้ว่าเครื่องผ่านการใช้งานมาน้อย นอกจากนี้ ควรเช็คประวัติการใช้งานโดยสอบถามกับทางผู้ขายว่า เครื่องดังกล่าวผ่านการใช้งานประเภทไหนมาบ้าง เช่น เน้นเล่นเกม แสดงว่าเครื่องดังกล่าวเสี่ยงที่ CPU จอ และแบตเตอรี่เสื่อม

ทดสอบการใช้งานพื้นฐาน

  • ได้แก่ โทรออก – รับสาย ทดสอบความดังของลำโพง เสียงเรียกเข้า เสียงสนทนา ว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่
  • ทดลองใส่ MicroSD (สำหรับรุ่นที่ใส่ MicroSD ได้) แล้วเข้า File Manager ตรวจสอบว่าสามารถอ่าน MicroSD ได้เรียบร้อยดีหรือไม่
  • ทดลองกล้องหลัง กล้องหน้า ลองถ่ายวีดีโอ ลองอัดวีดีโอ แล้วพูดในวีดีโอเพื่อทดสอบการรับเสียงของไมค์ และเปิดวีดีโอลองฟังเสียงเพื่อเช็คลำโพง
  • ทดลองชาร์จแบตเตอรี่ด้วยอะแดปเตอร์ที่ให้มาพร้อมกล่อง
  • ตรวจสอบ เซ็นเซอร์ โดยการยกสมาร์ทโฟนแนบหู แล้วจอดับหรือไม่
  • ทดลองเปิดใช้งานบราวเซอร์ โดยลองตะแคงหน้าจอ ตรวจสอบการตะแคงหน้าจอตามที่เราหมุนจอ
  • ทดสอบการสั่นของตัวเครื่องสมาร์ทโฟน หน้าจอจะเปลี่ยนเป็นสีดำ แล้วสั่น จนกว่าเราจะแตะหน้าจอกลับเข้าสู่หน้าหลัก

สมาร์ทโฟนมือสองราคาประหยัดนั้นมีให้เลือกมากมาย แต่สำคัญคือควรเลือกซื้อกับร้านที่เชื่อถือได้ เครื่องผ่านการตรวจสอบคุณภาพ มีการรับประกัน รวมทั้งก่อนเลือกซื้อควรศึกษาถึงวิธีการตรวจเช็คตัวเครื่องและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพียงเท่านี้ก็จะได้ครอบครองสมาร์ทโฟนมือสองคุณภาพดี ทั้งคุ้มค่า คุ้มราคา ไม่โดนหลอกให้ช้ำใจ

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • kamen rider
    ซื้อมือหนึ่ง ไม่ต้องกังวลใจ เดี๋ยวนี้ราคาถูกๆสเปคดีมีเยอะแยะ แต่ถ้าหลงไหลในแบรนด์นั้นก็อีกเรื่อง
    27 ก.พ. 2563 เวลา 17.35 น.
ดูทั้งหมด