ค้าปลีกย่านดาวน์ทาวน์กลางเมืองหาดใหญ่ซบเซาหนัก ตลาดของฝากชื่อดัง “กิมหยง-สันติสุข” ยอดร่วง-ขึ้นป้ายเซ้งกิจการเพียบ ชี้ผลพวงธุรกิจ-พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ลูกค้าแห่ซบโมเดิร์นเทรด แถมพืชผลทางการเกษตรราคาร่วง-กำลังซื้อวูบ กระหน่ำซ้ำ นักท่องเที่ยวไทย-เทศหาย
แหล่งข่าวจากผู้ค้าปลีกย่านดาวน์ทาวน์หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกย่านดาวน์ทาวน์ 6-7 แห่ง ที่ตั้งอยู่บริเวณระหว่างถนนนิพัทธ์อุทิศ 1-2 และ 3 เทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา เช่น ตลาดสันติสุข ตลาดยงดี ตลาดซาวอย ตลาดเอเชีย ตลาดเอเชีย 83 ตลาดแผงทอง และตลาดสหโชค ตลาดขายของฝากและของที่ระลึก สุรา บุหรี่ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงสินค้าประเภทอาหารแห้ง กาแฟสำเร็จรูป ขนม จากประเทศมาเลเซีย ที่อยู่คู่กับหาดใหญ่มากว่า 40-50 ปี อยู่ในภาวะที่ค่อนข้างซบเซา ยอดขายลดลงมาก
“ในยุคที่รุ่งเรือง หลาย ๆ ร้านมีรายได้เฉลี่ยระดับหลักแสนบาทต่อวัน แต่ละวันจะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อวัน แต่ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมาถึงปัจจุบันยอดขายตกต่ำไปมาก เฉลี่ยเหลือประมาณ 20% ต่อเดือน”
แหล่งข่าวยังกล่าวด้วยว่า นอกจากตลาดของฝากที่ซบเซาแล้ว ในส่วนของห้องค้าหุ้นที่ตั้งอยู่ในบริเวณนี้ต่างทยอยปิดกิจการไปเช่นกัน บางห้างมี 5 ชั้น ต้องทยอยยุบเลิกกิจการไปทีละชั้น บางแห่งเหลือเพียง 2 ชั้น โดยแต่ละชั้นเหลือร้านค้าประมาณ 50 ร้าน เพราะได้ทยอยเลิกกิจการมากกว่าครึ่งแล้ว ขณะเดียวกันหลายร้านมีการขึ้นป้ายประกาศเซ้งกิจการจำนวนมาก
“สาเหตุมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ตกต่ำ โดยเฉพาะยางพารา ปาล์มน้ำมัน ส่งผลต่อรายได้และการจับจ่ายใช้สอยลดลง ขณะที่การขยายตัวของโมเดิร์นเทรดขนาดใหญ่ที่มีมากขึ้น และเข้ามาแย่งลูกค้าไป รวมถึงปัจจุบันผู้บริโภคมีการสั่งสินค้าทางออนไลน์เพิ่มขึ้น”
นายกวิศพงษ์ สิริธนนนท์สกุล กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ซุปเปอร์ค้าส่ง เคแอนด์เค อ.หาดใหญ่ และประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจการค้าในย่านดาวน์ทาวน์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าเก่าแก่ของหาดใหญ่ ซบเซาอย่างต่อเนื่อง และมีร้านค้าทยอยปิดตัวลงไป หลัก ๆ มาจากรูปแบบการค้าขายสมัยใหม่และพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และหันไปใช้บริการและซื้อหาสินค้าตามโมเดิร์นเทรดที่มีความสะดวกสบายและมีบริการต่าง ๆ อย่างครบครัน ประเภทวันสต็อปเซอร์วิส เช่น มีพื้นที่จอดรถที่จอดรถได้จำนวนมาก และกำลังซื้อผู้บริโภคที่ลดลง เนื่องจากราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะยางพาราที่เป็นรายได้หลักของเกษตรกรก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในย่านดาวน์ทาวน์ก็ต้องปรับตัว ปรับวิธีคิด มีการพัฒนาการค้าและการบริการให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค ขณะที่เจ้าของอาคารผู้ให้เช่าแผงก็ควรจะลดค่าเช่าลงบ้าง อาจจะเหลือสักแผงละ 2-3 หมื่นบาท เพราะที่ผ่านมาอาคารบางแห่งคิดค่าเช่าสูงถึงแผงละ 5-6 หมื่นบาท ผู้เช่าเพื่อค้าขายก็น่าจะรับได้ และไม่ต้องขึ้นป้ายให้เช่าเป็นจำนวนมาก
ขณะที่เจ้าของร้านค้าปลีกรายหนึ่งในศูนย์การค้าสันติสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมามีร้านค้าต่าง ๆ รวมถึงร้านขายทอง ทยอยปิดตัวลงไปจำนวนมาก ปัจจุบัน ชั้นล่างมีร้านค้าที่เปิดประมาณ 50 แผง
ส่วนชั้น 2 ไม่ถึง 50 แผง เช่นเดียวกับห้างยงดี ปัจจุบันชั้นล่างมีร้านค้าเปิดขายสินค้าเหลืออยู่ประมาณ 20 ร้านเท่านั้น จากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 50 ร้าน ซึ่งผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่เป็นคนเก่าแก่ดั้งเดิม จึงยังยึดอาชีพขายสินค้ากันต่อไป แต่โดยภาพรวมแล้วยอดขายตกลงค่อนข้างมาก
ล่าสุดผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สำรวจย่านถนนเทศบาลหาดใหญ่สาย 1-2-3 และบริเวณตลาดกิมหยง-สันติสุข พบว่าร้านค้าส่วนใหญ่ได้ทยอยปิดกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนสาย 1 ส่วนตัวตลาดกิมหยงร้านที่จะเปิดให้บริการจะเป็นร้านของกิน-ของใช้ ส่วนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า-นาฬิกา-เสื้อผ้าสำเร็จรูปค่อนข้างเงียบ “หากจะเปรียบเทียบกันแล้ว ตอนนี้ตลาดสันติสุขจะเงียบกว่าตลาดกิมหยง เนื่องจากเดิมทีตลาดนี้จะขายสินค้าแก่นักท่องเที่ยว แต่ตอนนี้เศรษฐกิจโดยรวมของหาดใหญ่แย่ ทั้งยาง-ปาล์ม-ประมงไม่ดี ประกอบกับค่าเงินริงกิตของมาเลย์ก็อ่อนค่าลงด้วย”
นอกจากนี้ จากการสำรวจพบว่าปัจจุบันร้านค้าหลาย ๆ รายในตลาดกิมหยง ตลาดสันติสุข ฯลฯ ได้มีการปรับตัวด้วยการเปิดขายสินค้าผ่านออนไลน์ และบริการส่งฟรีให้กับลูกค้าทั่วประเทศด้วย
ด้านนายวินัย สันติเกษมชัย เจ้าของภัตตาคารวอชิงตัน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กล่าวว่า นอกจากตลาดของฝากดังกล่าวที่อยู่ในภาวะซบเซา ในส่วนของภัตตาคาร ร้านอาหาร ก็เช่นกัน ปัจจุบันโดยภาพรวมยอดขายตกไปมาก เนื่องจากธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร โรงแรม สถานบันเทิง ในหาดใหญ่ล้วนมีรายได้หลักขึ้นอยู่กับธุรกิจการท่องเที่ยว เมื่อการท่องเที่ยวซบเซาตลาดนี้ก็จะได้รับผลกระทบ
ไก่อูบอกเศรษฐกิจดีขึ้นมาก พืชผลทางการเกษตรดีขึ้นสูงสุดในรอบ หลานปีที่ผ่านมา แต่ถามว่า มันขัดแย้งกับสิ่งที่ขาวบ้านเจอจริงๆไหม เศรษฐกิจดีแต่เงินไหลไปอยู่ในมือคนรวยๆ นักธุรกิจผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ แต่ชาวบ้านรายเล็กแย่
25 มิ.ย. 2561 เวลา 01.14 น.
Amornsak S ตั้งแต่ปี 55 แสดงว่า 4 ปี ที่รอคอยนี่มันนานหรือยังครับบังตู่ ดูความจริงบ้างว่ามันเป็นอย่างไร เงินจะซื้อของกินยังแทบไม่มี แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อของฝากละครับ
25 มิ.ย. 2561 เวลา 00.58 น.
123456789 ประกาศแต่ละอันแต่ละอย่างดีขึ้นในรอบ 10 ปี อืมนะะ ไม่มีอะไรจะพูดมาก ดูกันเองละกัน
24 มิ.ย. 2561 เวลา 18.45 น.
Saengtawan ก็ดีนะจะได้จนเท่าเทียมกัน55555
24 มิ.ย. 2561 เวลา 23.40 น.
somporn ตราบใดที่มีรัฐบาลเผด็จการครองประเทศตราบนั้นความเจริญก็จะไม่มีเกิดขึ้นในประเทศนั้นเป็นแบบนี้ทั่วโลกอยากเห็นความเจริญกลับมาในประเทศไทยต้องกำจัดรัฐบาลเผด็จการให้พินาศก่อนเราทุกคนต้องช่วยกันหาวิธีทางเอารัฐบาลชุดนี้ออกให้ได้ทุกวันนี้คำพูดทุกๆคำที่ออกจากรัฐบาลชุดนี้โกหกหลอกลวงประชาชนแทบทุกเรื่องเชื่อคำพูดไม่ได้ปลิ้นปล่อนหลอกลวงทั้งนั้น
25 มิ.ย. 2561 เวลา 00.05 น.
ดูทั้งหมด