กองปราบลุยสางคดี 5 โจ๋สระบุรีรุมโทรมเด็กหญิงวัย 12 ปี

MGR Online - กองปราบลุยคลี่คลายคดี 5 วัยรุ่นสระบุรีรุมโทรมเด็กหญิงวัย 12 ปี พบร้อยเวรไม่ลงบันทึกประจำวัน ชี้มีโทษหนักถึง 4 ข้อหา

วันนี้ ( 18 ธ.ค.) ที่ กองปราบปราม มีรายงานว่า พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก.ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป.เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการเผยแพร่โพสต์เตือนภัยสุดสะเทือนใจบนเฟซบุ๊กจากคุณพ่อรายหนึ่งที่ลูกสาวโดนฉุดไปข่มขืนรุมโทรม โดยในโพสติ์ระบุว่า "ลูกผมเดินอยู่ข้างถนนแล้ว วัยรุ่น 5 คน ฉุดเข้าไปในร้านทุกอย่าง 20 แล้วร่วมกันกระทำชำเรา เหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ยังมีชายคนนึง เป็นญาติของผู้ต้องหาทั้ง 5 อ้างว่าตัวเองเป็น อบต. แล้วจะมายัดเงินให้ผู้เสียหายเพื่อให้เรื่องจบ ไม่ต้องแจ้งความ โดยบอกให้ 30,000 คุยไปคุยมา ต่อเหลือ 10,000 บาท แต่ผู้เสียหายปฏิเสธและยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด นอกจากนี้ตำรวจสระบุรีกลับบอกว่าไม่มีหน้าที่จะจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.อรุณ ได้ส่งชุดสืบสวน กก.2 บก.ป. ลงพื้นที่ตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ กระทั่งพบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.30-06.00 น. ของคืนวันที่ 14 ธ.ค.ที่ผ่านมา เด็กผู้เสียหายอายุเพียง 12 ปี ได้ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุ 5 คนซึ่งมีอายุระหว่าง 15-16 ปี ใช้กำลังบังคับขู่เข็ญพาตัวเข้าไปในที่เกิดเหตุ ซึ่งเปิดเป็นร้านขายสินค้าทุกอย่าง 20 บาท ตั้งอยู่ตรงข้ามอาชีวะศึกษาสระบุรี ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี แล้วร่วมกันรุมโทรมผู้เสียหาย ก่อนปล่อยตัวกลับบ้านไป ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. หลังจากทราบเรื่องทางผู้ปกครองของเด็กหญิงผู้เสียหายจึงเรียกผู้ปกครองของกลุ่มผู้ก่อเหตุมาเจรจา ปรากฏว่าไม่สามารถตกลงกันได้ ผู้เสียหายจึงให้นำกลุ่มผู้ก่อเหตุมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี เพื่อให้ดำเนินคดี แต่พนักงานสอบสวนระบุว่าที่ไม่สามารถควบคุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาไว้ดำเนินคดีได้เนื่องจากไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า หากจับกุมก็ไม่มีอำนาจการสอบสวน เบื้องต้นจึงส่งตัวผู้เสียหายและกลุ่มผู้ก่อเหตุไปตรวจร่างกาย โดยตำรวจเจ้าของคดีระบุว่าเพื่อเก็บหลักฐานก่อนจะนำเข้าสู่ขบวนการสอบสวนคดีเยาวชนที่จะต้องมีสหวิชาชีพเข้าร่วมสอบปากคำต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.อรุณ กล่าวว่า คดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจเนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีสะเทือนขวัญและผู้เสียหายไม่ได้รับความยุติธรรม จึงสั่งการให้ตนเข้าไปดูรายละเอียดและข้อเท็จจริงในเบื้องต้นก็พบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงแต่ในวันที่มีการไปแจ้งความดำเนินคดีนั้นร้อยเวรเจ้าของคดีไม่ได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานส่วนหนึ่งอาจจะเห็นว่าคดีกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาและยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งกรณีนี้หากเป็นความบกพร่องก็ต้องให้หน่วยงานต้นสังกัดดำเนินการตรวจสอบ ในส่วนของกองปราบปรามนั้นได้รวบรวมข้อเท็จจริงและรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาได้รับทราบแล้ว

พ.ต.อ.อรุณ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นพบว่าพฤติกรรมของผู้กระทำความผิดทั้ง 5 คนซึ่งเป็นเยาวชนอาจจะเข้าข่ายผิดข้อหา ร่วมกันกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดา, พาเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปกระทำอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวง และร่วมกันโทรมหญิง อย่างไรก็ตามคดีนี้หากฝ่ายเหยื่อหรือผู้เสียหายเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจกองปราบปรามได้ ซึ่งก็ยินดี แม้เป็นคดีที่ไม่มีความซับซ้อน รู้ตัวผู้ก่อเหตุอยู่แล้ว แต่เนื่องจากเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและเป็นคนที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน กองปราบปรามก็จะเข้าไปจัดการให้