เปิดเส้นทางรัก 14 ปี “เอิน กัลยกร-โจ้”  

เปิดเส้นทางรัก 14 ปี “เอิน กัลยกร-โจ้”  

        เมื่อเอ่ยชื่อ “เอิน กัลยกร” หลายคนทราบกันแล้วบ้างว่าเธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและเข้ารับการรักษา แต่อีกด้านหนึ่ง “เอิน” มี “คุณโจ้ สุนทร” สามี ที่เป็นแรงใจสู้ชีวิตมาด้วยกันตลอด 14 ปี ซึ่งน้อยคนนักจะได้เห็นมุมหวานๆ ของชีวิตรักจากครอบครัวนี้ 

         “ดาราเดลี่” ได้เปิดใจถึงเส้นทางการต่อสู้โรคซึมเศร้า และเส้นทางหัวใจของอดีตนักร้อง กับนักการตลาดอย่าง “คุณโจ้ สุนทร สันติธร” อยากให้เล่าถึงอาการจากภาวะโรคซึมเศร้าว่ามันเกิดขึ้นอย่างไร เกี่ยวกับวงการบันเทิงด้วยไหม 

        โรคซึมเศร้าไม่เกี่ยวกับวงการบันเทิง เอินโตมาพร้อมกับความรุนแรงในครอบครัว เวลาพ่อแม่ทะเลาะกันพ่อแม่ก็จะเรียกมาถามว่าจะอยู่ฝั่งใคร ในความรู้สึกปลอดภัยไม่มี เวลาพ่อแม่ทะเลาะกัน แม่ก็จะเอาไม้กอล์ฟตีพ่อ พ่อบีบคอแม่ ลูกเองก็จะเห็นโดนลงโทษรุนแรงบ้าง บางครั้ง ที่จำได้ตอนนี้ เถียงกับแม่ ห้ามมองแม่ แต่ก็มอง เอินโดนนาฬิกาตั้งโต๊ะปาใส่หน้า

         บ้านเราโตมาในครอบครัวอย่างไง แต่ต้องมีมาตรฐานสังคม ต้องเรียนได้แค่นี้ ทำตัวแบบนี้ถึงจะได้รับความยอมรับ ถูกฝึกมาอยู่แล้ว กลบสิ่งที่เกิดขึ้น เวลาออกไปข้างนอก เวลาไม่อยู่กับครอบครัวเป็นเวลาพักผ่อน ตอนอยู่แกรมมี่ก็เหยียดรูปร่างหน้าตากันมาก บางคนสวยมาก ก็ไปว่าปากบึน บางคนผอมบอกอ้วน เขาเป็นไรกัน เป็นธรรมชาติของวงการ เราเป็นโรคซึมเศร้าอยู่แล้ว 

ภาวะอ้วนมาจากอะไร 
          ลองย้อนดูสำหรับโรคซึมเศร้าน่าจะเป็นตอนเด็ก แต่โรคบูลลี่ เพิ่งมาเป็นตอนอยู่ในวงการ คือภาวะการทานอาหารผิดปกติ จะรู้สึกสูญเสียการควบคุม เวลาที่แม้อิ่มแล้ว ที่กินไม่อร่อย ก็หยุดไม่ได้ เป็นอาการหนึ่งของโรคนี้ เพิ่งเป็นตอนอยู่วงการ ทัศนคติการเหยียดรูปร่างหน้าตา แย่ไหม ก็แย่ แต่เรื่องส่วนตัวเราหนักหนาอยู่แล้ว เราก็เลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรเวลามีใครมาเหยียดเอิน

“เอิน” ออกจากบ้านช่วงไหน
        ออกจากบ้าน คือออกจากวงการบันเทิงแล้ว ประมาณอายุ 20 เลิกคุยกับแม่อายุ 19 ออกมาจากบ้านตอนเรียนปี 3 ตอนมัธยมไม่มีแฟน เข้ามหาลัยมีแฟน

เล่าเรื่องความรักให้ฟังหน่อย 
         พอมีคนดูแล ปี 1 ไม่เข้าใจเรื่องนี้ จะมีแฟนซึ่งเป็นสามีคนปัจจุบัน คือคุณโจ้ทำให้เห็นว่ารักเราแบบไม่มีเงื่อนไข เขาเห็นเราตอนตบหน้าตัวเอง เห็นเราตอนเอาหัวโขกฝาผนัง  เขาก็ยังอยู่กับเรา เขาพยายามเสมอ เราคงมีคุณค่าพอให้เขาคนนั้น คนที่ป่วยโรคซึมเศร้ามักมีชุดความคิด 4-5 แบบ ของเอินคือไร้คุณค่า ฉันไม่มีค่าพอ ถ้าไร้ค่าขนาดนั้นไม่อยู่เลยจะดีกว่า อีกชุดความคิดคือรู้สึกผิดตลอดเวลา 

มาปิ๊งกันอย่างไร 
        สามีเขาทำให้รู้สึกว่าเราน่าจะมีค่าไหม เขาและเอินต่างไม่ใช่สเป็กกันและกัน แต่ว่าในเรื่องรูปร่างหน้าตานะ มาปิ๊งกันจริงๆ คือมาคุยเรื่องวัฒนธรรม สังคม ประวัติศาสตร์ ถกกันได้ ชอบคุยเรื่องเนิร์ดๆ วิชาการ เขาก็ไม่มีคนคุยเรื่องนี้เหมือนกัน  

รู้สึกว่าใช่ตอนไหน 
         เพราะมี “คุณโจ้ สุนทร สันติธร” เราคบกันมา 14 ปี แต่งงานกัน 7 ปี คบกันมาเจออะไรมาเยอะ เขาไม่เคยไม่รักเรา ถามว่าเอินรู้สึกตอนไหน คือใช่ตั้งแต่เดือนแรกที่คบกัน ต่างคนก็ปิ๊งกันเรื่องนี้ 

เรื่องลูก 
         คือที่ผ่านมาครอบครัวที่บ้านเราไม่ประสบความสำเร็จ เอินก็กลัวการมีลูก เพราะเอินกลัวว่าไม่สามารถทำให้ลูกมีความสุข เราไม่มั่นใจครอบครัวสมบูรณ์เป็นอย่างไร ก็คุยกันอยู่ มาก็มา ไม่มาก็ไม่มา เราไว้ใจสามี ชอบความสัมพันธ์ระหว่างกัน ถ้าจะมีกับคนนี้ก็มีได้ 36 มีได้ไหม ก็เคยตรวจก่อนแต่งงาน ล่าสุดไม่ได้ตรวจ เขาน่ารักมาก คนเจอเขาข้างนอกเขาไม่ได้เป็นคนตลกโปกฮา แต่จริงๆ เขาเป็นคนน่ารักมาก กับเรานะ เมื่อก่อนไม่อยากแต่งงาน คบมาจุดหนึ่งไม่แต่งก็ได้ ตอนแรกไม่แต่งเลย อยู่ไปเรื่อยๆ วันหนึ่งเขาป่วย เป็นไทรอยด์เกือบตาย ถ้าเขาขอ ก็อยากทำให้เขา ตัวเขาเองก็คิดว่าเขาค้างอะไร อ๋อค้างเรื่องแต่งงานกับเอินนี่ พอเอินบอกไม่อยากมีลูกก็แฮปปี้ คือยืนเคียงข้างเรา ที่เราเป็น ความรักเราดีแล้วนะ คืออยู่กันสองคนเป็นครอบครัวที่ประสบความสำเร็จ สามีดีต้องอวด