มีวิธีหนึ่งที่คุณจะรู้ว่า
ใครอยากตายจริง คือ ให้ดูว่า
เขาถูกครอบงำด้วยอารมณ์ผีหรือเปล่า
.
‘อารมณ์ผี’ คือ อารมณ์ประมาณ
ฉันไม่เหมาะกับการเป็นมนุษย์
อยากทิ้งชีวิตมนุษย์เหลือเกินแล้ว
ชอบบ่นว่า ชีวิตไม่มีค่า ฉันไม่มีใคร
บ่นเสร็จก็จมดิ่งอยู่ในเงามืดโดดเดี่ยว
หรือบางวันพล่ามพูดเรื่องตาย ๆ ได้เป็นวรรคเป็นเวร
หากเขาหรือเธอสนิทกับคุณ
บางจังหวะก็อาจมองคุณเหม่อ ๆ นาน ๆ
แล้วอยู่ไม่อยู่ก็ปลิ้นความในใจเป็นนัย ๆ
ประมาณ ขอบคุณนะกับความหวังดีที่ผ่านมา
ขอโทษนะที่ตลอดมาดีไม่พอ
.
อารมณ์ผี มักบันดาลจินตนาการเลื่อนลอย
ที่แตกต่างจากอารมณ์มนุษย์ปกติที่รักชีวิต
บางทีก็บอกว่าอยากเกิดใหม่เป็นนั่นเป็นนี่
บางทีก็สนุกกับการทิ่มแทงตัวเองให้รู้สึกผิด
ตอกย้ำจนตัดสินตัวเองว่าไม่ควรเป็นมนุษย์ต่อ
ให้ไปเป็นสัตว์ต่ำต้อยอะไรสักอย่างก็ได้
ขออย่างเดียวอย่าต้องรับรู้แบบมนุษย์กันอีก
.
อารมณ์ผีของแท้จะจมดิ่ง
ไม่กลับขึ้นมาสูดอากาศเหนือน้ำง่าย ๆ
หากคุณจับอารมณ์ผีของใครได้ต่อเนื่อง
นานเกิน ๒ สัปดาห์ขึ้นไป
ก็ให้สันนิษฐานว่า
เขาอยู่ในห้วงอารมณ์อยากตายจริง ๆ
รออยู่แค่จะมีอะไรไปลั่นไก
ปิดสมองส่วนคิดนึก เปิดสมองส่วนคิดสั้นเท่านั้น
.
เพื่อจะช่วย ก่อนอื่นต้องสำรวจว่า
คุณเป็นคนที่พอจะช่วยได้หรือไม่
อย่าเชื่อตาม ๆ กันว่า
แค่เอาใจใส่ หยิบยื่นความรักให้
ก็จะช่วยเขาออกมาจากห้วงอารมณ์ผีได้เสมอไป
.
หากเขาเป็นพวกช่างจินตนาการ ไม่ฟังคุณ
เจอหน้าคุณแล้วเฉยชา ไม่แสดงความดีใจ
ไม่เคยถามความเห็นของคุณ
คุณให้คำแนะนำอะไรแล้วเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
ตัวคุณเหมือนอากาศธาตุในสายตาเขา
นั่นแปลว่า ความรัก ความเอาใจใส่ของคุณเปล่าประโยชน์
ต่อให้คุณเป็นพ่อเป็นแม่ของเขาก็ตาม
.
ในอีกทาง ต่อให้เขาแคร์คุณมาก
แต่เขาเป็นทุกข์จากเรื่องแย่ หรือโรคร้าย
ที่คุณช่วยให้อะไร ๆ ดีขึ้นไม่ได้
เขาต้องถูกตอกย้ำซ้ำซากให้ติดอยู่กับอารมณ์ลบไม่รู้จบ
แบบนี้ความรักเท่าไรที่คุณให้ไป
ก็ไม่ใช่เป็นประกันว่าจะหยุดอารมณ์ผีของเขาได้
.
แต่หากรู้ว่า คุณอยู่ตรงจุดที่เขาแคร์
ใบหน้าของคุณเป็นใบหน้าที่เขาอยากเห็น
และเสียงของคุณเป็นเสียงที่เขาพร้อมฟัง
อันนั้นโอเค มาคุยเรื่องเทคนิควิธีกันต่อ
.
ประการแรก ต้องมองมาจากอีกมุม
อย่าคิดว่าคุณกับเขา
เป็นมนุษย์คุยกับมนุษย์ที่มีเหตุผลด้วยกัน
แต่ต้องคิดว่าคุณเป็นมนุษย์
และกำลังจะคุยกับผีที่ไม่อยากเป็นมนุษย์แล้ว
เมื่อมองอย่างนี้ได้ เวลาคุยกับเขา
คุณจะเห็นภาพตรงหน้าอีกภาพหนึ่ง
ไม่ใช่ภาพของมนุษย์ปกติ
แต่เป็นภาพของจิตวิญญาณที่เป็นทุกข์ เศร้าซม ตรมตรอม
อยากได้ความอบอุ่น อยากได้แสงสว่าง
อยากได้รับความช่วยเหลือแบบคนกำลังจะจมน้ำ
ไม่ใช่อยากได้ยินถ้อยคำจาระไนเหตุผลร้อยแปดแบบมนุษย์
คุณต้องเหวี่ยงห่วงยาง หรือสาดสปอตไลท์ไปหา
อาจเป็นคำที่สั้น หรือวิธีการง่ายๆ
ในอันที่จะช่วยให้ ‘ผี’ มีความสุขขึ้นทันที
ผีถึงจะเห็นคุณเป็นที่พึ่งได้จริง
.
หนึ่งในวิธีที่ผมเคยใช้ได้ผล
คือ เคารพการตัดสินใจฆ่าตัวตายของเขาจริง ๆ
และบอกล่วงหน้าว่า เขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
อันดับแรก ผมยกพุทธพจน์มาเป็นหลักตั้ง
คือ ก่อนตายหากจิตเศร้าหมอง ทุคติเป็นอันหวังได้
ซึ่งเขากำลังจะได้พิสูจน์ว่าจริงหรือไม่จริง
.
ถ้าจริง ก็แปลว่าวาระสุดท้ายของความเป็นมนุษย์
ต้องวัดดวงกันที่จิตสุดท้าย
หากจิตดวงสุดท้ายมีสภาพดำมืด เป็นอกุศล
พอดับลง ก็ต้องเกิดจิตดวงใหม่
ในสภาพภพภูมิที่สอดคล้องกัน
นั่นคือ มืดบอด หนาวเย็น
แสงกุศลสาดเข้าไปถึงยาก
'
ผมไกด์คนที่ตัดสินใจฆ่าตัวตายจริง ๆ ว่า
ถ้าไปถึงจุดนั้น หากระลึกได้ถึงที่พึ่งที่แท้จริง
คือ บุญที่เคยสร้างไว้
ก็มีสิทธิ์เรียกความสว่างมาหาตัวได้
เช่น หากนึกออกว่าเมื่อครั้งเป็นมนุษย์
เคยเศร้าซึมเป็นทุกข์ เหน็บหนาวคล้ายอย่างนี้
แล้วได้เข้าห้องพระ สวดอิติปิโส
โดยไม่หวังอะไรมากไปกว่าถวายแก้วเสียงเป็นพุทธบูชา
เพื่อเปิดใจรับพระพุทธคุณ
ยิ่งสวด ใจยิ่งสว่าง กายยิ่งสดชื่น
กลับฟื้นคืนกำลังวังชาขึ้นมาใหม่ได้
.
หากตั้งใจไว้อยู่แล้วก่อนตายว่า
จะสวดให้มาก สวดให้คล่อง
เพื่อเอาไปใช้ เผื่อจะมีภพมืดหลังความตายจริงๆ
ก็จัดเป็นทั้งมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม
ที่ทำให้เอาไปใช้ได้ ระลึกได้ นึกออกบอกถูกขึ้นมา
เปรตที่สวดอิติปิโสอยู่ตลอดเวลา
ดีทันทีตรงที่มีกำลังความสว่างอย่างรวดเร็ว
ได้ที่พึ่งให้ตนเอง มีความสุขมากกว่าความทุกข์
และดีในระยะยาว
คือ เมื่อสะสมกำลังความสว่างได้มากพอ
ก็ถึงจุดหลุดจากความเป็นเปรตได้ในเวลาไม่นานนัก
.
หากการตระเตรียมของเขาดีพอ
เขาอาจตาสว่าง
เห็นว่าสวดอิติปิโสตอนเป็นมนุษย์
ประกันได้ว่าสว่างจริง และแก้ตัวใหม่ได้
ดีกว่าตอนไม่เหลือลมหายใจมนุษย์ไว้ค้ำจุนเยอะ
.
สรุปคือ ถ้าเขาอยู่ในอารมณ์ผีจริง ๆ
ไม่ต้องขอร้องให้เขาเลิกคิดฆ่าตัวตาย
แต่แนะให้เขาซ้อมสวดมนต์ก่อนตายบ่อย ๆ
หากเขาบอกว่าไม่ไหว ไม่มีกะจิตกะใจสวด
สวดแล้ววอกแวก ไม่มีสมาธิ ยิ่งสวดยิ่งเศร้า
ลองแนะนำให้เขาฟัง ))เสียงสติ(( ไปด้วย
ซึ่งมี เวอร์ชั่นช่วยสวดมนต์ ที่ผมออกแบบมา
เพื่อช่วยเป็นฐานให้จิตตั้งมั่นหนักแน่นขึ้น
การฟัง ))เสียงสติ(( ต้องใช้หูฟังสเตอริโอ
แยกซ้ายขวาให้ถูกข้าง
คุณควรศึกษารายละเอียดพื้นฐานเพื่อสอนเขาที่
absorn คนเขียนเขียนราวกับเข้าใจ แต่สรุปสุดท้ายก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี คนที่อยู่ในอารมณ์ผีต่อให้พ่อให้แม่มาอยู่ตรงหน้า ต่อให้พระมาบิณฑบาตร ต่อให้สวดมนต์ทุกคืนทุกวัน แต่ช่วยไม่ได้หรอกครับ คนที่จะช่วยเขาได้คือจิตแพทย์ คำพูดหรือบทสวดมนต์หรือความรักช่วยหยุดเขาได้ชั่วครั้งชั่วคราว แล้วผีก็จะมาอีก ถ้าคนที่คุณรักมีอาการซึมเศร้าสิ่งที่คุณช่วยได้ดีที่สุดคือพาเขาไปพบจิตแพทย์นะครับ
27 ต.ค. 2562 เวลา 07.51 น.
Tickety-Boo!!!🐈 จำได้เคยพูดอยู่ประโยคนึง.....
มึงไม่เหลือใคร แต่มึงยังเหลือกู..กูยังเป็นคนเดิม ยังใช้เบอร์เดิม และที่สำคัญกูยังรักมึงเหมือนเดิม!!!
และหลังจากนั้นผ่านมาเกือบ 10 ปี..มันก็กลับมาเป็น"หญิงลัลลา"ของมันเหมือนเดิม.
...........งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลา.........
ถ้ามึงผ่านเข้ามาอ่านเจอ กูรู้มึงจำกูได้ กูยังยืนยันเสมอนะ..เพื่อนกูรักมึงว่ะ!!!😁
26 ต.ค. 2562 เวลา 20.05 น.
k.sol เคยมีอารมณ์อยากฆ่าตัวตายมาก่อน ผมเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของคนปลิดชีพตัวเอง แต่ผมผ่านมาได้ ก็เพราะความกล้าในวินาทีนั้น รวมรวบสติดึงตัวเองกับมาให้เร็วที่สุด ลุกขึ้นเดิน วิ่งๆ วิดพื้น ทำอยู่อย่างนี้หลายรอบ ผ่านวิกฤตอารมณ์ในชั่วขณะนั้นไปได้ / ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน กับสภาพสังคมที่ย่ำแย่ลงทุกวัน
27 ต.ค. 2562 เวลา 10.52 น.
ผมคิดว่าในการให้กำลังใจกัน และคอยช่วยชี้แนะแนวทางแก้ไขเพื่อให้เป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง ก็คงจะช่วยทำให้ทุกอย่างดีขึ้นมาได้บ้างเหมือนกันนะครับ.
27 ต.ค. 2562 เวลา 02.12 น.
นู๋เคยคิดฆ่าตัวมันมีสาเหตุว่าทำไมถึงทำ อยากให้คนที่อ่านเข้าใจว่าการคืดสั้นมันแค่อารมชั่ววูบ ประเด็นสำคัญที่คิดสั้นคือการเรียกร้องความสนใจจากคนรักให้สนใจทำร้ายตัวเอง เพื่อหนี้ปัญหาเรื่องหนี้สิน ตกงาน ไม่มีเงินติดตัว เพื่อมีปัญหาหนักขึ้น คนรักก็หนีไปมีความสุข ทำให้มืดแปดด้าน เป็นคุณหละ
แต่ที่อยากจะบอกคนที่คิดสั้นอยากตายไม่ต้องฆ่าตัวเองต้องฆ่ามัน555ล้อเล่น
ให้เพื่อนรวบรวมการเสียใจเสียเวลาแล้วตั้งสติคิดทบทวนการกระทำนั้นๆว่ามันใช่ไหมถูกหรือผิด แยกแยะ
ตั้งสติทำสมาธิให้ตั่งมั่นจริงๆแล้จะมีปัญญาแกไขมััน
27 ต.ค. 2562 เวลา 18.08 น.
ดูทั้งหมด