ทั่วไป

แตกตื่นทั้งวัด! กำลังเอาเข้าเมรุ ยาย 70 ตายแล้วฟื้น หลังอยู่ในโลง 3 วัน ผัวโผกอด ลูกหาว่าบ้า

Khaosod
อัพเดต 23 ต.ค. 2562 เวลา 15.47 น. • เผยแพร่ 23 ต.ค. 2562 เวลา 15.47 น.

**แตกตื่นทั้งวัด! กำลังเอาเข้าเมรุ ยาย 70 ตายแล้วฟื้น หลังอยู่ในโลง 3 วัน

ผัวโผกอด ลูกหาว่าบ้า**

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ว่า มีคนตายแล้วฟื้น ต่างพากันแตกตื่นทั้งวัด ส่วนญาติๆ ทั้งดีใจและตกใจ โดยเหตุเกิดขณะจะนำร่างเข้าเมรุเผาศพที่วัดอัมพะวัน บ้านดงเย็น ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี แต่ผู้เสียชีวิตกลับฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 72 หมู่ 8 บ้านอ้อมแก้ว ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านที่จัดงานศพของนางพินิจ โสภาจร อายุ 70 ปี พบลูกหลานและญาติที่มาร่วมงานศพจำนวนมาก ต่างช่วยกันดูแลนางพินิจ เพื่อช่วยกันทำให้ร่างกายอบอุ่น หลังจากโดนแช่ในโลงเย็นมาเกือบ 3 วัน ขณะที่ญาติๆ ที่เดินทางมาร่วมงานศพ ทั้งจากกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ พากันกล่าวขานถึงเรื่องคุณยายนิจที่ตายแล้วฟื้นคืนชีพมาได้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นางบุษบา โสภาจร อายุ 46 ปี ลูกสาวของคุณยายพินิจ เปิดเผยว่า คุณแม่เสียชีวิตเมื่อประมาณตี 1 ของวันที่ 20 ต.ค. ลูก ๆ หลานๆ จึงพากันจัดงานศพบำเพ็ญกุศลตามประเพณี และวันนี้เวลาประมาณบ่ายโมงก็เคลื่อนศพจากบ้านไปยังวัดอัมพะวัน บ้านดงเย็น ซึ่งมีพิธีเหมือนงานศพทั่วไป โดยนำศพของผู้วายชนม์วนรอบเมรุ 3 รอบ มีนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเชียง และญาติๆ มาร่วมพิธี

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

นางบุษบา กล่าวต่อว่า เมื่อถึงพิธีการขั้นสุดท้ายจะนำร่างแม่เข้าเมรุ มีการประกาศให้นายถวิล ซึ่งเป็นสามีมารดน้ำหอมหน้าศพ แต่ขณะที่พ่อกำลังรดน้ำหอม ปรากฏว่าแม่ลืมตาขึ้นมา พ่อร้องลั่นทั้งวัด บอกว่าแม่ยังไม่ตาย ยังไม่ตาย แต่ญาติๆ ไม่เชื่อนึกว่าพ่อบ้า ก็พาพ่อไปหลบข้างโบสถ์ แต่น้องชายมาเห็นแม่ลืมตาอีกคน จึงรีบนำร่างแม่ที่ยังไม่ตายออกจากโลงศพ ก่อนเรียกกู้ภัยและหน่วยกู้ชีพรพ.หนองหาน มาช่วยปั๊มหัวใจ ท่ามกลางความตกใจของแขกที่มาร่วมงานศพ และรีบนำส่งรพ.หนองหานทันที แต่ทางคุณหมอบอกว่าไม่รับรักษา เนื่องจากเซลล์สมองตายแล้ว ญาติๆ จึงนำร่างแม่กลับมาที่บ้าน และมีหลานที่เป็นพยาบาลมาช่วยกันทำร่างกายให้อบอุ่นขึ้น

ด้านนายถวิล โสภาจร อายุ 73 ปี สามีของนางพินิจที่ยังอยู่ในอาการตกใจ บอกว่า ภรรยาป่วยเป็นโรคคอพอกมาตั้งแต่เป็นเด็ก หลังจากอายุ 50 ปี คอก็เริ่มใหญ่ขึ้น ตนรักษาทั้งยาไทยและยาต่างประเทศ รักษาอยู่ 20 ปี อาการก็ทุเลามาเรื่อย แต่เมื่อ 9-10 วันที่ผ่านมา ภรรยามีอาการไข้เกิดขึ้น และมีเสมหะติดลำคอ หายใจไม่ปกติ ได้ยินเสียงค้อกๆ ตนจึงได้บอกลูกๆ รีบนำแม่ส่งรพ.หนองหาน พอไปถึงรพ.หนองหาน หมอก็ช่วยใช้สายยางดูดเสมหะออก และส่งต่อไป รพ.ศูนย์อุดรธานี ไปอยู่รพ.อุดรได้ 3-4 วันหมอที่นั่นบอกว่า สมองแม่บวมและต้องรักษาอยู่ 3-4 วัน แต่หลังจากนั้นอาการทรุดหนัก

นายถวิล กล่าวต่อว่า หมอถามว่าจะให้กระตุ้นหัวใจมั้ย ตนบอกว่า แม่ร่างเล็กคงทำไม่ได้ จึงปรึกษากับลูกๆ ถ้าแม่ตายก็ให้มาตายอยู่บ้าน เมื่อประมาณ 1 ทุ่ม วันที่ 19 ต.ค. รพ.มาส่งที่บ้าน หมอให้ยาไว้เข็มหนึ่ง บอกว่าถ้าแม่ทรมานให้ฉีดยา แต่พ่อไม่ฉีด ถ้าแม่ตายก็ให้ตายอย่างสงบ พอมาวันที่ 20 ต.ค. ประมาณตี 1 แม่ก็หมดลมหายใจ จน 9 โมงเช้า จึงนำร่างใส่โลงเย็นมาตั้งบำเพ็ญกุศลตั้งแต่วันที่ 20 ถึงวันที่ 23 ต.ค. ภรรยาอยู่ในโลงเย็นมา 3 วัน ตนและญาติๆ จะนำร่างภรรยาไปเผาที่วัดอัมพะวัน บ้านดงเย็น มีญาติพี่น้องมาร่วมงานจำนวนมาก

นายถวิล กล่าวอีกว่า ขณะตนจะไปฉีดน้ำหอมและบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเกิดในชาติหน้าให้เกิดเป็นลูกมหาเศรษฐี อย่าให้ทุกข์ยากแบบนี้ พอฉีดน้ำหอมได้ทีเดียว ภรรยาก็ลืมตาขึ้นมา ตนทั้งดีใจและตกใจ จึงบอกลูกๆ และญาติที่มาร่วมงานว่า แม่ลืมตาแล้ว ตนก็โผโอบกอดภรรยา แต่ลูกๆ ก็มาดึงเอาไว้ข้างโบสถ์ นึกว่าพ่อบ้า แต่พ่อไม่ได้บ้า

“ต่อมาลูกชายไปเห็นแม่ลืมตาจริง จึงรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยและหน่วยกู้ชีพมาช่วยปั๊มหัวใจทันที ดีใจและคิดว่าภรรยาไม่ตายอยู่แล้ว เพราะอยู่มา 3 วันร่างไม่แข็ง แต่หากพ่อไม่เห็นก่อน คงเผาคนเป็นแน่นอน แต่ตอนนี้หมอไม่รับ บอกว่าสมองแม่ตายแล้ว แต่ยืนยันว่า จะไม่ยอมเผาแม่แน่นอน จนกว่าแม่จะมีร่างแข็งตัวถึงจะเผา ภรรยาจะอยู่นี่เป็นปีหรือ 2 ปีก็จะไม่เผา แต่หากภรรยากลับฟื้นมาปกติก็จะทำบุญครั้งใหญ่ให้เต็มที่” นายถวิล กล่าว

ขณะที่คอหวยไม่พลาดหลังคุณยายพินิจตายแล้วฟื้น พากันแห่ตีเลขเด็ด บ้านเลขที่ 70 และอายุของคุณยายพินิจ อายุ 70 ปี 2 เดือน กับอีก 4 วัน ทำให้เลข 724 ขายดีจนเกลี้ยงแผงในงานศพวันนี้

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 14
  • Synkornize ⭐
    ยายคงยังไม่ตายตั้งแต่แรก ครอบครัวคิดว่าตายจึงจัดงานให้ เพราะตอนแรกไม่มีแพทย์มาชันสูตร
    23 ต.ค. 2562 เวลา 16.43 น.
  • สาริกัน ธีรปัญญา
    ทำไมหมอที่นั่นจิตใจโหดร้าย ให้ยาตายไว้กับสามี เป็นหมอควรจะช่วยคน ไม่ใช่ฆ่าคน มิใช่หรือ??
    23 ต.ค. 2562 เวลา 19.55 น.
  • wichai
    เขาไม่ฉีดกันแล้วฟอร์มาลีน เขาใส่โลงเย็นศพจะไม่เน่าไม่เหม็นเหมือนคนนอนหลับ.
    23 ต.ค. 2562 เวลา 17.28 น.
  • Pornkamön
    สมองตาย ไม่ต่างจากตาย
    23 ต.ค. 2562 เวลา 18.36 น.
  • vatchanathip
    เป็นถึงขนาดสังเกตไม่ออกว่าคนตายหรือไม่ตาย สมองตาย อย่างน้อยก็ต้องสังเกตได้ว่าหายใจอยู่รึไม่
    23 ต.ค. 2562 เวลา 17.24 น.
ดูทั้งหมด