ไอที ธุรกิจ

ซื้อคอนโด=ซื้อทำเล ASHTON ASOKE อยู่ใจกลางอโศกที่แท้จริง

TERRABKK
อัพเดต 02 มิ.ย. 2563 เวลา 04.36 น. • เผยแพร่ 02 มิ.ย. 2563 เวลา 04.11 น. • TERRABKK
ซื้อคอนโด=ซื้อทำเล ASHTON ASOKE อยู่ใจกลางอโศกที่แท้จริง

         การได้ครอบครองบ้านหลังใหญ่ สนามหญ้าหน้าบ้านปลูกต้นไม้เขียวขจี ภายในบ้านพร้อมหน้ากันทั้งครอบครัว รายล้อมด้วยสังคมเพื่อนบ้านและสิ่งแวดล้อมที่ทำให้สดชื่น ..มโนภาพเหล่านี้เป็นสิ่งที่วัยกลางคนที่อยากมีบ้านใฝ่ฝันถึง

            แต่เชื่อหรือไม่? บางคนที่สามารถคว้าความฝันเหล่านี้มาอยู่ในกำมือได้แล้ว ก็ยังกลับไปซื้อบ้านหลังที่สองในทำเลใจกลางเมืองอยู่ดี เหตุผลก็เพราะว่า ‘ทำเล’ คือสิ่งที่ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งทวีมูลค่า การซื้อบ้านใจกลางเมือง จึงเป็นการซื้อทำเลที่ล้ำค่าสำหรับอนาคต

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คนยุคใหม่ชอบใช้ชีวิตและ Lifestyleแบบทำเลใจกลางเมือง

            เมื่อต้องพบกับปัญหาระยะทางที่ไกลเหลือเกินจากที่ทำงาน ทำให้บ้านหลังใหญ่ทำเลชานเมืองที่เคยฝันไว้ไม่สวยงามเหมือนที่ใจคิด ประกอบกับการมีอยู่ของสิ่งอำนวยความสะดวก และแหล่งไลฟ์สไตล์ ที่ไม่ได้หนาแน่นเหมือนในใจกลางเมือง และ ความไม่สมดุลของแหล่งงานและที่อยู่อาศัย (Job Housing Balance) ทำให้หลายคนเริ่มมองหาบ้านหลังที่สองใจกลางเมือง เพื่อใช้ชีวิตแบบเร่งรีบน้อยกว่าในวันธรรมดา

            การซื้อบ้านหลังที่สองในใจกลางเมือง เริ่มแพร่หลายมากขึ้นในกลุ่มคนยุคใหม่ ที่ให้ความสำคัญเรื่องความสมดุลในการใช้ชีวิตแบบ Work hard, Play hard ที่ในเวลาทำงานก็ต้องทุ่มเทให้สุด ส่วนนอกเวลางานก็ต้องพักผ่อนให้สุดเหวี่ยง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

            จากรายงานเรื่อง The Suburb of the Future, Almost Here นิตยสาร Times ชี้ให้เห็นว่า คนยุคใหม่เข้าใจดีเรื่องของสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและมีคุณภาพชีวิตที่ดีของทำเลชานเมือง แต่อย่างไรก็ตามคนกลุ่มนี้ก็ยังครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในใจกลางเมือง ด้วยเหตุผลด้านความสะดวกสบายต่อการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตในทุกมิติของชีวิตประจำวัน

 

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เจาะเหตุผล ทำไมต้องมีบ้านหลังที่สองใจกลางเมือง

            สำหรับ Point หลักที่ทำให้หลายคนตัดสินใจมีบ้านในทำเลใจกลางเมืองคือ  

1. ทำเล การหาที่ได้ยากขึ้นของใจกลางเมือง เนื่องจากที่ดินในเขตใจกลางเมืองได้ถูกพัฒนาไปแทบจะหมดแล้ว เพื่อสอดคล้องกับการเติบโตของสังคมเมืองที่เติบโตในทุกปี ทำให้ที่ดินเปล่า หรือที่ดินยังไม่พัฒนาหายากเหมือนงมเข็มในมหาสมุทร ทำให้ที่ดินในเขตเมืองกลายเป็น Rare Item เพราะฉะนั้นการมีที่อยู่อาศัยหรือมีที่ดินในใจกลางเมืองถือว่าได้ครอบครอง Rare Item อย่างหนึ่งของประเทศไทย

2. บ้านใจกลางเมือง สะดวกต่อชีวิตการทำงาน แหล่งงานส่วนมากจะกระจุกอยู่ในแถว CBD โดยเฉพาะใน ทำเลอโศกยังเป็นพื้นที่สำคัญในด้านแหล่งงานด้วย เนื่องจากอโศกเป็นทำเลที่มีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่รวมตัวกันอย่างหนาแน่น supply ออฟฟิศให้เช่ามากกว่า 500,000 ตารางเมตร บริษัทมากกว่า 100 บริษัทชื่อดัง ที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในทำเลนี้ อาทิเช่น บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, ธนาคาเกียรตินาคิน, ธนาคารซิตี้แบงก์ และสตาร์บัคส์ ประเทศไทย(สำนักงานใหญ่) เป็นต้น ทำให้การอยู่อาศัยในทำเลใจกลางเมืองสะดวกต่อชีวิตการทำงานอย่างแท้จริง

3. การอยู่อาศัยในทำเลใจกลางเมือง ทำให้ได้รับ Facility ที่ดีกว่าและครบครันกว่าย่านชานเมือง ย่านใจกลางเมืองแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า แหล่ง Shopping ขนาดใหญ่ และศูนย์รวมEntertainment รูปแบบต่างๆ อาทิเช่น Terminal21, Central Embassy,The Em Distrct, Central World และ Gaysorn Village เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างสวนเบญจกิติ สวนป่าแห่งเดียวใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่มีเนื้อที่กว่า 320 ไร่ ทำให้ย่านใจกลางเมืองตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิตการทำงาน การผักผ่อนได้อย่างครบทุกมิติ

เปิดสถิติต้นทุนที่ต้องจ่ายจากการเดินทาง

            จากงานวิจัย Unlocking Cities: The impact of ridesharing in Southeast Asia and Beyond โดย The Boston Consulting Group (2560) ชี้ให้เห็นว่ากรณีของกรุงเทพมหานคร มีจำนวนรถที่ใช้งานในปี 2560 ถึง 5.8 ล้านคัน หรือคิดเป็น 160% ของจำนวนรถที่ควรจะมีบนท้องถนน อีกทั้งประชากรกรุงเทพฯ ยังเสียเวลาถึง 72 นาทีต่อวัน เพื่อเผชิญกับปัญหารถติดบนท้องถนน และอีก 24 นาทีต่อวัน เพื่อเผชิญปัญหาที่จอดรถ รวมกันแล้วประชากรกรุงเทพฯ ต้องเสียเวลาอย่างน้อยๆ 1.30 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 24 วันต่อปีให้กับปัญหาด้านการเดินทางด้วยรถยนต์ หากลองเอาเวลาที่เสียไปมาคำนวณในงาของต้นทุนทางเศรษฐกิจ จะพบว่าผู้ใช้รถยนต์ในกรุงเทพฯ จะเสียรายได้โดยเฉลี่ยถึง 157,000 บาทต่อคนต่อปี  จากผลการศึกษาของ ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (Asia Development Bank: ADB) ยังเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่า ต้นทุนที่เสียไปจากค่าเสียโอกาส คิดเป็นต้นทุนทางเศรษฐกิจถึง 2.5% ของจีดีพีในภูมิภาคอาเซียน

            ซึ่งในทางกลับกัน การซื้อที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง ไม่ใช่เพียงแต่ซื้อเวลาและความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังทำให้ชีวิตไม่ต้องเสียต้นทุนทางเศรษฐกิจที่มากับการเดินทางไกลจากชานเมืองอีกด้วย

ASHTON ASOKE คำตอบของชีวิตดีๆ ที่มีบ้านใจกลางเมือง

            ในเมื่อสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในแต่ละวันของคุณคือเวลา การมีบ้านที่จะมอบเวลากลับคืนมาคงเป็นยิ่งกว่าความสุขและมากกว่าแค่การลงทุนในชีวิต นี่เป็นเพียงหนึ่งเสี้ยวของคำตอบของชีวิตดีๆที่ ASHTON ASOKE มอบให้กับคุณ

(รูปโครงการ ASHTON ASOKE)

 

เริ่มต้นด้วยความสุขอย่างสมบูรณ์แบบ

            หากว่าจุดเริ่มต้นของความสุขแรกคือการเพิ่มขึ้นของเวลา เป็นจุดเริ่มต้นให้เกิดโอกาสในชีวิต โอกาสในการใช้เวลากับคนที่รัก โอกาสที่ได้ทำกิจกรรมที่ชอบ และโอกาสสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นแล้วโครงการ ASHTON ASOKE คือจุดเริ่มต้นของความสุขนั้น เพราะตั้งอยู่บนทำเลที่จะทำให้ทุกโอกาสเป็นไปได้

ASHTON ASOKE บนทำเลที่เดินทางสะดวกที่สุด ใจกลางกรุงเทพฯ

            ASHTON ASOKE เพียง 20 เมตร ก็สามารถเชื่อมต่อชีวิตกับรถไฟฟ้า อีกทั้งทำเลอโศก ยังเป็นทำเล Interchange ที่สำคัญที่สุดในพื้นที่ Extend-CBD และถึงแม้กรุงเทพมหานครจะมีรถไฟฟ้าครบ 10 สาย ก็ไม่มีรถไฟฟ้าสายไหนมีสามารถเทียบเคียง BTS สายสีเขียว และ MRT สายสีน้ำเงิน อีกแล้ว

  • BTS สายสีเขียว ผ่ากลางเมือง (Radial Line) - ลักษณะของรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นการเชื่อมระหว่างกรุงเทพทิศเหนือสู่กรุงเทพทิศใต้ เป็นสายที่ถูกสร้างให้เป็นลำดับแรก เนื่องจากผ่านศูนย์กลางธุรกิจในเมืองมากที่สุด มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุด โดยมีจำนวนผู้โดยสารถึง 49,275,000 คนต่อปี
  • MRT สายสีน้ำเงิน วิ่งรอบเมือง (Ring Line) – มีเส้นทางเป็นวงแหวนวิ่งรอบพื้นที่เมือง มีจุดเชื่อมต่อกับ Radial Line เพื่อให้การเดินทางจากอีกด้านของเมืองสู่อีกด้านของเมือง ไม่ต้องประสบกับปัญหาจราจรที่หนาแน่นสูงใจกลางเมือง มีความสำคัญเป็นลำดับรองลงมาโดยสถานีสุขุมวิทมีจำนวนผู้โดยสารต่อปีถึง 35,066,050. คน

ASHTON ASOKE มอบความสุขแห่งการพักผ่อนเหนือระดับ

            ตึกสูงสีดำสวยตระหง่านใจกลางทำเลอโศก ไม่เพียงแต่จะมอบภาพลักษ์ณ์ที่เหนือระดับให้กับผู้อยู่อาศัย แต่ยังมอบความรื่นรมย์ สงบ และเป็นส่วนตัวแม้อยู่ใจกลางเมือง พร้อมด้วยการเปิดโลกใหม่แห่งการพักผ่อนและสุนทรียภาพที่เหนือระดับ ด้วยจำนวนยูนิต 783 ยูนิต ที่จอดรถถึง 371 คัน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ ที่รอให้ได้คุณสัมผัสกับมาตรฐานใหม่แห่งการใช้ชีวิตในเมือง

(รูปโครงการ ASHTON ASOKE)

 

            บนชั้น 35 ของโครงการ ASHTON ASOKE มีความสุขที่เหนือระดับรอคอยคุณอยู่ พร้อมให้คุณผ่อนคลายกับ ห้องอบไอน้ำ และห้องซาวน่า ออกกำลังกายในฟิตเนสและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่มี city view โอบอุ้มตัวคุณไว้ และพร้อมเปิดรับสังคมของคุณใน Social club และห้องสมุด ที่ให้คุณดื่มด่ำกับสังคมเหนือระดับที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ

(รูปส่วนกลาง ASHTON ASOKE)

สำหรับโอกาสการลงทุนในทำเลASOKE

นอกจากการมีที่อยู่อาศัยในทำเลใจกลางเมืองอย่างย่านอโศก จะสามารถสร้างความสะดวกสบาย ทำให้ใช้ชีวิตแบบมีเวลามากขึ้น ตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้แล้ว การมีคอนโดในย่านอโศกยังสามารถสร้างผลตอบแทนในการลงทุนได้อย่างน่าพอใจอีกด้วย เพราะพื้นที่อโศกเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีการเติบโตของราคา Presale อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2013 ราคา Presale อยู่ที่ประมาณ 150,000 บาท/ตร.ม ปัจจุบันปี 2020 เป็น 200,000 บาท/ตร.ม

และสำหรับการถือครองคอนโดมิเนียมย่านอโศก ยังสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย Capital Gain 4%-7% ต่อปี ราคาขายห้องมือสองเฉลี่ยในพื้นที่ 100,000-250,000 บาท/ตร.ม

นอกจากนี้การปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมในพื้นที่ สามารถสร้างผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าเฉลี่ย Rental Yield 3-6% ต่อปี มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยในพื้นที่ 400-800 บาท/ตร.ม./เดือน (ตามขนาดห้องและสิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง)

โอกาสดีของการมีที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง

         ต้องบอกว่าในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพราะเดือน พฤษภาคม 2563 ธนาคารส่วนใหญ่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MLR และ MRR ลงมาที่ 0.25% - 0.40%  ส่งผลให้ธนาคารให้สินเชื่อบ้านโดยคิดดอกเบี้ยต่ำ

ASHTON ASOKE คอนโดมิเนียมที่มอบความสุขและความภาคภูมิใจในการใช้ชีวิต พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของเอกสิทธิ์เหนือระดับนี้ กับ โปรโมชั่น สุดคุ้ม ราคาพิเศษ 6.99  พร้อมฟรี Furniture Package และ ฟรี ค่าใช้จ่าย วันโอน (จำนวนจำกัด)

สนใจโครงการ คลิก - https://anan.ly/Terra

ดูข่าวต้นฉบับ