ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เคยคำนวณเงินในกระเป๋าตัวเองมั้ยว่า ถ้าต้องการใช้ตอนนี้ 30,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามไปกู้ยืม ห้ามกดจากบัตรเงินสด ห้ามใช้เงินออมเพื่อการเกษียณ คุณมีเงินก้อนนี้มั้ย?
สมมติว่ามี เงินแค่นี้สบายมาก คำถามต่อมาคือ ถ้าเดือนถัดไป มีเหตุต้องใช้เงินฉุกเฉินอีก 20,000 บาท ด้วยเงื่อนไขเดียวกัน คือ ห้ามไปกู้ยืม ห้ามกดจากบัตรเงินสด ห้ามไปเอาเงินที่เก็บไว้ใช้ตอนเกษียณ ยังมีอีกมั้ย
ถ้าตอบว่ามี ถือว่ารู้จักแบ่งเงินเอาไว้ใช้ตอนมีเรื่องฉุกเฉินได้อย่างเพียงพอ
แต่สำหรับบางคน เมื่อจำเป็นต้องใช้เงินแบบด่วนจี๋ แค่หลักพันบาทยังต้องขอยืมจากคนอื่น หรือกดจากบัตรเงินสด ถ้าเป็นแบบนี้เดาได้ไม่ยากว่า ไม่เคยเตรียมเงินออมสำรองฉุกเฉินแม้แต่บาทเดียว
ถ้าใครยังเคยมีเงินเผื่อใช้ฉุกเฉิน คงถึงเวลาต้องเตรียมพร้อมกันแล้ว…
หลักการคือ เงินฉุกเฉินควรมีอย่างน้อยๆ 3 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน และถ้าให้ปลอดภัยสุดๆ จะมีสูงถึง 6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนก็ได้
วิธีการ ให้สำรวจว่ามีค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเท่าไหร่ โดยนำเงินเดือนมาคำนวณ เช่น เงินเดือน 30,000 บาท มีค่าใช้จ่ายราวๆ 18,000 บาท แสดงว่ามีค่าใช้จ่ายประมาณเดือนละ 60% ของเงินเดือน
สมมติว่า อยากมีเงินออมสำรองฉุกเฉินสัก 3 เท่าของค่าใช้จ่าย ก็นำ 18,000 มาคูณ 3 แสดงว่าควรมีเงินไว้ใช้ยามจำเป็น 54,000 บาท แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ค่อยอุ่นใจ อยากมีเงินสำรองฉุกเฉินสัก 5 เท่าของค่าใช้จ่าย ก็นำ 18,000 คูณกับ 5 แสดงว่าต้องมีเงินสำรองฉุกเฉิน 90,0000 บาท
ถ้าดูตามตัวอย่าง เงินสำรองฉุกเฉินจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายเยอะขนาดไหน ยิ่งเยอะยิ่งต้องกันเงินฉุกเฉินสูงตามไปด้วย เช่น มีค่าใช้จ่าย 70% ของเงินเดือน ตัวเลขจะอยู่ราวๆ 21,000 บาท ถ้าต้องการกันเอาไว้ 3 เท่า ก็ต้องมีเงินฉุกเฉิน 63,000 บาท ถ้า 5 เท่า ก็ 105,000 บาท
แน่นอนว่า เงินฉุกเฉินก้อนนี้จะถูกนำมาใช้ก็ต่อเมื่อมีเหตุฉุกเฉินเท่านั้น ไม่อนุญาตให้นำไปใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆ ส่วนช่องทางการเก็บออมก็ต้องเป็นอะไรที่สามารถเบิกถอนออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็วและต้องมีความเสี่ยงต่ำ ส่วนใหญ่จะเก็บในรูปเงินฝากออมทรัพย์และกองทุนรวมตลาดเงิน
ช่วงนี้เศรษฐกิจยังไม่รู้ว่าจะไปทางไหน เพราะเจอพิษสงครามการค้า แถมมีข่าวให้ได้ยินกันแทบทุกเดือนว่าบริษัทเลิกจ้างพนักงาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตัวเราจะโดนวันไหน ดังนั้น ถ้ามีเงินฉุกเฉินเพียงพอ ย่อมลดความเดือดร้อนได้
🎖❣️Suthin❣️🎖 - ปีแรกๆ (1-2) ที่ คสช.มาบริหาร (ขอเวลาไม่นาน) ก็พอได้บ้างนะ
- ปี ที่ 3 เสมอตัว ติดลบนิดหน่อย ....
- ปีที่ 4 เริ่มติดลบมากขึ้น เริ่มถอนเงินเก็บมาใช้เป็นบางเดือน
- ปีที่ 5 ติดลบทุกเดือน เงินเก็บร่อยหรอลง เงินฉุกเฉินไม่มี
** ให้ท่านเดา ต่อไปจะเป็นอย่างไร ***
20 มิ.ย. 2562 เวลา 09.04 น.
GNUN ปี 56"ใช้ 10,000/เดือน ปัจจุบันใช้ 20,000/เดือน ไม่ได้ผ่อนอะไรเลย แค่ค่าใช้จ่ายปกติเพราะอาหารการกินขึ้นทุกวันรายจ่ายเพิ่มเป็นเท่าตัว
20 มิ.ย. 2562 เวลา 08.50 น.
ยอด Firt Circle จริงๆนะ ถ้าถามว่าต้องมีรายได้เดือนละเท่าไรถึงจะอยู่แบบสบายๆ ตอบไม่ต่ำกว่า30,000ต่อเดือนครับ ประเทศเจริญแล้วค่าจ้างขั้นต่ำคือสามารถเลี้ยงดูคนในครอบครัวได้3คน ตามนิยามILOเลย แต่เราไม่ใช่ ขนาดไข่ไก่ เนื้อหมู หรือปลาทูเรานะงแพงกว่าอเมริกาหรือญี่ปุ่นอีกทั้งที่ประเทศเขาทำงานค่าแรง1ชม.เท่ากับเราทำงาน1วัน อย่าฝันถึงเงินออมเลย เอาแค่เดือนชนเดือนให้ได้ก่อนเถอะ ประเทศไทยแรงงานทาสจริงๆ
20 มิ.ย. 2562 เวลา 08.46 น.
Shinebell 0110🌷🫧💭 เงินเดือนก็น้อย ไหนจะค่าบ้านค่ารถอีก ไม่รวมค่าน้ำมัน ค่ากิน ขนาดกินน้อยๆทบางวันไม่กินยังไม่พอเลยย
20 มิ.ย. 2562 เวลา 08.15 น.
volume kung max89 ยุคนี้มันยังจะมีเงินเก็บฉุกเฉินอิกรึวะ. มึงคิดด้วยดิ. ข้าวจานเท่าไหร่.วันนึงกินกี่จาน. น้ำเปล่าวขวดเท่าไหร่. ค่าเดินทางไปทำงาน ค่าใช้จ่ายต่างๆๆรายวัน. สิ้นเดือนมา108ค่า. ขนาดเจ็บป่วยยังต้องไป. ประกันสังคมเลย. ยุคนี้มึงอย่าถามว่ามีเงินเก็บฉุกเฉินไหม. ให้มึงตั้งกระทู้ว่า. จะทำยังไงให้อยู่รอดไปแต่ละเดือน. หรือ. เเต่ละวัน
20 มิ.ย. 2562 เวลา 07.49 น.
ดูทั้งหมด