ผ่านมา 9 ปี เหตุการณ์สะเทือนขวัญคดี รถยนต์ ชนรถตู้บนทางด่วนโทลเวย์ จนมีผู้เสียชีวิตรวม 9 ราย และบาดเจ็บอีก 6 ราย จนสุดท้ายศาลพิพากษาให้จำเลย เยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ กว่า 19 ล้านบาท แต่ผู้เสียหายกลับยังไม่ได้รับการชดเชยแต่อย่างใด ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างไร เราจะย้อนไปติดตามเหตุการณ์ในครั้งนั้นอีกครั้ง
เหตุสะเทือนขวัญ ครั้งนี้เกิดขึ้น เวลา 21.45 น. วันที่ 27 ธ.ค.2553 เมื่อ น.ส.แพรวา ที่ขณะนั้นอายุไม่ถึงเกณฑ์ทำใบขับขี่ ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค มาด้วยความเร็วสูงแล้วเสียหลักชนรถตู้ โดยสารสายหมอชิต-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต บนทางด่วนโทลเวย์ ช่วงหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนผู้โดยสารเสียชีวิตในรถ และกระเด็นลงมาเสียชีวิตด้านล่าง รวม 9 ราย และบาดเจ็บอีก 6 ราย รวมทั้งแพรวาด้วย
28 ก.พ.2554 ตำรวจสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้องแพรวา ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง 2 ข้อหาคือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่
24 มิ.ย.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ได้ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งแทนญาติผู้เสียชีวิต2 ข้อหา 31 ส.ค.2555 ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางพิพากษาจำคุกแพรวา 3 ปี คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี ให้รอลงอาญา 3 ปี และสั่งคุมประพฤติ 3 ปี ให้รายงานตัวทุกๆ 3 เดือน พร้อมทำงานบริการสังคมด้วยการดูแลผู้ป่วยจากอุบัติเหตุ 48 ชั่วโมง ห้ามขับรถจนกว่าอายุ 25 ปีบริบูรณ์
22 เม.ย.2557 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาแก้ไขจากรอลงอาญา 3 ปี เป็น 4 ปี บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมงต่อปี เป็นเวลารวม 4 ปี ส่วนโทษอื่นให้คงตามศาลชั้นต้น ต่อมาจำเลยยื่นฎีกาต่อสู้คดี11 พ.ค.2558 ศาลฎีกาพิเคราะห์มีคำสั่งไม่รับฎีกาของจำเลย เนื่องจากคำร้องฎีกาไม่มีสาระสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งของศาลล่างที่ไม่รับฎีกาส่วนคดีแพ่ง ญาติผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ยื่นฟ้อง แพรวา พ่อและแม่ รวมทั้งนายสุพิรัฐ จ้าววัฒนา ผู้ครอบครองรถยนต์ เป็นจำเลย 1- 4 กระทำละเมิด ให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายกว่า 113 ล้าน พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
26 พ.ย.2558 ศาลพิพากษาให้ แพรวา พ่อแม่ และผู้ครอบครองรถ ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงินกว่า 26 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 27 ธ.ค.2553ศาลอุทธรณ์และฎีกาพิพากษาให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทน รวมเป็นเงินกว่า 19 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่หลังศาลฎีกามีคำพิพากษา วันที่ 8 พ.ค.2562 ผู้เสียหายทั้งหมดก็ยังไม่ได้รับการเยียวยา
ต่อมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์ ที่ชื่อ tintin หรือติน นายวรัญญู เกตุชู เหยื่อผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ "แพรวา 9 ศพ" ได้ออกมาระบายความในใจถึง 20 ข้อความ ของการต่อสู้คดี 9 ปีที่ผ่านมา สู้กันถึง 3 ศาล ทั้ง 3 คดี แต่ไม่เคยเจอหน้าคู่กรณี ซ้ำประวิงเวลาจ่ายเงิน แม้ศาลจะมีคำพิพากษาแล้วก็ตาม
โดยเมื่อช่วงเช้าวานนี้ คุณติณ ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการเนชั่น "ขยี้ข่าวเช้า" โดยได้เปิดใจถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 9 ปี ในการต่อสู่คดี พร้อมทั้งขอบคุณทุกคน และสื่อมวลชนที่ยังเป็นห่วง เป็นกำลังใจ และสนใจในคดีนี้อยู่ และระบุว่าต่อจากนี้ ยังไม่ได้คิดว่าจะดำเนินการใดๆ เพียงแค่อยากส่งสารไปถึงคู่กรณี ยืนยันว่าไม่ได้โกรธ เพราะรู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ ส่วนเรื่องจำนวนเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญเลย ในตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ท้ายสุดอยากให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาที่ศาลได้สั่งไว้ อย่าให้ไปถึงขั้นบังคับคดี หรือฟ้องล้มละลาย ซึ่งตนเห็นว่าควรพอได้แล้ว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชสกุล "เทพหัสดิน ณ อยุธยา" ได้ออกมาเผยกรณีที่สื่อและสังคมได้ออกมามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงต้นตระกูล จากเหตุที่ นางสาวแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถยนต์ชนรถตู้โดยสาร บริเวณบนทางด่วนโทลล์เวย์ขาเข้า หน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ เมื่อปี 2553 นั้นเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำโดยส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับนามสกุล ที่นำไปเหมารวม
"ต้นตระกูลเป็นนายสกุลพระราชทาน และที่ผ่านมาก็มีบรรพบุรุษหลายคนที่ทำคุณงานความดีรับใช้ให้ชาติบ้านเมืองมามากมาย การที่นำเหตุของคนที่เกิดขึ้นแล้วไปยำยี แล้วไปพาดเกี่ยวข้องกับนามสกุลนั้นไม่แฟร์ ฉะนั้นหากใครที่มีการกล่าวพาดพิง หรือเขียน หรือลงในโซเชียลที่เกี่ยวจ้องกับนามสกุล กับวงศ์ตระกูล จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย"ราชกสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าว
ด้านพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีต สนช. และอดีตประธานคณะที่ปรึกษา ทบ. เผยว่า อยากจะฝากสื่อ และสังคม โดยเฉพาะในโลกโซเชียล ต้องให้ความเป็นธรรมในกรณ์เหตุที่เกิดขึ้นป็นการกระทำโดยส่วนบุคคล อย่านำราชสกุลของตนไปเหมารวมทั้งหมด ขอให้มองด้วยเหตุด้วยผล เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยคนเดียว แต่เอานามสกุลไปวิพากษ์ และโยงไปถึงต้นตระกูลมันถือว่าไม่แฟร์ โดยเฉพาะไปโยงถึง พล.อ.ยศ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ซึ่งเป็นบิดา ที่ประกอบคุณงานความดี เป็นทหารรับใช้มาให้แผ่นดินไทยมากมาก วอนอย่านำไปโยง
"หากใคร ผู้ใด หรือสื่อ และโซเชียลมีเดีย ที่กล่าวพาดพิงนามสกุล ราชสกุล ผมในฐานะหนึ่งในราชสกุล ก็จะต้องดำเนินการฟ้องร้องตามกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และจะดำนเนินการเด็ดขาดทุกกรณี"พล.อ.วิชญ์กล่าว
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 18 กรกฎาคม 2562 แฮชแท็ก #แพรวาหายไปไหน อยู่อันดับที่ 1 ของ Trend ประเทศไทย
จันทร์นิภา2452REL6 นามสกุลดีนามสกุลดัง แต่คนๆเดียวก็ทำให้นามสกุลดับได้ นามสกุลตาสีตาสาก็ทำคุณงามความดีให้แผ่นดินได้เหมือนกัน
18 ก.ค. 2562 เวลา 04.33 น.
🗯BeEm💭 กรรมตามทันอยู่แล้วแหละครับ นี้ขนาด9ปีที่เงียบห่ยไปนะ คิดว่ารอด แต่ทำไมยังกลับมาได้รับความสนใจได้ หนีไม่พ้นหรอกครับ ทุกวันนี้ ผมรู้ว่าพวกคุณไม่มีความสุขกันหรอกครับ มันจะติดอยู่ในใจเป็นฝันร้ายของน้องตลอดชีวิตครับ สักวัน1จะได้ยินข่าวว่าน้อง โดนรถชนแล้วน้องจะรู้สึกเอง กับการถูกกระทำก็อย่าไปเรียกร้องอ่ะไรจากสังคมนะครับ😊
18 ก.ค. 2562 เวลา 04.04 น.
Lek Tawan ครั้งนี้ไม่มีที่ยืนแน่สังคมไม่ปล่อยใว้หรอก
18 ก.ค. 2562 เวลา 03.55 น.
Pongpol.max ราชสถุลสิไม่ว่า พูดเหมือนครอบครัวนี้ สถุลนี้ทำความดีให้แผ่นดินสถุลเดียว ??
18 ก.ค. 2562 เวลา 04.28 น.
NBwutie คงใช้ชีวิตปกติ ไม่ทุกร้อนใจ เพราะไปไหนมาไหนคงไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร สื่อน่าซูมและตามติดไม่ปล่อย
18 ก.ค. 2562 เวลา 03.58 น.
ดูทั้งหมด