เปิดเรื่องราวรักจากไนท์คลับ พลิกชีวิตสาวสามัญชน สู่เจ้าหญิงแห่งเอธิโอเปีย

แม้ว่าในอดีต ราชวงศ์ถูกห้ามไม่ให้แต่งงานกับ สามัญชน แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ข้อห้ามหลายอย่างก็เปลี่ยนแปลงตาม สาวๆ ทั้งหลายจึงมีโอกาสที่จะได้พบรักและเป็นเจ้าหญิงได้ เช่นเดียวกับ เอเรียนา ออสติน (Ariana Austin) หญิงสาวสามัญชนเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกัน ที่พบกับเรื่องราวที่แสนโชคดีในชีวิต ขณะที่เธอเพียงแค่ไปเที่ยวไนท์คลับแห่งหนึ่งที่วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐฯ ที่ที่เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตชั่วข้ามคืน สู่การเป็น เจ้าหญิงแห่งเอธิโอเปีย พระชายาของ เจ้าชายโจเอล มาคอนเนน

เรื่องราวความรักของหญิงสาวสามัญชนผู้นี้เป็นที่ฮือฮาอย่างมาก เมื่อเธอได้ออกมาถ่ายทอดเรื่องความรักสุดเหลือเชื่อของเธอกับเจ้าชาย หลังจากได้มีพิธีเสกสมรสไปเมื่อวันที่ 9 กันยายน ปีที่ผ่านมา โดย เอเรียนา ได้เล่าเส้นทางความรักสุดโรแมนติกผ่าน Town & Country ว่า…

“ตอนที่เจ้าชายโจเอลเดินเข้ามาคุยกับฉัน พระองค์ทรงบอกว่าฉันเหมือนกับหลุดออกมาจาก โฆษณา Bombay Sapphire ในคืนนั้นฉันรู้เพียงแค่ชื่อ และทราบเพียงว่าพระองค์กำลังศึกษาเทอมสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยอเมริกัน หลังจากที่พูดคุยกันได้ไม่ถึง 5 นาที เจ้าชายโจเอลก็ขอฉันเป็นแฟน ตอนนั้นฉันได้แต่ขำออกออกมา ต่อมาพระองค์ก็ขอฉันเต้นรำและเราก็มีจูบแรกบนฟลอร์เต้นรำ จากนั้นไม่กี่วันเจ้าชายโจเอลก็ได้ชวนฉันออกไปดินเนอร์อีกครั้ง”

“จากการเจอหน้ากันครั้งแรกบนฟลอร์เต้นรำ เราทั้งคู่ก็ถูกดึงดูดเข้าหากัน หนึ่งเดือนหลังจากที่เราพบกันโจเอลก็ขอให้ฉันเป็นแฟนของเขา ฉันไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย และฉันจำได้ว่าช่วงสองสามเดือนแรกนั้น มันสนุก รวดเร็ว และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก พระองค์เป็นคนอ่อนโยน และอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นอย่างมาก ช่วงที่คบเป็นแฟนกันมาตลอด 12 ปี เจ้าชายก็กุมความลับเรื่องฐานันดรที่แท้จริงเอาไว้ตลอด และบอกเพียงว่า มีอาชีพเป็นทนายความ ส่วนแม่ทำงานในสหประชาชาติ และพ่อเสียชีวิตแล้ว”

จนกระทั่งในค่ำคืนวันวาเลนไทน์ปี 2014 เจ้าชายโจเอล ก็ได้ซื้อแหวนเพชรและลูกโป่ง เดินทางไปยังบ้านของอาเรียนา เพื่อเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง และบอกความลับที่เก็บมาถึง 12 ปีว่า “คุณรู้ไหมว่ากำลังคบหาดูใจกับเจ้าชาย” ซึ่งอาเรียนาก็ช็อกมาก ไม่คิดว่าโชคชะตาจะสร้างความเซอร์ไพรส์กับฉันขนาดนี้

แต่ใช่ว่าเรื่องราวความรักของทั้งสองจะหวานชื่นม้วนเดียวจบเหมือนในเทพนิยาย เมื่อทั้งคู่เริ่มรู้สึกว่ามีทิศทางการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน ประกอบกับอาเรียน่ารู้สึกว่าเธออยากกลับไปอยู่ที่ฝรั่งเศส จึงทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจเลิกรากัน แต่ถึงกระนั้นความต่างก็ไม่อาจเอาชนะความรักได้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจกลับมาเจอกันที่สหรัฐอเมริกาอีกครั้ง

“ในช่วงเวลานี้เอง เจ้าชายก็แบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวและภูมิหลังของเขามากขึ้น มันทำให้ฉันสัมผัสได้เลยว่าพระองค์ไม่ได้เป็นเพียงเจ้าชาย หรือสมาชิกของราชาธิปไตยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกกว่า 3,000 ปี แต่เหนือสิ่งอื่นใดพระองค์เป็นคนที่ซื่อสัตย์ ไม่โอ้อวด จริงใจ ขี้เล่น สนุกสนาน ซึ่งทำให้พระองค์ทรงหล่อเอามากๆ” เจ้าหญิงอาเรียนา เล่า

การแต่งงานกับเจ้าชายอาจเป็นเรื่องของความหรูหรา ยิ่งใหญ่ ที่ถูกตีความหมายจาก: ปราสาท, ชุดแต่งงานสุดหรุหรา, เครื่องประดับ, ความมั่งคั่ง แต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญของโจเอลหรือฉันเลย แน่นอนว่าชีวิตของเรามีช่วงเวลาที่วิเศษ และมีความสุขสุดประทับใจ คือ การเข้าร่วม Meridian Ball ใน DC, การเสด็จเยี่ยมเยียนราชวงศ์ยุโรป, การพักผ่อนในตอนใต้ของฝรั่งเศส, และการเยี่ยมชมแอดดิสอาบาบา, เอธิโอเปีย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความรับผิดชอบในการรับใช้ประเทศเอธิโอเปีย เพื่อเป็นทูตสำหรับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานของประเทศ

สำหรับประวัติด้านครอบครัวและการศึกษาของ เอเรียนา ออสติน ต้องบอกเลยว่ามีโปรไฟล์ที่ไม่ธรรมดา เธอเกิดและเติบโตในครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่น พ่อของเธอเป็นนักเขียน และเป็นอดีตศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา ส่วนแม่ของเธอนั้นเป็นผู้บริหารงานศิลปะและมนุษยศาสตร์จากประเทศกายอานา อีกทั้งเธอยังเป็นหลานตาของท่านลอร์ดแห่งกายอานา นายกเทศมนตรีกรุงจอร์จทาวน์ เมืองหลวงของกายอานา ทวีปอเมริกาใต้ นอกจากนี้ออสตินจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดอีกด้วย

ด้าน เจ้าชายโอเจล ทรงประสูติที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ทรงเป็นพระโอรสของ เจ้าชายเดวิด มาคอนเนน และเจ้าหญิงอเดย์ มาคอนเนน โดยทั้งสองพระองค์ได้ประทับอยู่ต่างแดน เนื่องจากมีการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจ และโค่นล้มระบอบกษัตริย์ จึงทำให้เสด็จพ่อและเสด็จแม่ของเจ้าชายโจเอล ต้องหนีจากเหตุการณ์นองเลือดนี้ โดยทั้งสองพระองค์ถูกบังคับให้เสด็จลี้ภัยในต่างแดน และได้ทรงสร้างครอบครัวใหม่ขึ้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศเอธิโอเปีย หรือ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย ถูกปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐ โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขตั้งแต่ปี 2518 เป็นต้นมา

คลิป > ​เจ้าหญิงอายาโกะเข้าพิธีเสกสมรสกับชายสามัญชน

https://seeme.me/ch/goodmorningthailand/keG5V5

ที่มาและภาพประกอบ www.townandcountrymag.com