ผมเปลี่ยนอาชีพแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือมาหลายรอบ ทุกครั้งที่เปลี่ยน ก็กล้าๆ กลัวๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนงานตอนอายุมาก และมีภาระครอบครัว น่ากลัวที่สุด!
การเปลี่ยนงานครั้งแรกคือลาจากอาชีพสถาปนิกไปเป็นนักออกแบบโฆษณา ตอนนั้นชีวิตงานสถาปนิกของผมก็ราบรื่นดี มีผลงานเข้าตาเจ้านายและลูกค้า ถ้าทำงานต่อไป ก็คงจะไปรอด
แต่วันหนึ่งนึกอย่างไรไม่รู้ คิดจะไปเรียนสายกราฟิกดีไซน์ เป็นการตัดสินใจในนาทีเดียว แล้วก็หิ้วกระเป๋าเดินทางไปอเมริกา ง่ายๆ อย่างนั้น เรียนแล้วก็นึกอยากลองไปทำงานในวงการใหม่ ก็คือวงการโฆษณา
การเดินออกจากอาชีพหนึ่งในลักษณะนี้หมายถึงปิดโอกาสของการพัฒนาตัวเองในสายเดิมโดยปริยาย ขณะที่ยังไม่มีประสบการณ์ในทางสายใหม่เลยสักนิด
ตอนนั้นก็แค่คิดว่า “อย่างมากก็กลับมาทำอย่างเดิม” ไม่มีอะไรเสียหาย
วัยหนุ่มก็ดีอย่างนี้ ตัดสินใจได้ง่าย
แต่การเปลี่ยนงานข้ามสายครั้งแรกห่างไกลจากคำว่าง่ายหลายโยชน์ เพราะไม่มีปริญญาบัตรด้านนี้ ไม่มีประสบการณ์ มีแต่ไฟ
ไปสมัครงานหลายที่ ล้วนต้องการดูใบปริญญาทั้งนั้น
บรัษัทเกือบทุกแห่งต้องการกระดาษ ไม่ใช่ไฟ
ในที่สุดก็เล็ดรอดไปทำงานในสายโฆษณาจนได้ และไต่เต้าขึ้นไป ได้รับรางวัล และเช่นกัน มีผลงานเข้าตาเจ้านายและลูกค้า ถ้าทำงานต่อไป ก็คงจะไปรอด
แต่วันหนึ่งก็ถึงจุดเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง อุตริอยากลองเป็นนักเขียนอาชีพดู
ตอนนั้นอายุราว 45 มีครอบครัวและภาระต้องรับผิดชอบ ขณะที่อาชีพนักเขียนนั้นมีความเสี่ยงสูงมาก
แต่ก็เดินเข้าไป จนมาถึงจุดนี้
มานึกในวัยนี้ ก็ยังเสียวไส้อยู่
…………..
การก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย (Comfort Zone) ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน แต่บางครั้งเราก็ต้องทำ เพื่อสานความฝันของเรา
สัตว์ตระกูลผีเสื้อมีการเติบโตสี่ระยะ เริ่มที่ระยะไข่ ตามด้วยระยะหนอนเมื่อตัวหนอนฟักออกจากไข่ มันจะกินเปลือกไข่ของตัวเองเป็นอาหาร แล้วจึงเริ่มกินใบพืช เมื่อโตขึ้นก็จะลอกคราบราว 4-5 ครั้ง แต่ละครั้งทำให้ตัวขยายขึ้น สีเปลี่ยนไป หลังจากนั้นก็เข้าสู่ระยะดักแด้ หนอนที่โตเต็มที่สร้างเส้นใยห่อหุ้มตนเอง และเปลี่ยนแปลงตัวเองภายในนั้น แล้วออกจากดักแด้ เป็นผีเสื้อ
มนุษย์ก็ไม่ต่างจากผีเสื้อ มีกระบวนการเปลี่ยนเป็นระยะ
เราควรถามตัวเองเป็นระยะๆ ว่า เราเป็นอะไรอยู่ หนอน? ดักแด้? หรือผีเสื้อ?
บางคนอาจเป็นผีเสื้อได้เร็ว บางคนก็ช้า บางคนก็เลือกเป็นหนอนหรือดักแด้ไปตลอดชีวิต
ไม่มีผิดหรือถูก มีแค่พอใจหรือไม่พอใจ
ถ้าไม่พอใจ หรือยังไม่บรรลุเป้า ก็ลอกคราบ แล้วเปลี่ยนตัวเองเสีย
แต่การลอกคราบไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่สำเร็จทุกครั้ง
คนส่วนมากไม่ชอบหรือไม่กล้าออกไปหาสิ่งใหม่ กล้าลองคิดใหม่ กล้าทดลองสิ่งที่ตนเองหรือองค์กรไม่กล้า บางคนไม่กล้าหางานใหม่ ไม่กล้าทำสิ่งที่แตกต่างจากความเคยชิน ไม่แม้แต่ชิมอาหารจานใหม่ นี่อาจทำให้เสียโอกาส
คำถามคือเราจำเป็นต้องออกจาก Comfort Zone หรือ คำตอบคือไม่จำเป็น แต่มันช่วยให้เราเตรียมพร้อมรับมือความเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่าคนที่ไม่ยอมออกมาเลย
จำได้ไหมว่าครั้งสุดท้ายที่คุณออกจาก Comfort Zone คือเมื่อไร? ทำอะไร? รู้สึกอย่างไร?
การก้าวออกจาก Comfort Zone คือการเปิดโลก บางครั้งคือความล้มเหลว แต่เราไม่อาจใช้ความล้มเหลวหนึ่งหรือสองครั้งสรุปเหมารวมว่ามันไม่ถูกต้อง
เราจะออกจาก Comfort Zone อย่างไร
ทางหนึ่งก็คือลงมือทำ กลัวอะไร ให้ทำสิ่งนั้น จะปรับตัวเองให้ชินกับการการเผชิญหน้าสิ่งที่ไม่คุ้นเคย อาจเผชิญหน้ากับสิ่งที่ท้าทายและอาจไม่อยากทำ ลองเรื่องง่ายๆ ที่ไม่เคยทำก่อน
ทำความเข้าใจกับความกลัวของตัวเอง เช่น กลัวล้มเหลว มองในด้านที่ดีบ้าง ถ้ากลัว ก็วางแผนให้รอบคอบหน่อย
ทางหนึ่งก็คือหาแรงบันดาลใจจากคนที่ก้าวออกจาก Comfort Zone แล้วประสบความสำเร็จ
มองโลกในมุมต่างบ้าง ในมุมอื่น จะเห็นตัวเองในสภาพแวดล้อมใหม่ ชีวิตใหม่ หัดมองโลกในแง่ดี มองด้านสว่างบ้าง
หลายคนอยู่ในสถานการณ์ลังเล สองจิตสองใจว่าจะเปลี่ยนสายงานหรือไม่
ถามตัวเองว่าต้องการอะไร มีความฝันไหม ถามตัวเองว่า ถ้าไม่ทำสิ่งที่เราฝันถึง แต่ไม่กล้าลงมือ ตอนแก่ตัวจะเสียใจหรือไม่ ถ้าคำตอบคือน่าจะใช่ ก็หาโอกาสทำเสียก่อนที่จะแก่และไม่มีแรงทำ
เตรียมพร้อม แล้วก็ลุย
อย่าลืมว่าไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดในโลกเกิดขึ้นโดยไร้ความเสี่ยงเลย อยู่ที่เสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อย และเราคุมความเสี่ยงได้มากแค่ไหน
การทำงานทุกสายอาชีพล้มเหลวได้ทั้งนั้น วางแผนให้รอบคอบรัดกุม แล้วลงมือทำให้เต็มที่ไปเลย
ถ้าล้มเหลวก็ล้มเหลว ไม่ถึงตายหรอก และบางครั้งล้มเหลวก็ยังดีกว่าคาใจไปตลอดชีวิต
…………..
วินทร์ เลียววาริณ
เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/
ธันวาคม 2561
ชอบแนวเขียนของคุณวินทร์เกือบทุกผลงานครับ..
24 ธ.ค. 2561 เวลา 11.19 น.
ก๋วยเตี๋ยว นายดิน ตั้งแต่อ่านบทความของคุณผมกลายเป็นคนเสพย์ติดบทความไปเลย...เขียนมาเยอะๆนะครับ
25 ธ.ค. 2561 เวลา 06.39 น.
อุ้ม🍋🟩manow คนที่คิดจะออกจากคอมฟอร์ทโซนได้ แบบคิดปั๊บทำปุ๊บ คือคนไม่มีภาระ หรือเป็นพวกบ้านมีเงิน (แบบอยากเปลี่ยนจากสายโฆษณาไปเป็นกราฟฟิตดีไซด์ก็หิ้วกระเป๋าไปอเมริกาง๊ายง่าย) แต่ถ้าต้องดูแลพ่อแม่ ดูแลครอบครัว ไม่ได้เอาตัวรอดไปคนเดียวในทุกเรื่อง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตัดสินใจออกจากคอมฟอร์ทโซน เพราะถ้าออกไปแล้วไปไม่รอด ไม่ใช่แค่เราเท่านั้นที่เดือดร้อน ครอบครัว พ่อแม่ของเราจะเดือดร้อนมากไปด้วย...หากจะเขียนแนะนำการใช้ชีวิตก็ควรคิดให้รอบด้าน เพราะชีวิตแต่ละคนมีปัจจัยภายในที่ต่างกัน ทำเหมือนกันหมดไม่ได้
30 ธ.ค. 2561 เวลา 07.04 น.
Palm O'Cadi FC งานเขียนคุณวินทร์ค่ะ
25 ธ.ค. 2561 เวลา 04.27 น.
@... ผมคิดว่าบางครั้งในการที่จะประสบกับความสำเร็จได้นั้นก็อาจที่จะต้องขึ้นอยู่กับความสามารถกับในสิ่งที่ตัวได้ถนัดมาเหมือนกันนะครับ.
24 ธ.ค. 2561 เวลา 12.08 น.
ดูทั้งหมด