ซาอุดีอาระเบียยอมรับอีกรอบ "จามัล คาช็อกกี" โดนฆ่าในสถานกงสุล แต่อ้างเป็นปฏิบัติการผิดพลาดมหันต์โดยพวกแตกแถว และมกุฎราชกุมารไม่ทรงทราบเรื่อง ขณะโดนัลด์ ทรัมป์ กลับลำจวกซาอุฯ โป้ปดหลอกลวง ตุรกีเตรียมเปิดเผยความจริงหมดเปลือกเร็วๆ นี้
พระบรมฉายาลักษณ์เจ้าชายโมฮัมหมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร ปรากฏบนป้ายขนาดใหญ่ในกรุงริยาด เพื่อโปรโมตการประชุมความริเริ่มการลงทุนแห่งอนาคต / AFP
จามัล คาช็อกกี คอลัมนิสต์ของวอชิงตันโพสต์ซึ่งจะอายุครบ 60 ปีในเดือนนี้ หายตัวปริศนาภายหลังเข้าไปในสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียประจำนครอิสตันบูลของตุรกีเพื่อขอเอกสารสำหรับการแต่งงาน เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ตุรกีเชื่อว่านักข่าวผู้นี้ซึ่งมักวิจารณ์นโยบายของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บินซัลมาน โดนฆ่าตายภายในสถานกงสุลนั่นเอง แต่ทางการซาอุฯ ยืนกรานปฏิเสธและอ้างว่าเขาออกจากสถานกงสุลไปแล้ว
ภายหลังถูกกดดันอย่างหนัก สัปดาห์ที่ผ่านมาซาอุฯ ยอมรับว่าคาช็อกกีตายแล้วจริง คำแถลงของอัยการสูงสุดซาอุฯ บอกว่าเขาตายระหว่างการทะเลาะวิวาทชกต่อยในสถานกงสุล แต่รัฐบาลหลายประเทศไม่เชื่อคำชี้แจงนี้และเรียกร้องให้เปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด รวมถึงข้อสงสัยเรื่องศพของเขา ซึ่งสื่อตุรกีรายงานว่าโดนหั่นแล้วนำไปทิ้ง
เมื่อวันอาทิตย์ อเดล อัลจูเบอีร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ กล่าวกับสถานีฟอกซ์นิวส์ของสหรัฐ โดยพยายามอธิบายการตายของนักข่าวชาวซาอุฯ รายนี้อีกครั้งว่า การตายของเขาเป็น "ความผิดพลาดใหญ่หลวง" จากปฏิบัติการแตกแถวของบางคนที่ทำงานเกินหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายแล้วจากนั้นก็พยายามปกปิดเรื่องนี้
จูเบอีร์ยืนกรานด้วยว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ดไม่ได้ทรงสั่งการและไม่ทรงทราบเรื่องนี้ รัฐบาลซาอุฯ ไม่รู้ว่าเขาถูกฆ่าอย่างไรและไม่รู้ด้วยว่าศพของเขาอยู่ที่ไหน
คำปฏิเสธของรัฐมนตรีผู้นี้เป็นการกล่าวถึงมกุฎราชกุมารพระชนมายุ 33 พรรษาโดยตรงเป็นครั้งแรก ขณะที่มีรายงานข่าวว่า สมาชิกอาวุโสหลายคนในพรรครีพับลิกันของประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อว่าเจ้าชายทรงเกี่ยวโยงกับการสังหารคาช็อกกีด้วย
ด้านประธานาธิบดีเรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ประกาศเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาจะเปิดเผยความจริงอย่างหมดเปลือกระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ประจำสัปดาห์ต่อสมาชิกพรรครัฐบาลของเขาในวันอังคารนี้
ผู้นำตุรกีแทบไม่ค่อยให้ทัศนะโดยตรงเกี่ยวกับคดีนี้ แม้ว่าหนังสือพิมพ์หลายฉบับที่มีแนวทางหนุนรัฐบาลของเขาได้เปิดเผยข้อมูลการสอบสวนเหตุการณ์ รวมถึงการกล่าวอ้างว่ามีหลักฐานที่เป็นวิดีโอและเทปบันทึกเสียงยืนยัน
สำนักข่าวอนาโดลูรายงานเมื่อเช้าวันจันทร์ด้วยว่า แอร์โดอันได้โทรศัพท์สนทนากับทรัมป์ และทั้งคู่เห็นพ้องกันว่าต้องทำให้เรื่องนี้กระจ่างทุกซอกทุกมุม
ประธานาธิบดีทรัมป์มีท่าทีกลับไปกลับมา ทั้งปกป้องซาอุฯ ในช่วงแรกและตำหนิแบบพอเป็นพิธี โดยย้ำว่าซาอุฯ เป็นลูกค้าซื้ออาวุธรายใหญ่ของสหรัฐ แต่เมื่อวันอาทิตย์ทรัมป์กล่าวตอบคำถามนักข่าวเกี่ยวกับการสอบสวนของซาอุฯ และการปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูง 5 คน รวมถึงคนใกล้ชิดของเจ้าชายว่า เขายังไม่พอใจจนกว่าจะได้คำตอบ และในการให้สัมภาษณ์วอชิงตันโพสต์ ทรัมป์กล่าวว่า ชัดเจนว่ามีการหลอกลวงและการโป้ปด เรื่องเล่าของพวกเขายุ่งเหยิงไปหมด.
Kemnisa Seangjun มึงอย่ามาทำเป็นออกข่าวโกหกคนทั้งโลกเลย เขารู้กันทั้งนั้นแหละ ว่าคนบ้านนี้มันมีแต่ชั้นเลว แต่คนต้องจำใจรับพวกมันเพราะเห็นว่ามีเงิน ไปไหนจ่ายไม่อั้น
23 ต.ค. 2561 เวลา 02.43 น.
Miss June เป็นแค่ผู้สื่อข่าว..เหิมเกริม dis credit สร้างความร้าวฉานระหว่าง 2มหาอำนาจ
ผลลัพธ์..ผิดชอบชั่วดี..ปรากฏออกมาเช่นนี้แล..
23 ต.ค. 2561 เวลา 01.47 น.
Sam กูเชื่อ...เฉกเช่นกูเชื่อว่านาฬิกายืมเพื่อน...
23 ต.ค. 2561 เวลา 01.33 น.
ถ้ายังยู่ข้างมริกันเจ้าชายก็รอดแต่เท่ากับขายประเทศ(ที่เหลือเพียงความรู้สึก)
23 ต.ค. 2561 เวลา 01.15 น.
Nawapaschai ไอ้กันก็ถือหาง ซาอุต่อไปนะ มันทำถึงขนาดนนี้กับพลเรือนที่เป็นนักข่าวเนี่ย
23 ต.ค. 2561 เวลา 01.08 น.
ดูทั้งหมด