“ข้าฯ ไม่ใช่ เทพทันใจ ข้าฯ คือ ‘โบโบยี’ แปลเป็นไทยว่า ‘พ่อปู่’ หรือ ‘พ่อใหญ่’ คนมอญพม่านับถือข้าฯ มาช้านาน คนมอญสร้างรูปข้าฯ เพื่อรำลึกคุณงามความดีตามตำนาน แต่คนพม่าสร้างรูปข้าฯ ไว้ทั่วไปทุกย่านบ้านเรือน ในฐานะนัต (Nat) กึ่งเทพกึ่งผี…” หากตะแกพูดได้แกคงจะพูดเช่นนี้!
คนพม่านับถือ ผีนัต (Nat) มาก่อนการยอมรับนับถือพุทธศาสนา ทุกวันนี้ก็ยังคงศรัทธาไม่เปลี่ยน ในบรรดานัตหลากหลาย นัตยอดนิยมตนหนึ่งชื่อว่า “โบโบยี” ใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางใจดี มือซ้ายถือไม้เท้า มือขวาชี้ไปข้างหน้า คนไทยพากันเรียกว่า “เทพทันใจ” ถ้าไม่ถูกไกด์พม่าหลอก ก็สร้างเรื่องหลอกตัวเอง หรือปนๆ กันไป
รู้กันในหมู่นักท่องเที่ยวไทยว่า ใครที่ต้องการขอพร ให้หาเครื่องบูชาที่มีวางขายเป็นชุด ประกอบด้วย กล้วย มะพร้าว หมาก เมี่ยง ดอกไม้ ใบหว้า และฉัตรธงสักการะ จากนั้นนำธนบัตรใส่มือนัต 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึงกลับมาเก็บไว้ใบหนึ่ง หยอดตู้บริจาคใบหนึ่ง (คล้ายสูตรหลวงพ่อคูน) เสร็จแล้วก้มให้หน้าผากสัมผัสนิ้วชี้ของนัต
ดูจากของเซ่นไหว้ล้นเหลือ นัตตนนี้ดูท่าจะได้รับความนิยมกว่าใคร เห็นทีว่าคงจะต้องบันดาลพรตลอดเวลา ไม่มีวันหยุด และที่แน่นอนคือเงินจากนักท่องเที่ยวที่บริจาคให้นัต
เรื่องจริงที่ไม่จริงซึ่งนักท่องเที่ยวไทยไม่ตระหนักก็คือ เดิมเทพองค์นี้มาจากตำนานพระเจดีย์เละเกิ่ง (ชเวดากอง) กล่าวคือ หลังจาก ตปุสสะ ภัลลิกะ (ตะเป๊า ตะปอ) พ่อค้าวาณิชมอญสองพี่น้องได้รับพระราชทานพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้า 8 เส้นแล้วก็ได้นำกลับมายังบ้านเมือง ถวายพระเกศาธาตุดังกล่าวแก่พระเจ้าอุกกะลาปะ กษัตริย์มอญผู้ครองเมืองอุกกะลาปะ (ชื่อโบราณของเมืองเละเกิ่ง หรือย่างกุ้ง)
ระหว่างค้นหาสถานที่อันเหมาะสมเพื่อสร้างพระเจดีย์ประดิษฐานพระเกศาธาตุ บทบาทเทพอุ้มสมก็ได้ปรากฏขึ้น
เนื่องจากมีเพียง “พ่อปู่” หรือพระอินทร์แปลงองค์เดียว ที่รู้สถานที่ประดิษฐานพระธาตุของอดีตพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ก่อน จึงเหาะลงมาชี้ทางไปยัง “เขาสิงคุตระ” ที่สมควรบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธโคดมไว้ในที่เดียวกัน…
ไอ้ที่ชี้นิ้วนั่น ชี้ไปยังสถานที่สร้างเจดีย์ประดิษฐานพระธาตุ!!!
พระอินทร์ยังงงไม่หาย ทำไมคนไทยจึงเลือกที่จะแต่งเรื่องแล้วเชื่อถือฝังหัวงมงายเสียเอง สนุกสนานกับการขอกันถึงปานนั้น แต่ที่แน่ๆ ทางวัดพม่าคงดีใจ คนไทยบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปยืนเข้าแถวส่งเครื่องบรรณาการให้ในรูปแบบใหม่
“ข้าฯ รักคนไทย คนไทยใจดี ลูกหลานของข้าฯ ทั้งมอญพม่าว้ากะเหรี่ยงไทใหญ่ไปทำงานเมืองไทยเป็นล้านคน คนไทยก็ดูแลพวกเขาอย่างดี ให้งานทำ ข้าฯ จึงรักคนไทย อยากบอกแก่ท่านทั้งหลายว่า อย่าพยายามให้ข้าฯ เป็นเทพทันใจเลย คนไทยมีธรรมะที่ดีที่สุดของพุทธองค์อยู่แล้ว ข้าฯ ก็เป็นผู้หนึ่งที่ศรัทธาในพระธรรมคำสอนเหล่านั้น
สิ่งที่ข้าฯ มีให้คนไทยอย่างล้นเหลือ คือ ความปรารถนาดี…จะนำหน้าผากมาสัมผัสนิ้วข้าฯ ก็ยินดี แต่จงเข้าใจว่า ข้ามิได้มีพรวิเศษใด (ไม่เช่นนั้น ข้าฯคงช่วยลูกหลานข้าฯ ให้รวยสมใจกันทุกคน ไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำงานเมืองไทย) แต่เพื่อเป็นการเตือนตน ขอท่านจงมีสติและตระหนักรู้ ตามหนทางหลุดพ้นอันประเสริฐแห่งพุทธองค์เถิด”
อ่านเพิ่มเติม :
- จาก “เทพทันใจ” ถึง “เทพกระซิบ” เทพองค์ล่าสุด ผู้เปลี่ยนเงินบาทไทยเป็นจ๊าดพม่า
- สำรวจความเชื่อ “นัต” ระบบผีท้องถิ่นนิยมในเมียนมา ที่พุทธศาสนาเอาชนะไม่ได้
ขอบคุณข้อมูลจากเพจ : รามัญคดี – MON Studies
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 18 พฤษภาคม 2562
Panit Mahvilai ถามลูกน้องที่เป็นคนพม่าว่ารู้จักเทพทันใจมัย???ได้ยินข่าวว่าท่านดังนะ.ทำให้คนไทยรวยด้วยนิ้วที่ชี้ไปข้างหน้าอ่ะ!!ลูกน้องปะม่าบอกกลับมาว่าโหถ้าเทพทันใจที่พม่าศักดิ์จริงพวกผมคงไม่ต้องมาเป็นกรรมกรทำงานให้เฮียหรอก!!!!5555คนพม่าที่บากหน้ามาทำงานในไทยกว่า2ล้านคน.แต่ละคนมาแบบเสื่อผืนหมอนใบจริงๆครับ5555คนไทบเรามันเพี้ยนไปแล้วในเรื่องนี้อ่ะครับ!!!!.
18 พ.ค. 2562 เวลา 14.53 น.
ขอกราบงามๆคนคิดบทความนี้เลย
18 พ.ค. 2562 เวลา 14.49 น.
PANYA คนไทยหลอกง่าย และงมงายที่สุดในโลก
18 พ.ค. 2562 เวลา 14.42 น.
Parkin ต้มกันเอง นั่นแหละฮะท่านผู้ชม
18 พ.ค. 2562 เวลา 14.48 น.
Kantaporn Khomapat จริง...จบ
18 พ.ค. 2562 เวลา 14.50 น.
ดูทั้งหมด