ทั่วไป

“ศรีวราห์” เป็น “ตำรวจ” จะท้อไม่ได้! กฎก็คือกฎ! ขอประชาชนเชื่อมั่น!

TheHippoThai.com
เผยแพร่ 25 ก.ย 2561 เวลา 13.00 น.

“ศรีวราห์เป็นตำรวจจะท้อไม่ได้! กฎก็คือกฎ! ขอประชาชนเชื่อมั่น!

 “…คนอื่นมีตั้งเยอะแยะทำไมมาถามอะไรเอากับคนบ้านนอกอย่างผม…”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

เสียงหัวเราะที่เจือมากับประโยคข้างต้น คือคำทักทายแรกที่เราได้รับจาก  พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล  หรือ  บิ๊กปู  ของพี่ๆน้องๆ สื่อมวลชน ผู้ซึ่งกุมบังเหียนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคงคนปัจจุบัน ที่นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก จากกระแสสารพัดมากมายใน Social Network ที่วิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ ซึ่ง “บิ๊กปู” คนนี้พร้อมรับฟังและชี้แจงอย่างตรงไปตรงมา และด้วยบุคลิกที่เข้มแข็ง ดุดันที่เราได้เห็นผ่านการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนแขนงต่างๆนั้น ทำให้เราอยากจะรู้เหลือเกินว่า เมื่อวางหน้าที่รับผิดชอบและคดีความต่างๆ ที่สื่อแทบทุกแขนงสนใจลง แล้วสัมผัสตัวตนของบิ๊กปูคนนี้อย่างจริงจังแล้ว เราจะได้เห็นเรื่องราวอื่นใดในชีวิตของสุภาพบุรุษสีกากีผู้นี้บ้าง 

จึงเป็นที่มาของเรื่องราวในวันนี้ ที่บิ๊กปูตอบรับให้พวกเราได้เข้ามานั่งพูดคุยสบายๆ ถึงชีวิตและการทำงาน ด้วยการเริ่มต้นบทสนทนาได้อย่างไม่ต้องรับประกันความสนุกใดๆ ต่อจากนี้อีกเลยว่า 

“…การเป็นตำรวจจากที่คิดไว้ตอนเด็กกับการมาเป็นจริงๆก็ไม่ต่างกันครับเพราะตำรวจในวัยเด็กก็ดูแล้วจะถูกชาวบ้านไม่ชอบเยอะ(หัวเราะ) เพราะร้องไห้อยู่ก็บอกหยุดร้องนะถ้าซนอยู่ก็บอกหยุดซนนะเดี๋ยวตำรวจมาจับนี่กลัวมากกว่าอาบังมาจับนะเพราะเด็กๆเราก็เห็นตำรวจมาจับไพ่จับกัดปลาตีไก่…”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ดุหรือไม่” -  ไม่รู้แต่ทุกอย่างควรต้องอยู่ในกฏระเบียบ

“…ไอ้คำว่าดุผมไม่เข้าใจธรรมชาติผมเป็นข้าราชการในเครื่องแบบมียศพระราชทานก็ต้องอยู่ในกฏหมายและระเบียบวินัยผมว่าผมก็ปกติถ้าทำถูกผมก็ชมถ้าทำไม่ถูกก็ตำหนิก็มีเท่านั้นแต่ไอ้ดุอะไรยังไงจะไปวัดว่าอะไรดุมันตอบไม่ได้(หัวเราะ)กับที่บ้านก็ใช้หลักการเดียวกันกับลูกน้องถ้าคุณทำถูกกฏระเบียบมันก็ใช้ได้แต่ถ้าทำไม่ถูกในกฏระเบียบมันก็ระบุอยู่แล้วว่าผู้บังคับบัญชาต้องทำอย่างไรตั้งแต่ว่ากล่าวตักเตือนหรือพิจารณาลงทัณฑ์ทางวินัยแต่ส่วนใหญ่ผมก็ใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือนนะอาจจะมีเสียงดังอะไรไปบ้างนั่นก็คือลักษณะของผมซึ่งถือว่าผมอยู่ในเครื่องแบบมาหลายสิบปีผมก็ปกตินะเพราะผมไม่เคยไปฆ่าลูกน้อง(ยิ้ม)…”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

มาเป็นตำรวจเพราะ “คุณย่าสั่ง”

“…ตระกูลรังสิพราหมณกุลทุกคนที่ใช้นามสกุลนี้มีหน้าที่สนองพระเดชพระคุณรับใช้เบื้องพระยุคลบาทและประเทศชาติบ้านเมืองให้ดีที่สุดด้วยความจงรักภักดีบรรพบุรุษเราเป็นตระกูลพราหมณ์อยู่ในวังหลวงสมัยก่อนก็ได้รับพระราชทานทรัพย์สมบัติมาให้กับตระกูลซึ่งบรรพบุรุษก็นำสิ่งเหล่านี้  เอามาดูแลคนในตระกูลพูดง่ายๆคือมีกงสีเลี้ยงนั่นแหละครับ(ยิ้ม) คุณย่าเป็นผู้ดูแลกงสีเป็นคนดูแลลูกท่านทั้งหมดท่านก็จะกำหนดให้ว่าคนนั้นไปทำอาชีพนั้นคนนี้ไปทำอาชีพนี้ทุกคนก็ต้องดำเนินการไปตามที่คุณย่าสั่งเพราะคุณย่าเป็นเจ้าของสตางค์(หัวเราะ) ตอนแรกจริงๆผมอยากเป็นทหารเรือแต่ทหารเรือในตระกูลน่ะเขามีแล้วย่าก็บอกว่างั้นมาเป็นตำรวจ(หัวเราะ) ก็ทำงานไปให้ดีที่สุดไม่ว่าเราจะอยู่ตรงไหน

เขาจะกำหนดวันนี้คุณต้องอ่านหนังสือเล่มอะไรบ้างอ่านกี่หน้าต้องทำอะไรอย่างไรเป็นตารางเลยล่ะครับลูกหลานทุกคนในตระกูลนี้เป็นตารางหมดถามว่าอึดอัดไหมอึดอัดก็อดขนมแถมยังถูกตีด้วย(หัวเราะ) บรรพบุรุษสั่งอย่างไรก็ต้องทำตามหมดเพราะท่านก็คงไม่หวังร้ายกับเราต้องหวังดีแน่นอนเด็กๆเป็นลูกผู้ชายก็ต้องมีซนกันบ้างแหละแต่จะเรียกว่าดื้อหรือเปล่าผมไม่ดื้อหรอกครับไม่เรียวมันอันใหญ่(หัวเราะ) คุณย่าเขาเตรียมไว้ถ้าลูกหลานคนไหนทำไม่ถูกก็โดนเอ็ดโดนตี…”

 มือ Saxophone แห่งวงดนตรีนักเรียนนายร้อย 

“…ผมเล่นSaxophone นะอยู่ในวงดนตรีโรงเรียนนายร้อยตำรวจเรียนดนตรีที่สยามกลการมาตั้งแต่อายุน้อยๆคุณย่าสั่งอีกแล้ว(หัวเราะ)เพราะทุกอย่างไปเรียนอะไรต้องมาเบิกกงสีพอเข้าไปปีหนึ่งเขาก็ประกาศหาใครผ่านโรงเรียนมาบ้างใครเรียนมาบ้างเราก็มีประกาศนียบัตรอยู่ตอนแรกก็ไม่ทราบหรอกว่าเขาให้ไปทำอะไรนะครับเขามาถามก็ตอบพอตอบเขาก็เอาไปเลย(หัวเราะ) ของผมนี่อยู่ระหว่างOrgan กับSaxophone แต่Organ นี่ผมเล่นสู้เขาไม่ได้คนที่เขามาคัดเก่งกว่าผม(หัวเราะ) แต่เรื่องตัวโน้ตอะไรนี่ผมรู้เรื่องดีเขาก็เลยบอกถ้างั้นคุณเป่าSaxophone ไปแต่ผมเล่นSaxophone พวกเพลงลูกทุ่งอย่างเดียวเลยนะเพราะสมัยนั้นลูกทุ่งกำลังเป็นที่นิยมชมชอบเลยลูกกรุงก็มีบ้างแต่ส่วนใหญ่ต้องลูกทุ่ง…” 

“สืบสวนสอบสวน” - รสนิยมในการรับสื่อเพื่อปฏิบัติหน้าที่

“…เราต้องดูหนังอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว(หัวเราะ) ต้องดูนะครับเพราะมันสามารถนำมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ได้เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชนถ้าในหนังสืบสวนสอบสวนของต่างประเทศเขาจะมีอุปกรณ์เครื่องมือที่สูงกว่าในประเทศของเราซึ่งอันนี้ในความเป็นจริงก็เป็นความแตกต่างระหว่างตำรวจไทยกับต่างประเทศเหมือนกันคือโดยวิธีการปฏิบัติมันก็เหมือนกันเพราะฉะนั้นจะต้องศึกษาว่าจริงๆแล้วมันมีเครื่องมือเครื่องไม้อะไรที่จะอำนวยความสะดวกในการรวบรวมพยานหลักฐานบ้าง 

ในโทรทัศน์มันเป็นการแสดงแต่ในชีวิตจริงๆเรามีหน้าที่มีความรับผิดชอบต่อประชาชนต่อประเทศชาติบ้านเมืองแล้วก็สถาบันต้องปฏิบัติให้ดีที่สุดแล้วมันสัมผัสกับคนที่เขามีความเดือดร้อนต้องรับใช้เขาให้ดีที่สุดซึ่งจริงๆมันไม่มีอะไรยากแต่คุณต้องยึดถือกฏหมายและระเบียบอย่าไปแหกอย่าไปฝืนกฏว่าอย่างไรก็ต้องว่าไปอย่างนั้นตรงๆเพราะว่ามันต้องใช้กติกาเดียวกันทั้งบ้านทั้งเมืองเพราะถ้าไม่ยึดกฏก็ทำให้กระบวนการยุติธรรมมันเสียอย่าให้ผู้กล่าวหาเขามองว่าเราช่วยผู้ต้องหาหรืออย่าให้ผู้ต้องหาเขามองว่าเราช่วยผู้ต้องหากฏหมายบอกว่าการสอบสวนจะกระทำที่ใดเวลาใดก็ได้แต่ให้กระทำโดยมิชักช้า…” 

เกษียณแล้วก็จะต่อยอดสิ่งที่บรรพบุรุษได้สร้างไว้ 

“…เวลาว่างผมตอนนี้ส่วนใหญ่ก็ทำกับข้าวขายปลูกต้นไม้เพราะว่าบรรพบุรุษของเราก็มีทำเกษตรสิ่งที่ทำ ต่อไปคือการต่อยอดสิ่งที่บรรพบุรุษได้ทำไว้ไม่ว่าเกษตรหรือปศุสัตว์เกษียณแล้วก็คงไปดูแลฟาร์มม้าซึ่งคุณพ่อทำไว้ผมขี่ม้าเป็นตั้งแต่เด็กเลยนะ(หัวเราะ) หรือว่าถ้าผู้บังคับบัญชาเห็นว่าเกษียณแล้วยังมีประโยชน์ต่อประเทศชาติจะให้ไปเป็นที่ปรึกษาอะไรตรงไหนก็ได้แต่โดยหลักการถ้าไม่มีสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาสั่งอะไรก็คงจะไปต่อยอดสิ่งที่บรรพบุรุษทำไว้…” 

เป็นตำรวจไม่มีคำว่า “ท้อ”  ขอให้ประชาชนมั่นใจ

“…ท้อไม่ได้นะถ้าไม่สบายใจก็เข้าวัดเข้าโบสถ์สวดมนต์ไปมันก็มีความไม่สบายใจบ้างแต่มันจะมีมากเกินความรับผิดชอบหน้าที่ไปไม่ได้เพราะเรามาทางนี้แล้วหน้าที่ตำรวจโดยหลักการแล้วเรามีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับประชาชนต้องยอมรับนะว่าข้าราชการไม่ว่าจะเป็นหน่วยไหนก็กินภาษีประชาชนเป็นเงินเดือนนะมีเบี้ยเลี้ยงสวัสดิการก็มาจากภาษีประชาชนนะต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด…”

และก่อนจากกันในวันนี้  “บิ๊กปู”  ก็ได้ฝากสิ่งที่อยากจะบอกผ่านเราไปยังพี่น้องประชาชนทุกท่าน ถึงความตั้งใจในการ “รับใช้ประชาชน” ของสุภาพบุรุษสีกากีผู้นี้ไว้ว่า

“…ขอให้ประชาชนมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่กระบวนการในการอำนวยความยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจมันมีตั้งแต่โรงพักภูธรจังหวัด  ภูธรภาคสำนักงานตำรวจแห่งชาติกระบวนการยุติธรรมมีสามสี่ขั้นตอนท่านคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมตรงจุดไหนก็มาบอกกล่าวจุดที่สูงกว่าเจ้าหน้าที่ที่เขารับเรื่องไปเขาก็จะดำเนินการให้ท่านเพื่อเป็นการบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ดีที่สุดแต่มีอะไรก็กราบเรียนว่าอย่าไปจัดการกันเองไม่เช่นนั้นความเสียหายมันก็จะเกิดต่อเนื่องไม่สิ้นสุดขอให้มั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่เถอะครับ…”

***********************

สถานที่ : สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ความเห็น 308
  • POL
    คดีเสือดำถึงไหนแล้วล่ะศรี
    25 ก.ย 2561 เวลา 12.09 น.
  • ...
    ยกมือไหว้ เฮี้ยเปรมชัย ยังวันนี้!!
    25 ก.ย 2561 เวลา 12.52 น.
  • ChAiNaRong 🛵 🎸956
    เสือดำถึงไหนละ เสือตายจริงๆนะศรี ไม่ใช่เอาเสือสิบเอ็ดตัวไปดองยา ดองซะนานเลย
    25 ก.ย 2561 เวลา 12.54 น.
  • Pong Kitkhanetphan
    ถุยยยยยไอ้เตี้ย
    25 ก.ย 2561 เวลา 12.46 น.
  • รอง พจน์
    ศรีเอ่ยศรี
    25 ก.ย 2561 เวลา 12.50 น.
ดูทั้งหมด