ไอที ธุรกิจ

เปิดเงื่อนไข'ชิมช้อปใช้'เฟส2

กรุงเทพธุรกิจ
เผยแพร่ 09 ต.ค. 2562 เวลา 07.00 น.

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)​ เปิดเผยว่า วานนี้ (8 ต.ค.) นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานการประชุมหารือมาตรการชิมช้อปใช้ในเฟสสอง โดยสศค.ได้เสนอแนวทางปฏิบัติหลายแนวทางหลังจากนี้ที่ประชุมจะกลับไปพิจารณาข้อดีข้อเสียก่อนนำมาหารือเพื่อสรุปอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ จากนั้นจะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันอังคารที่ 22 ต.ค.นี้

โจทย์ของชิมช้อปใช้เฟสสองคือทำอย่างไรให้ประชาชนยอมดึงเงินในกระเป๋าออกมาใช้จ่าย และ การใช้จ่ายต้องกระจายในพื้นที่ที่เห็นว่า ควรมีการช่วยเหลือหรือกระตุ้น เช่น พื้นที่ในจังหวัดที่เล็กกว่าเมืองรอง เช่น ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน หรือ สตูล เป็นต้น

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ทั้งนี้สศค.ได้เสนอแรงจูงใจที่จะสนับสนุนโจทย์ดังกล่าว อาทิ การเพิ่มวงเงินใน Cash Back จากเฟสแรกที่ให้ 15% ของการใช้จ่ายในวงเงินไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือ นำการใช้จ่ายจำนวนหนึ่งไปใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้ เป็นต้น

"เราเสนอแนวทางที่จะเป็นแรงจูงใจให้คนมาใช้จ่ายตามเป้าหมาย ทั้งเรื่องการเพิ่มวงเงิน Cash Back หรือ การนำรายจ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ ส่วนเป้าหมายจะเน้นไปที่กลุ่มที่มีกำลังซื้อ และจะจำกัดจังหวัดที่จะใช้จ่าย เพราะผลใช้จ่ายในเฟสแรก เราพบว่ายังกระจุกตัวในเมืองใหญ่ๆ ซึ่งที่ประชุมขอพิจารณาข้อดีข้อเสียก่อนสรุปอีกครั้ง"

เขากล่าวว่า เดิมคาดว่าจะเสนอมาตรการดังกล่าวเข้าครม.ได้ในวันอังคารที่ 15 ต.ค.นี้ แต่เนื่องจากมีวาระเข้าสู่การพิจารณาจำนวนมาก ดังนั้นวาระพิจารณามาตรการชิมช้อปใช้เฟสสอง จึงน่าจะเลื่อนไปเป็นวันอังคารที่ 22 ต.ค.นี้แทน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าสำหรับการแจกเงิน 1 พันบาทนั้น ในเฟสสองของมาตรการชิมช้อปใช้ทางสศค.ไม่ได้เสนอเหมือนกับเฟสแรกแล้ว เพราะต้องการสนับสนุนให้ประชาชนยอมควักเงินในกระเป๋าตนเองออกมาใช้จ่าย ฉะนั้นงบอุดหนุนเฟสสองจากรัฐบาลก็จะน้อยลงจากเฟสแรก ส่วนร้านค้าร่วมมาตรการยังเน้นกลุ่มเดิม เพราะต้องการกระตุ้นการใช้จ่ายในร้านค้าชุมชนขนาดเล็ก ส่วนเงื่อนไขและจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการนั้น จะจัดให้มีการลงทะเบียนใหม่ เน้นกลุ่มที่มีกำลังซื้อจริงๆ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เข้าร่วมมาตรการไม่ถึง 10 ล้านคน และ คงไม่คึกคักเท่ากับเฟสแรก

นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า อยากฝากแจ้งประชาชนผู้ลงทะเบียนชิมช้อปใช้ในวันแรก (23 ก.ย. 2562) ซึ่งได้ทำการยืนยันและเปิดระบบแล้ว ให้รีบใช้จ่ายเงินบางส่วนครั้งแรกภายใน 14 วัน เพื่อป้องกันระบบตัดคืนเงิน

ทั้งนี้ การใช้จ่ายเงินตามโครงการชิมช้อปใช้ ไม่ได้จำกัดอยู่ในห้างค้าปลีกใหญ่ๆ จากข้อมูลพบว่ามีเพียง 19.78% ที่เหลือเป็นร้านค้าชุมชน ร้านโชห่วย ร้านธงฟ้า โดยมีร้านของชุมชนจำนวนมากที่เข้าร่วมโครงการนี้ และกระจายตัวไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งประชาชนสามารถตรวจสอบหาร้านที่เข้าร่วมโครงการได้จากเว็บไซด์ www.ชิมช้อปใช้.com หรือเปิดแอพพลิเคชั่น Google Map โดยจะมีการแสดงข้อความ "ร้านค้าชิมช้อปใช้" ขึ้นกำกับหลังชื่อร้านค้านั้นๆ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 44
  • Chaiwat
    จ่ายเงินให้คนละพันบาท​กินช้อบใช้​ คนที่เข้าระบได้ก็ใช้จ่ายในวงเงินไม่เกินพัน​ มีน้อยคนที่ใช้เกิน​ บางบ้าน4-5คน​ ก็ได้4-5พันบาท​ ทั้งกินทั้งช้อป​ หมด5พัน​บาท​ จะไปควักจ่ายเพิ่มตรงไหน​ ความคิดโง่ๆเอาเงินภาษีมาเที่ยวแจกหวังกระตุ้น​ ศก.​ มันไม่เกิดผลอะไร​
    09 ต.ค. 2562 เวลา 08.23 น.
  • Sweed_ream
    กุเบื่อนโยบายส้นตีน. ยุ่งยากมากเรย
    09 ต.ค. 2562 เวลา 08.17 น.
  • Sank L.World
    สุดยอดลงทุนขนาดนี้แล้วสมัยหน้าคงได้อีกสมัยนะแต่ที่แน่ๆเอาให้งบผ่านก่อนเถอะ
    09 ต.ค. 2562 เวลา 08.22 น.
  • ชยานิษฐ์
    ไว้แจกคนแก่ที่ทุน้อยดีกว่านะคะ..ไม่รุว่าดีไม่ดี..ไม่อยากติดตามแล้ว..ทำอย่างอื่นเถอะคะ..ประเทศไทยเจ้ายุคข้าวของแพงขึ้นทุกวัน...
    09 ต.ค. 2562 เวลา 08.26 น.
  • Sert 💸169💰
    วุ่นวาย​ ลำไยมากก
    09 ต.ค. 2562 เวลา 08.20 น.
ดูทั้งหมด