เปิดนาทีเถ้าแก้คลั่ง ยิงลูกน้องหล่อแอบยุ่งกับเมีย 9 นัด ช้ำถูกจับ เมียยังเมิน (คลิป)

วันที่ 17 ส.ค. 62 เวลาประมาณ 9.30 น. ตำรวจ สภ.บางคณที อ.บางคณที จ.สมุทรสงคราม ลงตรวจสอบที่เกิดเหตุ หมู่4 ต.โรงหีบ อ.บางคณที ริมถนนใกล้กับวัดบางกุ้ง หลังจากได้รับแจ้งเหตุมีผู้ใช้อาวุธปืนยิงคู่อริจนเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนหลายปลอกตกเกลื่อนบนถนน โดยนายวราวุฒิ แซ่ตั้น อายุ 43 ปี ผู้ก่อเหตุยิงนายพนมพร พวงพลอย อายุ 25 ปี จนเสียชีวิต ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ โยสารภาพว่าทำไปเพราะแค้นที่ผู้ตายแอบมาตีท้ายครัว (อ่าน : นายจ้างแค้น ลูกน้องหยามตีท้ายครัว รัวกระสุน 9 นัด ร่างพรุนเลือดนองดับคารถ )

ล่าสุด นายสมศักดิ์ แซ่โค้ว อายุ 65 ปี เป็นชุดเฉพาะกิจอำเภอ เล่าว่า เวลาประมาณ 09.00 น. ตนเองได้ยินเสียงปืนดังขึ้น มีการแจ้งว่ามีคนยิงกัน ตนเองจึงรีบไปที่จุดเกิดเหตุ และพบกับผู้ก่อเหตุยืนถือปืนอยู่ ตนเองจึงให้วางปืนลงและใส่กุญแจมือ ส่วนนายพนมพรนอนคว่ำหน้าแต่ตัวยังกระดิกอยู่

เจ้าหน้าที่พยายามจะนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เสียชีวิตก่อน ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุฆาตกรรมในครั้งนี้ นายวราวุฒิซึ่งเป็นนายจ้างของผู้ตายอ้างว่าเพราะถูกตีท้ายครัว ซึ่งนายวราวุฒิก็เป็นคนบ้านเดียวกันกับผู้ตาย

โดยผู้ก่อเหตุเจ้าของล้งมะพร้าว เคยขอให้นายพนมพรกับเลิกรากัน แต่ทั้งสองไม่ยอมเลิก วันเกิดเหตุภรรยาวัย 40 ปี และนายพนมพรก็มาในรถขนมะพร้าวคันเดียวกันด้วย เพื่อมาขนมะพร้าวที่ผู้ก่อเหตุขับตามมา ถึงจุดเกิดเหุตุตามมายิงด้วยความแค้น

ซึ่งผู้ก่อเหตุบอกกับตนเองว่า ครั้งนี้เป็นการยิงปืนครั้งแรกด้วย โดยยิงไปทั้งหมดประมาณ 9 นัด โดยในขณะนั้นตอนที่ตนเองไปถึงภรรยาก็ยืนร้องไห้อยู่ใกล้ ๆ แต่ภรรยาไม่ได้เดินไปหาสามีผู้ที่เป็นคนยิงแต่อย่างใด โดยผู้ต้องหาเป็นคนเงียบขรึม ส่วนภรรยาก็เป็นคนหน้าตาดี เปิดการก่อเหตุในครั้งนี้ตนเองทราบว่าเกิดจากความแค้น

ที่วัดหลักห้า ต.ประสาทสิทธิ์ อ.ดำเนินสะดวก ซึ่งเป็นเขตของ จ.ราชบุรี เป็นสถานที่ตั้งศพนายพนมพร พวงพลอย อายุ 25 ปี ผู้เสียชีวิต โดยนางประนอม พวงพลอย อายุ 54 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เล่าว่า วันเกิดเหตุแฟนของลูกชายมารับตัวไปจากที่บ้าน เพื่อออกไปทำงาน

หลังจากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. ตนเองก็ได้รับแจ้งว่าลูกชายถูกยิงเสียชีวิต สภาพจิตใจของตนเองในตอนนั้นหลังจากทราบข่าวของลูกชายว่าโดนยิงรู้สึกตกใจ เสียใจ ทำอะไรไม่ถูก ไม่คิดว่าลูกชายออกไปวันนี้แล้วจะเสียชีวิต ปกติลูกชายก็กลับบ้านเป็นประจำทุกวัน และจากที่ตนเองสังเกตก่อนหน้านี้ลูกชายก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร

โดยลูกชายของตนเองได้เลิกทำงานที่ล้งมะพร้าวของผู้ก่อเหตุไปกว่า 1 ปีแล้ว จึงไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรกัน แต่ก็ไม่ควรทำถึงขั้นนี้ การกระทำเช่นนี้มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก และตนเองก็มีลูกชายเพียงคนเดียว สำหรับสภาพจิตใจของตนเองในตอนนี้ก็รู้สึกเสียใจที่ต้องมาเสียลูกชายไป ตนเองคิดว่าควรจะคุยกันดี ๆ อยากให้นึกถึงจิตใจของคนที่สูญเสีย

https://youtu.be/LsggNkQ25ck