แฉขบวนการตัด-ทำไม้ป่าดงคล้อฯน้ำหนาวยังไม่หยุด ฉวยโอกาสช่วงหน้าฝนลอบตัดไม้ชิงชัน-มะค่าตามออเดอร์นายทุน 

เพชรบูรณ์-ผญบ. แฉขบวนการตัด-ทำไม้ป่าดงคล้อฯน้ำหนาวยังไม่หยุด ฉวยโอกาสช่วงหน้าฝนลอบตัดไม้ชิงชัน-มะค่าตามออเดอร์นายทุน

วันที่ 19 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในเขตป่าดงคล้อ อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ ยังคงเหิมเกริมแอบลักลอบเข้าไปตัดไม้และทำไม้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนายซินเฮง โพธิ์ศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 บ้านดงคล้อ ต.วังกวาง อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทั้งฝ่ายปกครอง และหน่วยป่าไม้ในพื้นที่ รวมทั้งชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้เพชรบูรณ์ (สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก), ชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจพิเศษจังหวัดเพชรบูรณ์(สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 พิษณุโลก)และตำรวจ สภ.น้ำหนาวและชุดรักษาความสงบภายในหมู่บ้านดงคล้อ โดยการสั่งการของนายอำเภอน้ำหนาว ได้สนธิกำลังเข้าทำการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายในพื้นที่ป่าบริเวณหลังหมู่บ้านดงคล้อ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผาานมา กระทั่งตรวจยึดไม้มะเหลี่ยม จำนวน 22 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.22 ลบ.ม., ไม้ชิงชันจำนวน 3 เหลี่ยมปริมาตร 0.25 ลบ.ม., ไม้ประดู่จำนวน 4 เหลี่ยมปริมาตร 0.62 ลบ.ม. รวมปริมาตรทั้งหมด 1.09 ลบ.ม พร้อมยึดรถแทรกเตอร์ล้อยางสีส้ม 1คัน, รถไถนาเดินตามแบบไทยประดิษฐ์อีก 1คัน แต่ทั้งนี้ไม่พบผู้กระทำความผิด

นายซินเฮงกล่าวว่า ในช่วงเข้าฤดูฝนกลุ่มแก๊งตัดโค่นและทำไม้เหล่านี้ จะอาศัยช่วงโอกาสนี้ลักลอบตัดและทำไม้ เนื่องเพราะเสียงน้ำตกหรือเสียงฝนตกจะกลบเสียงเลื่อยยนต์ รวมทั้งจากสภาพภูมิประเทศและเส้นทางมีความยากลำบาก ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ไม่ค่อยลาดตระเวณ จึงกลายเป็นช่องโหว่ทำให้ขบวนการตัดไม้ทำลายป่า ฉกฉวยโอกาสเข้าไปตัดโค่นพร้อมทำไม้ตามออเดอร์ที่นายทุนสั่ง อาทิ ไม้ชิงชัน ไม้ประดู่ เป็นต้น ส่วนกลุ่มหรือขบวนการตัดไม้เหล่าด้านการข่าวชี้ว่ามี 3 กลุ่มๆแรกจะตัดทำไม้บริเวณป่าดงคล้อ กลุ่ม 2 ทำไม้ในเขตป่าชุมชนและป่ารอยต่อ และกลุ่ม 3 เป็นกลุ่มจากจ.เลย ส่วนเส้นทางจะลำเลียงไม้ออกทางอ่างเก็บน้ำ จ.เลย

ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 กล่าวว่า สำหรับป่าดงคล้อถือเป็นป่าผืนสุดท้ายของป่าน้ำหนาว ที่ย้งมีสภาพป่าและสัตว์ป่าอุดมสมบูรณ์ เมื่อครั้ง พล.อ.ดาวน์พงษ์ รัตนสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่อ.น้ำหนาวและรับปากจะเร่งประกาศผืนป่าดงคล้อราว 17,000 ไร่เศษ พร้อมผนวกป่าไม้ชุมชนอีกราว 2,400 ไร่เศษให้เป็นเขตป่าห้ามล่าฯ แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่สำเร็จลุล่วง และเมื่อสอบถามก็ได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ จึงไม่รู้ว่าต้องให้รอจนถึงเมื่อไหร่ หรือจะต้องให้ป่าผืนนี้ถูกแก๊งตัดโค่นทำไม้จนหมดป่าก่อน ถึงจะมีการประกาศให้ป่าผืนนี้เป็นป่าเขตห้ามล่า