10 ก.ค.63 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน ทั้ง ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กอ.รมน. และชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เข้าตรวจสอบจับกุมผู้บุกรุกถือครอบครองพื้นที่บริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก ซึ่งเป็นจุดชมวิวบนภูทับเบิก เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่า มีสิ่งปลูกสร้างแห่งใหม่ขึ้นในบริเวณนี้ โดยพบสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านคอนกรีต 1 หลัง พร้อมห้องน้ำห้องสุขา 4 หลัง และปรับพื้นที่เป็นลานกางเต็นท์
เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า มีการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ เพื่อทำการก่อสร้างรีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ และ ลานกางเต็นท์ ซึ่งเป็นการบุกรุกขยายพื้นที่รายใหม่จำนวน 3 แปลง โดยแปลงแรกมีพื้นที่ประมาณ 19 ไร่ ประกอบด้วยที่พักมุงสังกะสี 4 หลัง และลานกางเต็นท์ ส่วนแปลงที่ 2 อยู่ติดกับผาหัวสิงห์ เป็นบริเวณที่ก่อสร้างอาคารตึกขาว 2 ชั้น และ ลานกางเต็นท์ที่ถูกนำมาวิจารณ์ในโลกโซเชียล มีพื้นที่ราว 3 ไร่เศษ มีอาคาร 2 ชั้น 1 หลัง ห้องน้ำห้องสุขา 1 หลัง และลานกางเต็นท์ ซึ่งพบว่าเป็นการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติมจากเดิมที่ครอบครองเพียง 1 ไร่เศษ และ แปลงที่ 3 มีพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ ยังไม่มีผู้ใดมาแสดงตนเป็นเจ้าของพื้นที่ โดยมีสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านพักอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 1 หลัง และห้องน้ำจำนวน 1 หลัง
จากการตรวจสอบพบนายเงี่ยป๋อ แซ่ท่อ ซึ่งเป็นผู้ครอบครองที่ดินเดิมก่อนที่จะแบ่งมอบที่ดินให้กับบุตร เจ้าหน้าที่จึงให้นำชี้ขอบเขตที่ดินทำกินเดิม และเจ้าหน้าที่ได้พบผู้ครอบครองใหม่ ให้นำตรวจสอบและให้เซ็นรับมอบหนังสือห้ามก่อสร้างอาคาร และห้ามใช้อาคาร โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดประกาศคำสั่งดังกล่าวที่อาคารสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 ราย ได้แก่ 1.นายกัวเน้ง แซ่ท่อ ครอบครองพื้นที่ จำนวน 3/2/12 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้รับแบ่งมอบจากบิดา แม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน แต่ได้ขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจากที่บิดาทำกินเดิม จึงผิดเงื่อนไขตามมติ ครม. 30 มิ.ย.41 ซึ่งถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด
คณะเจ้าหน้าที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ฐาน "ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ มาตรา 55 ฐาน "ผู้ใดครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งมาตราก่อน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลนั้นเป็นผู้แผ้วถางป่านั้น" จึงร่วมกันตรวจยึดพื้นที่พร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นบ้านคอนกรีต 2 ชั้น 1 หลัง เต็นท์กระโจม 7 หลัง ห้องน้ำห้องสุขา 4 หลัง และปรับพื้นที่เป็นลานกางเต็นท์
2.นายวีระพจน์ รักษ์มณี ครอบครองพื้นที่ประมาณ 19 ไร่ เป็นที่ดินที่ได้รับแบ่งมอบจากพ่อตา มีสิ่งปลูกสร้าง เป็นบ้านกระโจม 4 หลัง อาคารสำนักงาน 1 หลังห้องน้ำห้องสุขา 4 หลัง และปรับพื้นที่เป็นลานกางเต็นท์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
3.ราษฎรบ้านวังบาลไม่ทราบชื่อ เป็นเจ้าของ ภูลมหนาว ผาหัวสิงห์ แคมป์ปิ้ง ครอบครองพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ไม่พบเจ้าของ สร้างบ้านกระโจม 1 หลัง ห้องน้ำ-ห้องสุขา 2 หลัง และลานกางเต็นท์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม
ด้าน พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปป.4) กอ.รมน. กล่าวว่าสำหรับพื้นที่ผาหัวสิงห์ หมู่ 8 ต.บ้านเนิน ยังอยู่ภายใต้คำสั่ง หน.คสช.ที 35/2559 ลงวันที่ 5 ก.ค.2559 ซึ่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถยึดรื้อถอนทำลายได้ และ ผอ.สจป.4 จะดำเนินการติดประกาศให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดต่อไป
Prasong ไม่ไปเที่ยวที่นั่นกัน จะแก้ปัญหาได้ไหม
10 ก.ค. 2563 เวลา 12.55 น.
PhanaSonics สุดยอด เอาให้จน จับให้หมด รื้อให้เกลี้ยง
10 ก.ค. 2563 เวลา 12.50 น.
Songmuang อย่าลืมของ ปารีณา ด้วยนะ ไม่ใช่มวยล้ม ต้มคนดู
10 ก.ค. 2563 เวลา 12.41 น.
จัน [MBM] 1700ไร่เงียบหาย
10 ก.ค. 2563 เวลา 12.24 น.
N o-o M เค้าให้ที่ไว้ทำการเกษตร อยากรวยทางลัด ก็รื้อๆ กันไป
10 ก.ค. 2563 เวลา 12.18 น.
ดูทั้งหมด