หลายคนคงอาจเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า“เงินซื้อความสุขไม่ได้ถ้ามันไม่มากพอ”
มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันสหรัฐอเมริกาได้เผยตัวเลขที่“มากพอ” ที่จะทำให้เราสามารถ“ซื้อ”ความสุขได้จริงๆนั่นคือการมีระดับรายได้อยู่ที่ประมาณ75,000 เหรียญต่อปีหรือราวๆสองแสนบาทต่อเดือน(ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะเงินเดือนขนาดนี้ไม่สุขก็แย่แล้ว) แต่ที่น่าแปลกใจก็คืองานวิจัยได้บอกว่าหากเราได้เงินเดือนมากไปกว่านี้ก็จะไม่ทำให้เรามีความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นหรือบางทีอาจจะน้อยกว่าที่เป็นอยู่ด้วยซ้ำ
อ้าวทำไมงั้น? แล้วแบบนี้เราจะทำงานหนักไต่เต้าบันไดแห่งความสำเร็จกันไปเพื่ออะไรละเนี่ย
75,000 เหรียญต่อปีตัวเลขมหัศจรรย์นี้มาจากไหน
เจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้เป็นนักเศรษฐศาสตร์และนักจิตวิทยาชื่อดังAngus Deaton และDanial Kahnneman เจ้าของรางวัลโนเบลด้านเศรษฐศาสตร์โดยทั้งสองได้ทำการสำรวจนี้กับชาวอเมริกัน450,000 คน โดยสุ่มถามไปเรื่อยๆถึงความสุขและความพอใจในชีวิตในช่วงที่ผ่านมาโดยพบว่าระดับรายได้ไม่ได้เกี่ยวพันกับความทุกข์สุขโดยตรงขนาดนั้น
หากแต่เกี่ยวพันกับความกังวลและความเครียดในเรื่องการเงินส่วนบุคคลโดย51% ของผู้ตอบที่รายได้ต่ำกว่า1,000 usd (หรือ30,000 บาทต่อเดือน) บอกว่ารู้สึกเครียดกังวลและไม่มั่นคงในชีวิตในขณะที่ตัวเลขลดลงเหลือเพียง24% ในกลุ่มผู้ที่เงินเดือนมากกว่านี้โดยความกังวลด้านการเงินส่วนบุคคลนี้ได้ลดลงเหลือ0% เมื่อไล่ถามไปถึงกลุ่มที่มีรายได้ปีละ75,000 หรือราว220,000 ต่อเดือน
ฐานเงินเดือนแห่งความสุขช่วยดับทุกข์ได้แค่ภายนอก
ก่อนที่เราจะรีบรุดไปขอเจ้านายขึ้นเงินเดือน(หรือลดเงินเดือน) เพื่อให้มีความสุขเร็วๆเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าความสุขนั้นมีอยู่สองแบบ
แบบแรกคือความสุขที่เกิดจากอารมณ์หรือสิ่งที่มากระทบเราในแต่ละวันซึ่งความสุขแบบนี้สามารถขึ้นๆลงๆแปรเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมสิ่งเร้ารูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสต่างๆซึ่งพูดง่ายๆก็คือความสุขภายนอกนั่นแหละ
ในขณะที่อีกส่วนคือความสุขภายในนั้นเป็นความรู้สึกข้างในลึกๆในจิตใจว่าตัวเรามีความพอใจภูมิใจสุขใจกับชีวิตหรือสภาวะที่เราเป็นอยู่มากแค่ไหนซึ่งความสุขในรูปแบบนี้เป็นความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าซึ่งรายได้เดือนละสองแสนบาทนั้นสามารถตอบสนองได้เพียงความสุขแบบแรกเท่านั้น
กล่าวคือมันเอื้อให้คนรายได้ระดับนี้รู้สึกได้ว่า“เงินไม่ใช่ปัญหา” หรือเมื่อมีปัญหาก็สามารถใช้เงินแก้ได้ในระดับหนึ่ง
เงินแก้ได้แต่ไม่ใช่ทุกปัญหา
คุณพอลลี่ผู้อำนวยการใหญ่ของแผนกผู้มีเงินเดือนสองแสนตามค่าเฉลี่ยเป๊ะจับได้ว่าสามีแอบไปมีเมียน้อยเธอโศกเศร้าเสียใจหากอยากจะเปิดไวน์ขวดละหมื่นมาดื่มเพื่อดับทุกข์จากนั้นจองตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจไปซานโตรินีเพื่อเลียแผลใจแบบเงียบๆคนเดียวเธอก็สามารถทำได้เพราะเธอไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายเธออาจจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเมื่อได้ดื่มไวน์รสชาติดีสบายใจขึ้นเมื่อได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม
อำพรพนักงานระดับปฏิบัติการเงินเดือนหมื่นกว่าบาท(รวมโอทีแล้ว) จับได้ว่าแฟนมีกิ๊กเหมือนกันเธออยากจะจ่ายเงินเพื่อหาซื้อความสุขมาทดแทนในจังหวะที่ตัวเองมีความทุกข์บ้างก็อาจไม่สามารถทำได้เต็มที่เท่าพอลลี่หรือถ้าจะทำก็ต้องมานั่งคำนวณงบประมาณอย่างระมัดระวังจนทำให้เกิดทุกข์ซ้อนทุกข์ขึ้นไปอีก
พริสซิล่าลูกสาวเจ้าของบริษัทที่ต้องเจอปัญหาแบบเดียวกันกับคนทั้งคู่โดยเงินเดือนในฐานะที่ปรึกษารวมถึงหุ้นของบริษัทที่เธอถือรวมๆกันแล้วมากกว่าเงินเดือนพอลลี่และค่าเฉลี่ยที่ผลวิจัยกล่าวหลายเท่าเมื่อเธอใช้เงินแก้ปัญหาแบบเดียวกับที่พอลลี่ทำเธอก็อาจจะไม่ได้มีความสุขที่มากไปกว่าพอลลี่เท่าไรนักเพราะอะไรที่เธอทำได้พอลลี่ก็สามารถทำได้ด้วยเงินของเธอเช่นเดียวกัน
แต่ถามว่าใครจะหายโศกเศร้าจากความรู้สึกไม่มีค่าหรือความรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกหักหลังจากคนที่รักได้เร็วกว่ากันนั่นไม่ได้อยู่ที่ระดับรายได้แต่อยู่ที่ความรู้สึกนับถือตัวเองลึกๆข้างในจิตใจล้วนๆ
ซึ่งพอลลี่อำพรและพริสซิล่าก็มีสิทธิ์ในจุดๆนี้เท่ากันนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเหล่าเศรษฐีหรือเจ้านายระดับตัวบอสทั้งหลายก็ยังคงมีความทุกข์ไม่ต่างกับชาวเราเท่าไรนัก
สุขจากภายในสุขแท้และสุขนาน
อ่านมาถึงตรงนี้หากใครที่มีเงินเดือนถึงสองแสนแล้วเราก็ดีใจด้วยที่คุณมาถึงจุดequilibrium หรือสมดุลแห่งความสุขตามหลักเศรษฐศาสตร์แล้วละซึ่งจากนี้หากคุณต้องการที่จะมีความสุขที่ลึกซึ้งและจริงแท้มากขึ้น
ลองใช้เงินที่คุณมีไปกับการสร้างประสบการณ์ที่จะเพิ่มพูนความสุขจากภายในเช่นเปลี่ยนจากเอาเงินไปซื้อข้าวของเป็นการซื้อเวลาเพื่อให้คุณได้มีเวลาทำสิ่งที่ตอบสนองความสุขลึกๆในจิตใจมากขึ้นเช่นจ้างลูกน้องมาทำงานแทนเพื่อให้ได้มีเวลาไปรับลูกที่โรงเรียนไปกินข้าวกับครอบครัว
หรือทำงานอดิเรกที่คุณชอบมากขึ้นลงทุนกับสุขภาพและอาหาร(ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นอาหารราคาแพงเสมอไป) เพื่อบำรุงร่างกายและจิตใจของคุณให้แข็งแรงลงทุนกับสิ่งแวดล้อมดีๆประสบการณ์การท่องเที่ยวใหม่ๆตลอดจนถึงเพื่อนและคอนเนคชั่นที่มีคุณภาพเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมกับการรับมือปัญหาใหม่ๆในอนาคตที่เงินไม่อาจซื้อได้
หากใครที่เงินเดือนเกินสองแสนไปแล้วและมีความสุขดีก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรตั้งใจทำงานที่คุณรักและดำเนินชีวิตตามแบบของคุณต่อไปแต่หากรู้สึกตรงกันข้ามหรือยังทุกข์ๆขมๆลองลดความเร่งลงสักนิดหันมาใส่ใจสิ่งดีๆรอบตัวที่เราอาจหลงลืมไปและให้ความสำคัญกับการทำงานเพื่อตอบเป้าหมายภายในที่ไม่ใช่ตัวเงินมากขึ้นคุณอาจพบความสุขที่แท้จริงที่รอคุณอยู่ก็ได้
ส่วนใครที่เงินเดือนยังไม่ถึงสองแสนก็ไม่ต้องเครียดไปเพราะคุณยังมีกองบก. ทั้งกองและชาวโลกอีกกว่า99.9% เป็นเพื่อนคุณไปค่ะเลิกงานแล้วเปิดตี้หมูทะกัน!
อ้างอิง
http://content.time.com/time/magazine/article/0,9171,2019628,00.html
https://www.princeton.edu/~deaton/downloads/deaton_kahneman_high_income_improves_evaluation_August2010.pdf
https://www.numbeo.com/cost-of-living/rankings.jsp
http://www.globalrichlist.com
ไม่จริงครับ ความสุขมี่แน่นอนครับ แต่ความทุกข์อย่างอื่นที่ไม่เกี่ยวกับเงินๆๆมันก็มีเป็นของธรรมดา เพราะความไม่อยากตายไปจากความสุข
22 ก.พ. 2562 เวลา 22.59 น.
ᴍ ᴏ ɴ ᴛ ᴀ ᴋ ᴀ ʀ ɴ ใครมีเยอะไป โอนมานี่ มา
23 ก.พ. 2562 เวลา 06.36 น.
Surapol Keng เงินเดือนที่มาก มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่มากขึ้นนะครับ ถ้าไม่มีความรักในงานนั้นจริงๆ มันก็เป็นทุกข์ได้ไม่ยาก
23 ก.พ. 2562 เวลา 03.29 น.
Kittzaza ถ้าได้ 9000 ก็จะคำนวณเก่งว่าต้องทำไงให้ชักหน้าถึงหลังสู้ต่อไป
23 ก.พ. 2562 เวลา 05.52 น.
W.Direk_666 🐮789🐉♍♑🇹 สมัยก่อนอยากรวยมากคิดว่ามีสุขแต่พอมีเงินมีทุกอย่างกับทุกข์มากขึ้น ทั้งเรื่องคนทั้งเรื่องงานแต่วันนี้สละแล้ว กับสบายกว่ากันเยอะเลย ทุกน้อยลงแต่สบายใจมากขึ้น การมีเงินเดือน/ละแสนก็มีเรื่องต้องจ่ายต้องทำมากขึ้นตามความอยากของเรา..
23 ก.พ. 2562 เวลา 00.18 น.
ดูทั้งหมด