ไอที ธุรกิจ

อีก 5 ปี คนซัวเถา จะรวยกว่า คนไทย

ลงทุนแมน
อัพเดต 22 ต.ค. 2562 เวลา 10.42 น. • เผยแพร่ 22 ต.ค. 2562 เวลา 11.40 น. • ลงทุนแมน

อีก 5 ปี คนซัวเถา จะรวยกว่า คนไทย / โดย ลงทุนแมน

รู้หรือไม่ คนรวยสุดในประเทศจีนและไทยในปัจจุบัน มีบ้านเกิดอยู่ที่เดียวกันคือ “ซัวเถา”

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

คนที่รวยสุดในจีนที่ผ่านมา จะสลับกันระหว่าง Ma Huateng กับ Jack Ma
คุณ Ma Huateng หรือ Pony Ma เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยี Tencent และเกิดที่ซัวเถา

ส่วนคนรวยสุดในไทย คุณธนินท์ เจียรวนนท์ เจ้าของเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีครอบครัวที่อพยพมาจากซัวเถา

และเราหากไปถามคนไทยเชื้อสายจีนหลายๆ คน จะพบว่าส่วนใหญ่บรรพบุรุษก็มาจากซัวเถาเช่นกัน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

“ซัวเถา” ในวันนี้เป็นอย่างไร? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ซัวเถา (ซ่านโถว) เป็นเมืองท่าชายฝั่งทะเลจีนตะวันออก ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง
โดยถือเป็นหนึ่งในเขตอารยธรรมจีนที่เรียกว่า จีนแต้จิ๋ว หรือ แต้ซัว ซึ่งประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ แต้จิ๋ว ซัวเถา และ กิ๊กเอี๊ย

ซัวเถา มีพื้นที่ประมาณ 2,199 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรอาศัยอยู่ 5.6 ล้านคน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

จริงๆ แล้วชาวจีนจากซัวเถาเริ่มอพยพมายังประเทศไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา
ส่วนหนึ่งเดินทางเพื่อติดต่อค้าขาย และอีกส่วนก็หนีความอดอยากและภัยพิบัติมา

ในสมัยกรุงธนบุรีของพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งบรรพบุรุษของท่านก็มาจากซัวเถา ทำให้มีนโยบายสนับสนุนและชักชวนให้คนจีนเข้ามาลงหลักปักฐานในประเทศไทยมากขึ้น

ต่อมาในปี พ.ศ. 2403 ซัวเถามีการสร้างท่าเรือพาณิชย์และกลายเป็นหนึ่งในเมืองท่าสำคัญของประเทศจีน

ตอนนั้นการเดินเรือมีการพัฒนาค่อนข้างมากแล้ว ประกอบกับเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความต้องการแรงงานจำนวนมาก เพราะเป็นยุคของการค้าเสรีซึ่งเป็นผลมาจากสนธิสัญญาเบาว์ริง ในช่วงรัชกาลที่ 4

เรื่องนี้ส่งผลให้มีคนจีนเดินทางจากซัวเถามาเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้นเรื่อยๆ

สัดส่วนผู้อพยพจากซัวเถาที่เดินทางมาประเทศไทยจากการเก็บข้อมูลบันทึกของศุลกากรจีน

พ.ศ. 2425-2435 คนที่อพยพออกจากซัวเถา มาประเทศไทย 20% ของทั้งหมด
พ.ศ. 2436-2448 คนที่อพยพออกจากซัวเถา มาประเทศไทย 33% ของทั้งหมด
พ.ศ. 2449-2460 คนที่อพยพออกจากซัวเถา มาประเทศไทย 50% ของทั้งหมด

ถ้าดูจากแนวโน้มที่เกิดขึ้น ก็น่าจะเรียกได้ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศยอดฮิตของคนซัวเถาสมัยนั้นเลยทีเดียว

โดยเฉพาะช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2488-2492 กวางตุ้งเกิดภัยแล้ง อดอยากต่อเนื่องทั่วทั้งมณฑล รวมทั้งเกิดสงครามในประเทศระหว่างจีนก๊กมินตั๋งและคอมมิวนิสต์

ทำให้ชาวแต้จิ๋ว (ซัวเถาและเมืองโดยรอบ) กว่า 2 ล้านคน อพยพมายังประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์

จุดเด่นของชาวแต้จิ๋วที่อพยพมา ก็คือ ความสู้ชีวิตเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว

บางคนมาเพียงแค่เสื่อผืนหมอนใบ แต่ก็รับจ้างทำแทบทุกอย่าง
ซึ่งนอกจากความขยัน อดทนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ ทักษะการค้า

จะเห็นได้จากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คนก็มีเชื้อสายจีน
โดยเฉพาะจีนแต้จิ๋ว ซึ่งรัชกาลที่ 6 ยกให้เป็น “ยิวแห่งประเทศจีน” เพราะความเก่งในการทำธุรกิจและการค้า

ไม่เพียงเฉพาะในไทยเท่านั้น แต่กระจายไปทั่วโลก อย่างในฮ่องกงที่มีสัดส่วนคนกวางตุ้งมากกว่า แต่คนรวยอันดับหนึ่งกลับเป็น คุณ Li Ka-shing ที่เป็นคนแต้จิ๋ว

แล้วซัวเถาในวันนี้เป็นอย่างไร?

ปัจจุบัน ซัวเถา เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน
อุตสาหกรรมหลักที่น่าสนใจของเมืองซัวเถา คือ การผลิตของเล่น

โดยการผลิตของเล่นทั้งหมดในประเทศจีน มาจากกวางตุ้งเกือบ 80%
ซึ่งหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตก็อยู่ที่เมืองซัวเถา

ไม่เพียงใหญ่สุดในจีน แต่ยังถือเป็นแหล่งผลิตของเล่นที่ใหญ่สุดในโลก

ในปี 2560 กวางตุ้งมีมูลค่าส่งออกของเล่นมากถึง 6.9 แสนล้านบาท
โดยตลาดส่งออกหลัก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และยุโรป

ส่วนหนึ่งก็เป็นผลมาจากการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนท้องถิ่น
ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว

แล้วตอนนี้คนซัวเถา หรือ คนไทย รวยกว่ากัน?

ถ้าเป็นเมื่อก่อน คนได้ยินคำถามนี้คงหัวเราะ แล้วตอบว่าคนไทยรวยกว่าแน่นอน
รู้หรือไม่ว่า คนสมัยก่อนมักจะใช้คำว่า “มาจากซัวเถา” เป็นคำเยาะเย้ย เหมือนบ้านนอกเข้ากรุง
แต่ตอนนี้เรื่องอาจเปลี่ยนไป เพราะคนซัวเถากำลังจะรวยกว่าคนไทย..

GDP ต่อหัวของซัวเถา
พ.ศ. 2551 อยู่ที่ 80,387 บาท
พ.ศ. 2561 อยู่ที่ 192,138 บาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 9%

GDP ต่อหัวของไทย
พ.ศ. 2551 อยู่ที่ 141,424 บาท
พ.ศ. 2561 อยู่ที่ 231,589 บาท เติบโตเฉลี่ยปีละ 5%

จากตัวเลขนี้ถ้า GDP ต่อหัวของซัวเถาและไทย ยังโตในอัตราเดิมต่อไปเรื่อยๆ
อีกประมาณ 5 ปี GDP ต่อหัวของซัวเถา ก็จะสามารถแซงประเทศไทยได้..

ปิดท้ายด้วยเรื่องที่น่าสนใจ

คนซัวเถาที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยได้มาพร้อมกับวัฒนธรรมมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือภาษาแต้จิ๋ว

รู้หรือไม่ว่า คำที่เราใช้ในชีวิตประจำวันจนคิดว่าเป็นภาษาไทย จริงๆ แล้วมาจากภาษาแต้จิ๋ว

เก้าอี้ มาจาก 高椅 (ออกเสียงว่า เกาอี่) แปลตรงตัวว่า ม้านั่งสูง
ยี่ห้อ มาจาก 字號 (ออกเสียงว่า หยี่ห่อ) แปลตรงตัวว่า ชื่อตราสินค้า
ตะหลิว มาจาก 鼎鑢 (ออกเสียงว่า เตี๋ยหลิว) แปลตรงตัวว่า กระทะ + ตะไบ

ที่น่าสนใจคือ แม้แต่คำว่า ไข่เจียว คำว่า เจียว ก็มาจากภาษาแต้จิ๋ว 焦 (ออกเสียงว่า เจียว) แปลว่า ไหม้, แห้ง, กรอบ ถ้าไม่เชื่อลองถามตัวเองดูสิว่าทำไมเราเรียกว่า กระเทียมเจียว ซึ่งก็แปลว่าการนำกระเทียมไปทอดนั่นเอง

และในปัจจุบัน วัฒนธรรมของทั้ง 2 ชาติได้หลอมรวมกัน จนเราแทบแยกไม่ออกแล้วว่าสิ่งไหนเป็นไทยแท้ สิ่งไหนเป็นไทย-ซัวเถา..
———————-
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
http://www.blockdit.com
———————-

References
-https://www.silpa-mag.com/history/article_37903
-https://www.the101.world/shantou-predecessor-home/
-https://www.ceicdata.com/en/china/gross-domestic-product-per-capita-prefecture-level-city/cn-gdp-per-capita-guangdong-shantou
-https://www.ceicdata.com/en/indicator/thailand/gdp-per-capita
-http://www.hktdc.com/web/featured_suppliers/guangdong/index.html
-https://english.shantou.gov.cn/english/population/list_tt.shtml
-https://en.wikipedia.org/wiki/Shantou

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 124
  • Pheeraphat S. ; MJ57
    รวยมาก รวยน้อยไม่สำคัญ สำคัญที่มีคุณธรรมมากน้อยแค่ไหน คืนประโยชน์สู่สังคมมากน้อยขนาดไหน ที่สำคัญ ตายไปก็เอาอะไรไปด้วยไม่ได้ นอกจากกรรมดี กรรมเลว ที่ได้กระทำ
    22 ต.ค. 2562 เวลา 15.05 น.
  • คนจีน ขยัน ประหยัด อดทน แล้วจะไม่รวยได้ยังงัย
    22 ต.ค. 2562 เวลา 15.12 น.
  • มาไทยกันให้หมด ระบบข้าราชการยังห่วย การตรวจสอบยังหละหลวม คนต่างด้าวบานตะไท แย่งงาน กันมั่ว
    22 ต.ค. 2562 เวลา 14.38 น.
  • Pr♒udnapank🔐6879♾️
    เป็นเรื่องราวดีๆ ที่ควรเก็บมาคิด ว่าคนซัวเถามีพื้นฐานมาจากเหตุผล หรือปลูกฝังให้คิดและทำอย่างไร ตัวเองจะรวยจน ไม่ต้องมานั่งมัวโทษแช่งด่าใคร ไม่มามัวนั่งงมงาย หวังรวยทางลัด เพราะต่อให้เป็นลิขิตฟ้า ก็ไม่สู้มานะตน มันก็ไม่แปลก ที่ทำไมเขาจะมั่งมีกว่า
    22 ต.ค. 2562 เวลา 17.53 น.
  • Ks
    ขอบคุณที่ให้ความรู้เรื่องภาษา
    22 ต.ค. 2562 เวลา 14.45 น.
ดูทั้งหมด