เมื่อวันที่ 16 เม.ย. ศ.ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ปลัด อว.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และคณะผู้บริหาร อว. ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินการด้านการบริหารจัดการด้านการแพทย์และการสาธารณสุข รับฟังปัญหาการดำเนินงาน และความต้องการการสนับสนุน ตลอดจนให้กำลังใจแก่บุคลากรทางการแพทย์ ณ สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และโรงพยาบาลสนามของ อว.ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจัดตั้งขึ้น ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี จ.สมุทรปราการ
ศ.ดร.นายแพทย์สิริฤกษ์ กล่าอีกว่า ขณะนี้ กระทรวงการอุดมศึกษาฯ ได้เปิดสถานที่เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลสนามได้ทั่วประเทศ 30 กว่าแห่งรวม 13,000 เตียง เพียงพอที่จะให้ความมั่นใจว่า ประเทศไทยจะมีความสามารถในการดูแลผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้ สำหรับที่มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ ที่เดินทางตรวจเยี่ยมนั้น ได้จัดเตรียมไว้เป็นโรงพยาบาลสนามหลักของจังหวัดสมุทรปราการ โดยทางมหาวิทยาลัยฯ ได้จัดเตรียมในช่วงวันหยุดสงกรานต์เป็นที่เรียบร้อย มีขีดความสามารถในการรับผู้ติดเชื้อที่อยู่ในโรงพยาบาล ประกอบด้วยอาคารหอพัก 2 หลัง เพียงพอจะรับผู้ติดเชื้อได้ 1,000 คน
“การจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อช่วยไม่ให้เกิดสถานการณ์ล้นโรงพยาบาล โดย อว.ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและพื้นที่ เพื่อให้การดูแลในภาพรวมเป็นเอกภาพมีการบริหารไปในทิศทางเดียวกัน พี่น้องประชาชนที่ติดเชื้อและมีความประสงค์จะใช้บริการโรงพยาบาลสนามจะต้องประสานงานกับหน่วยงานสาธารณสุขและหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งจะดูแลในเบื้องต้นก่อน หลังจากผ่านการคัดกรองที่โรงพยาบาลในแต่ละจุดแล้วแพทย์ประเมินว่าสามารถเข้ามาอยู่ในโรงพยาบาลสนามได้ แพทย์จะเป็นผู้ส่งต่อและเคลื่อนย้ายเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลสนามเอง ขณะนี้จากจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อรวมทั้งพื้นที่และจำนวนเตียงที่ อว. ดูแล สามารถครอบคลุมผู้ติดเชื้อได้หมดทุกคน” ปลัด อว.กล่าว
ด้าน ผศ.ดร.ยุวลักษณ์ เวชวิทยาขลัง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี กล่าวว่า มรภ.ธนบุรี ยินดีและเป็นเกียรติที่ปลัด อว.มาตรวจเยี่ยมและมาให้กำลังใจแก่ผู้ที่ทำงานในการป้องกันโควิดในรอบนี้ ซึ่งค่อนข้างรุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยยินดีดำเนินการตามนโยบายของ อว.ในการช่วยสนับสนุนงานแก่จังหวัดในการรับผู้ป่วยโควิด ถ้าหากจำเป็นยังมีพื้นที่ที่ขยับขยายได้ แต่ไม่อยากให้ต้องขยายเพราะจะเป็นอันตรายหากมีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนมาก
ขณะที่ ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้มอบนวัตกรรมที่นอนยางพารา จำนวน 1,000 ชุด เพื่อมอบให้กับกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เพื่อนำไปใช้ในโรงพยาบาลสนามและพื้นที่เพื่อรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 โดยที่นอนยางพาราดังกล่าวสามารถระบายอากาศได้ดี มีความยืดหยุ่นสูง ไม่สะสมฝุ่น แบคทีเรียและเชื้อโรค สะดวกต่อการทำความสะอาด เป็นงานต่อยอดจากงานวิจัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตหมอนยางพารา และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับชุมชน.