ความคืบหน้ากรณีอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2563 ให้ชาวบ้านที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวดอยม่อนแจ่ม ทั้งในตำบลแม่แรม และตำบลโป่งแยง ที่มีบ้านพักหรือรีสอร์ต ให้บริการนักท่องเที่ยวเข้าพักที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรม ปิดให้บริการภายใน 30 วัน
ขณะที่ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม เผยว่า นับจากวันที่ออกประกาศหากพบมีการฝ่าฝืนเปิดให้บริการอยู่ก็จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยมีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินวันละ 10,000 บาท ซึ่งจะมีผลย้อนหลังนับตั้งแต่วันที่เปิดให้บริการด้วย
ล่าสุด วันนี้ (18 ม.ค.63) กลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1/2563 ลงนามโดยนายวิชิต เมธาอนันกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจฯ ตอบโต้ประกาศของทางอำเภอแม่ริมที่ออกมา โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ ระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศของอำเภอแม่ริม เรื่อง ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่พัก โดยมีค่าตอบแทน ซึ่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น ไม่สามารถออกใบอนุญาตหรือรับแจ้งได้ ตามกฎหมาย ระงับหรือยุติการประกอบธุรกิจ ลงวันที่ 15 ม.ค. 2563 และที่เป็นข่าวนั้น ชาวบ้านม่อนแจ่มได้รับความเดือดร้อนมาก จากคำสั่งดังกล่าว ขาดความมั่นคงในการดำรงชีพ ขาดรายได้ที่ใช้จ่ายในครอบครัว การที่จะไปประกอบเกษตรกรมก็ขาดแคลนน้ำ ราคาพืชผลทางการเกษตรก็ตกต่ำ
ด้วยคำสั่งดังกล่าวที่ทางอำเภอแม่ริมประกาศอันเป็นต้นเหตุแห่งความเดือดร้อน เนื่องจากมีหลายข้อความที่ขัดและแย้งต่อข้อเท็จจริง และไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของฎหมาย ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฎดังนี้
1.พื้นที่ม่อนแจ่มมีการครอบคองทำประโยชน์และตั้งชุมชนมาก่อนการประกาศป่าสงวนแห่งชาติแม่ริม
2.ราษฎรที่อยู่อาศัยในพื้นที่ม่อนแจ่ม ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขาดั่งเดิม
3.ราษฎรม่อนแจ่มทุกรายได้รับอนุญาตให้ครอบครองทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ริม โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้โดยเป็นหนังสือตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541
4 ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมหรือรีสอร์ตได้ยื่นหนังสือตามคำสั่ง คสช. ที่ 6//2562 มีผลได้รับการคุ้มครองให้ได้รับการยกเว้นโทษทางอาญา ตาม พรบ.โรงแรม, พรบ. ผังเมือง และพรบ.ควบคุมอาคาร ส่วนพื้นที่นั้นอยู่ในระหว่างคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติพิจารณาและคณะรัฐมนตรีเห็นชอบต่อไป
ด้วยเหตุนี้ชาวม่อนแจ่มจึงขอวิงวอนให้ภาครัฐหากจะดำเนินการใดๆ อันเป็นการกระทบต่อประชาชน ควรคำนึงถึงความเป็นธรรม ความเลือมล้ำและการปฏิบัติชอบด้วยกฎหมายเป็นหลัก และสิ่งสำคัญเมื่อผลของการกระทำจากภาครัฐที่ส่งผลทำให้ประชาชนเดือดร้อนจนไม่มีทางออก ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบในความเดือนร้อนของประชาชน ฉะนั้น ชาวม่อนแจ่มจึงขอแจ้งต่อผู้ที่ประสงค์จะเดินทางมาพักผ่อนที่ม่อนแจ่ม ผู้ประกอบการทุกรายยังเปิดอยู่ทุกวัน
นายวิชิต ย้ำด้วยว่า เนื้อหาในประกาศของอำเภอ สั่งให้ผู้บุกรุกป่าหยุดให้บริการ แต่ชาวบ้านไม่ได้เป็นผู้บุกรุกป่า แต่ได้รับอนุญาตให้อาศัยและทำกินในพื้นที่ได้ตามมติ ครม.ปี 2541 ส่วนการเปิดบ้านพักและรีสอร์ต ก็ได้รับการยกเว้นตามคำสั่งของหัวหน้า คสช.ด้วย จึงไม่จำเป็นต้องปิดบริการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขีดเส้น 30 วัน! สั่งปิดรีสอร์ตดอยม่อนแจ่มที่ไม่มีใบอนุญาต
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand
Chakkrit Chaiyarintr เสี้ยม กันด้วย นักการเมืองเลวๆๆๆบางคนบางกลุ่ม
ก็เท่านั้น
18 ม.ค. 2563 เวลา 04.05 น.
Full Sun. ขอเดานะครับ ว่าที่นี่ เลือกตั้งครั้งล่าสุด ได้เลือก สส. พรรคฝ่ายค้าน แน่เลย. ใช่มั้ยครับเนี่ย
18 ม.ค. 2563 เวลา 03.50 น.
BlackPearl ถ้าผิดกฎหมายจริง ประชาชนนักท่องเที่ยวก็ช่วยกันไม่ใช้บริการ ที่พักหรือท่องเที่ยวที่ผิดกฎหมายซิครับ ไม่สนับสนุน ไม่ใช้บริการ และผู้เกี่ยวข้องก็ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยวให้ทราบ ถ้าไม่สนับสนุน ไม่ใช้บริการซะอย่าง เดี๋ยวก็ลดหายไปเอง
18 ม.ค. 2563 เวลา 03.49 น.
ลุง ป่าเขามือเราลิขิต
มนุษย์และคิด ทำลายตัวเอง
ป่าไม้ยังไม่หมดก็พบพาแต่ความสุข
เพียงไมถึงร้อยปีบ้านเมืองก็ทุกข์ป่น
ตึกสูงๆไม่ทนเท่าภูเขา
ใยมนุษย์หลงทาง ทำลายรกกำเนิด
ธรรมชาติเจ้าเอยน้ำตาตก
18 ม.ค. 2563 เวลา 03.09 น.
PhanaSonics ปิดถนนห้ามขึ้น
18 ม.ค. 2563 เวลา 03.01 น.
ดูทั้งหมด