สู้เพื่อสิ่งถูกต้อง! ชื่นชม “น้องแบม” นิสิตสาวผู้เดินหน้าเปิดโปงกลโกงเงินคนจน จากจังหวัดเดียว นำไปสู่การขยายผล จนพบความผิดปกติทั้งประเทศ รับ ภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยคนจนและประเทศชาติ ด้าน บิ๊กตู่ สั่งเด้งผู้ใหญ่กระทรวง พม. เพื่อเปิดทางให้สอบทุจริตแล้ว!
ไม่หวั่นแม้วันถูกคุกคาม!
“ทุกอย่างที่ทำ ก็เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองและเพื่อประชาชนตามสิทธิที่ควรพึงจะได้ เพราะถ้าเราไม่ปกป้องสิทธิของตัวเอง ไม่ทำเพื่อสังคม เราจะเป็นนักพัฒนาที่ดีได้อย่างไร เรียนมาด้านนี้ และเข้าฝึกงานที่ศูนย์ฯ ก็เพราะต้องการเป็นนักพัฒนาที่ดี เรียนจบออกไปทำงานเพื่อสังคมและประชาชนผู้ยากไร้อีกหลายล้านคน” - ปณิดา ยศปัญญา นิสิตสาวผู้เปิดโปง กรณีการร้องเรียนทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น กล่าว
กลายเป็นประเด็นดรามา สะเทือนหน่วยงานรัฐทั้งประเทศ โดยเฉพาะกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เมื่อนิสิตสาว ม.ดัง เจอเข้ากับความไม่ชอบมาพากล ส่อเค้าไปในทางทุจริต “เงินคนจน” ระหว่างฝึกงาน เธอจึงลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของตัวเอง แม้จะต้องแลกด้วยการงัดกับเจ้าหน้าที่รัฐ ถูกต่อว่า ตลอดจนถูกคุกคาม!
น้องแบม - ปณิดา ยศปัญญา นิสิตสาวผู้เปิดโปง กรณีการร้องเรียนทุจริตศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวคราวมากมายเกิดขึ้นบนหน้าหนังสือพิมพ์และสังคมออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกรณีของ “น้องแบม - ปณิดา ยศปัญญา” อายุ 23 ปี นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม(มมส.) ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการโกงเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น
ในขณะที่เธอกำลังฝึกงานในตำแหน่งพัฒนาชุมชน ได้ถูกสั่งให้ปลอมเอกสารราชการ กรอกข้อมูลสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย เอกสารผู้ติดเชื้อเอดส์ ลงลายมือชื่อในใบเสร็จรับเงินรวมกว่า 2,000 ชุด เป็นเงินกว่า 6.9 ล้านบาท เธอจึงเดินทางเข้าร้องเรียนต่อสำนักงานเลขาธิการ คสช. จนนำไปสู่การขยายผลตรวจสอบทั้งใจ จ.ขอนแก่น และจังหวัดอื่นทั่วประเทศ รวม 37 ศูนย์
น้องแบม ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ แค่ต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ที่ไม่มีเจตนาจะกรอกเอกสารที่เป็นข้อมูลเท็จและปลอมลายมือชื่อชาวบ้าน ก็ภูมิใจที่เป็นประชาชนคนธรรมดา ที่สามารถทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ และได้ทำเพื่อคนจนที่เขาควรจะได้รับเงินสงเคราะห์จริงๆ รายละ 2,000 บาท
สิ่งที่นิสิตสาวผู้นี้ทำ ได้รับเสียงชื่นชมเป็นวงกว้าง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีคนบางกลุ่ม เฝ้าจับตามองเธออยู่อย่างใกล้ชิด จนรู้สึกได้ว่าเข้าข่าย “คุกคาม” รวมถึงมีอาจารย์บางคนในมหาวิทยาลัยของเธอ กล่าวถึงสิ่งที่ทำลงไปว่า “ทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสีย”
“ไม่ทราบว่าเป็นใคร มาจากไหน คุกคามทั้งกับญาติพี่น้องและขับรถติดตาม ขับรถจอดหน้าบ้าน หนูอยากให้การสืบสวนสอบสวนเรื่องที่ร้องเรียนไปนั้นจบโดยเร็ว เพราะคิดว่าถ้าเรื่องจบ การคุกคามก็คงไม่เกิดขึ้นอีก แต่เพื่อนๆ ไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเพื่อนส่วนใหญ่เข้าฝึกงานกับหน่วยงานเอกชน เมื่อคนอื่นทราบก็ให้กำลังใจไม่ขาดสาย
ส่วนอาจารย์ใน มมส.เรียกเข้าสอบปากคำในเรื่องที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดถูกเรียกเข้าพบเพื่อสอบถาม ก็ตอบคำถามไปตามความเป็นจริง ซึ่งก็ถูกอาจารย์บางคนบอกว่า เราเป็นคนสร้างความเสื่อมเสียให้มหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่เป็นอะไร เพราะเป็นเพียงความเห็นของอาจารย์บางคนเท่านั้น” นิสิตสาวผู้เปิดโปงกล่าว
น้องแบมและอดีตลูกจ้างของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น เข้ารับมอบโล่ประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติ จาก ป.ป.ท.
ทางด้านของความคิดเห็นบนโลกโซเชียลฯ หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกเผยแพร่ออกไปแล้วนั้น ก็นำมาซึ่งเสียงชื่นชมในความกล้าที่จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อความถูกต้องของเธอเป็นจำนวนมาก หลายความคิดเห็นยังกล่าวว่า เธอคือผู้นำพาชื่อเสียงมาสู่มหาวิทยาลัย มากกว่าเป็นผู้สร้างความเสื่อมเสีย ดังที่อาจารย์บางคนในคณะของเธอกล่าวหา
ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่นิสิตสาวจะออกมาเปิดใจนั้น สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณเชิดชูเกียรติให้แก่ น้องแบม และ ณัฏกานต์ หมื่นพล อดีตลูกจ้างของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น หลังยื่นหนังสือร้องเรียนให้มีการตรวจสอบกรณีเงินสงเคราะห์ดังกล่าว จนนำไปสู่การขยายผลยังศูนย์คุ้มครองฯ ทั่วประเทศ และในวันที่ 2 มี.ค. ที่จะถึงนี้ เข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น ในฐานะประธานเครือข่ายอนาคตไทย จ.ขอนแก่น จะมีการมอบเกียรติบัตรยกย่องความดี รวมทั้งของรางวัลต่างๆ เพื่อให้กำลังใจแก่น้องแบมและครอบครัวอีกด้วย
เด้ง ปลัด - รองปลัด พม.
สำหรับความคืบหน้าในเหตุการณ์นี้ ที่ถึงแม้จะอยู่ในช่วงกำลังตรวจสอบมูลความจริง แต่ก็มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งล่าสุด มีคำสั่งจากบิ๊กตู่ สั่งเด้งปลัดฯ และรองปลัด พม.ให้มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นการเปิดทางก่อนนำไปสู่การตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 52/2561 ให้ข้าราชการมาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี มีสาระสำคัญ คือ สั่งให้ พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ และ ณรงค์ คงคำ ปลัดและรองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ตามลำดับ เข้าปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยไม่ขาดจากอัตราเงินเดือนทางสังกัดเดิม ให้ทั้งสองคนปฏิบัติหน้าที่เป็นที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของนายกรัฐมนตรี ซึ่งให้อยู่ในความควบคุม และกำกับดูแลของรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
คำสั่งดังกล่าวได้อ้างถึงกรณีที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้รับแจ้งจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบความผิดปกติในการเบิกจ่ายงบประมาณเงินอุดหนุนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ซึ่งต่อมาได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงมาแล้วคณะหนึ่ง
(ซ้าย) พุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ - ภาพจากแฟ้ม
(ขวา) ณรงค์ คงคำ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ - ภาพจากแฟ้ม
ผลการสืบสวนตรวจพบความผิดปกติจริง แต่ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ และอยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยที่ความผิดปกติดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติราชการของข้าราชการระดับสูงของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ และอาจเกี่ยวพันข้าราชการในวงกว้าง ซึ่งจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป เพื่อให้การสืบสวนข้อเท็จจริงดังกล่าวมีความถูกต้องและเป็นธรรม จึงมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว
ก่อนหน้านี้นั้น กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ มีคำสั่งย้าย พวงพยอม จิตรคง ผู้อำนวยการศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งอีก 3 คน ไปปฏิบัติหน้าที่ยังส่วนกลางและรอบนอกพื้นที่ เพื่อสะดวกต่อการสอบสวนวินัยร้ายแรง ซึ่งขณะนี้ได้มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่มารักษาการแทนแล้ว เพื่อให้การปฏิบัติงานของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่นดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
ย้อนไทม์ไลน์ “โกงเงินคนจน”
เพื่อความชัดเจนของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทีมข่าวผู้จัดการ Live จะขอย้อนลำดับเหตุการณ์ ที่ทำให้น้องแบมและเพื่อนร่วมฝึกงาน ลุกขึ้นมาต่อสู้ในฐานะว่าที่ “นักพัฒนาสังคม” ที่ต่อสู้เพื่อสิทธิของผู้ยากไร้
เรื่องราวดังกล่าว เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 7 ส.ค.60 เธอและเพื่อนๆ ได้เข้าฝึกงาน ณ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ซึ่งแทนที่จะได้ทำงานพบปะประชาชน แต่กลับถูกให้ทำเอกสารที่บ้านของ ผอ.ศูนย์คุ้มครองฯ เมื่อทำไปเรื่อยๆ ก็พบความผิดปกติในการกรอกเอกสาร พบการปลอมแปลงข้อมูลสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ผู้ติดเชื้อเอดส์ และกลุ่มส่งเสริมอาชีพ ปลอมลายมือในใบเสร็จ ตามคำสั่งของ ผอ. และเจ้าหน้าที่ที่ดูแลการฝึกงานและเงินกองทุน
จากนั้น เธอจึงยื่นเรื่องร้องเรียนโดยตรงต่อผู้ตรวจราชการของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่แจ้งว่า ไม่สามารถรับเรื่องได้ แต่แนะนำให้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ต่อมาน้องแบมจึงปรึกษากับ อ.ที่ปรึกษาถึงเรื่องการปลอมแปลงเอกสารของศูนย์แห่งนี้ เธอถูกกล่าวหาว่าเป็นเด็กโกหก และยังถูกบังคับให้ก้มกราบขอโทษ คู่กรณีคือเจ้าหน้าที่ที่ทำเอกสารและผู้อำนวยการ
ต่อมา น้องแบมและเพื่อน ตัดสินใจเข้าร้องเรียนต่อเลขาธิการ คสช. ที่ได้รับการประสานไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐหรือ ป.ป.ท. และกระทรวงการพัฒนาฯ ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ในเวลานั้น น้องแบมต้องเข้าให้ปากคำกับ ป.ป.ท. ถึงเรื่องการกรอกเอกสาร จนกระทั่งมีคำสั่งย้าย ผอ.ศูนย์คุ้มครองฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสะดวกต่อการสืบสวน
จนกระทั่งเรื่องราวนี้กลายเป็นข่าวดังที่ผู้คนในสังคมให้ความสนใจ ซึ่งนอกจากจะตรวจสอบศูนย์คุ้มครองคนไร่ที่พึ่ง จ.ขอนแก่นแล้ว ยังมีการขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งมีข้อมูลอันน่าตกใจออกมาว่า พบการทุจริตใน จ.เชียงใหม่ จ.บึงกาฬ จ.หนองคาย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ตราด จนมีคำสั่งฟ้าผ่าจากบิ๊กตู่ เด้งผู้ใหญ่ในกระทรวง พม. เพื่อเปิดทางในการตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์ผู้ยากไร้ อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว
ถือได้ว่า น้องแบมและเพื่อน เป็นเมล็ดพันธุ์ที่เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ กล้าต่อสู้เพื่อตนเองและผู้ที่เดือดร้อน เชื่อได้เลยว่า เธอจะเป็นนักพัฒนาสังคมที่ดีและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศได้ต่อไปในอนาคต …
ผมว่ารับน้องเข้าเป็นราชการเลยครับ ทำดี กล้าที่จะเป็นตัวอย่างที่ดี
27 ก.พ. 2561 เวลา 01.34 น.
Ψឦ ປญฺស្លণวุໂទ ឦΨ อาจารย์คนไหนที่มันว่าน้องไล่มันออกสะ เขาทำความดีขนาดนี้ ยังไปว่าเขาทำให้เสียชื่อ อีโง่ มึงโง่ขนาดนี้จะไปสอนใครเขาได้
26 ก.พ. 2561 เวลา 08.35 น.
Ann ต้องการให้มีคนแบบนี้ในประเทศเยอะๆ สู้ค่ะ ทำดีอย่าไปกลัวค่ะ
26 ก.พ. 2561 เวลา 08.18 น.
Ann อาจารย์คนนั้นแระค่ะที่ทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสีย ควรออกจากราชการไปเลย เพราะคนแบบนี้ถ้าเกิดเรื่องราวแบบนี้คงให้ความร่วมมือในการทุจริตอย่างแน่นอน
26 ก.พ. 2561 เวลา 08.13 น.
สายชล มีคนรู้เยอะ แต่เฉยเพราะไม่เกี่ยวกับตัว น้องสุดยอดที่สุด คนแบบนี้ควรชื่นชมและเชิดชูให้มากๆ ยิ่งใหญ่กว่ารางวัลดีเด่นใดๆ คือความดีที่ติดตัวน้อง ชืนชมที่สุดค่ะ
26 ก.พ. 2561 เวลา 07.41 น.
ดูทั้งหมด