"เจ๊ดา" ไร้ญาติยื่นประกัน คุมตัวส่งทัณฑสถานหญิงกลาง

จากกรณีนางวาสนา เวสารัชเวศย์ อายุ 48 ปี ถูก น.ส.นิภาพร สมุทรคีรี อายุ 39 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สาดพริกป่นผสมน้ำใส่หน้าจนได้รับบาดเจ็บ ขณะจอดติดสัญญาณไฟจราจรอยู่บริเวณแยกไฟแดงปากทางเข้าศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ถนนกำแพงเพชร เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา

โดยตำรวจสามารถจับกุม น.ส.นิภาพร ได้และให้การซักทอดว่า "เจ๊ดา" เป็นคนจ้างวาน ต่อมา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นางแสงอรุณ ประทุมพวง หรือ "เจ๊ดา" ได้ย่องพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เมื่อคืนวันที่16 พ.ย.เหตุเกิดท้องที่สน.บางซื่อ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 พ.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางแสงอรุณ ประทุมพวง อายุ 48 ปี ได้เดินทางมายังศาล โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 3 แสนบาท เพื่อยื่นขอประกันตัวชั่วคราวต่อศาล โดย มีร.ต.อ.สุทัศน์ แก้วสมศรี รองสว.(สอบสวน) สน.บางซื่อ เจ้าของคดีก็ได้เดินทางมายื่นขออำนาจศาลอาญาฝากขังผัดแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 พฤศจิกายน 2561 ข้อหาร่วมกันพยายามชิงทรัพย์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ "เจ๊ดา" มาถึงศาลอาญา ตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนที่จะหลบผู้สื่อข่าวไปอยู่ภายในห้องน้ำชั้น 2 จนถึงเวลา 11.00 น. จนพนักงานสอบสวนเดินทางมาถึงจึงยอมลงมาชั้นล่างของศาล เพื่อเข้าสู่กระบวนการของศาล

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา ไม่ปรากฏว่ามีญาติผู้ต้องหามายื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัว "เจ๊ดา" แต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงทำการควบคุมตัวไปคุมขังไว้ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สน.บางซื่อ กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ทางนางแสงอรุณ ประทุมพวง อายุ 48 ปี ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ ก็ได้มีการนัดหมายส่งศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวนั้นขอไม่ให้การในชั้นสอบสวน ก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ จึงยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีความรู้จักกับนางวาสนา เวสารัชเวศย์ อายุ 48 ปี ผู้เสียหาย และเจ๊ซ้ง ที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นคนบงการต้นเรื่องหรือไม่ แต่หากการสืบสวนของตำรวจพบว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องในคดีนี้อีกก็จะเรียกมาสอบเพิ่มแจ้งข้อหาขยายผลต่อไป ตอนนี้จึงไม่สามารถบอกได้ว่า "เจ๊ซ้ง" จะมีตัวตนหรือไม่ ต้องให้ทางพนักงานสอบสวนดูสำนวนว่าคดีนี้จะมีคนอื่นเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ รวมถึงทางอัยการก็จะพิจารณาสำนวนด้วย หากมีข้อมูลถึงบุคคลอื่นก็จะดำเนินการต่อ แต่หากไม่มีประเด็นพาดพิงเพิ่มเติมก็จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 2 รายเท่านั้น สำหรับคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน น่าจะใช้เวลา 1 เดือนก็สามารถสรุปสำนวนส่งทางอัยการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับน.ส.แสงอรุณ ประทุมพวง หรือเจ๊ดา ที่ น.ส.นิภาพร ให้การว่า เป็นผู้ว่าจ้าง ทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า เคยขึ้นทะเบียนเป็นนายประกันที่ศาลอาญา ต่อมาถูกดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาล แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบในบริเวณศาลอาญา เมื่อปี 2560 เป็นคดีหมายเลขแดง ล.5/2560 กรณีเมื่อเดือน พ.ค.2560 เจ๊ดา ได้ให้บุตรของผู้ต้องหาคดีหนึ่งมาพบที่โรงอาหารศาลอาญา และให้จ่ายค่าเบี้ยประกันเพื่อซื้อกรมธรรม์กับบริษัทประกันภัย จำนวน 50,000 บาท แต่เมื่อตรวจสอบกับผู้รับมอบอำนาจของบริษัทประกันภัย จนทราบว่าไม่มีเงินวางค่าเบี้ยประกัน บริษัทจึงไม่สามารถรับทำประกันในคดีนั้นได้

ต่อมาบุตรของผู้ต้องหาคดีดังกล่าวได้ติดต่อขอเงินคืน และได้รับเงินคืนมา 48,000 บาท โดยเจ๊ดาอ้างว่า ได้หักเงินบางส่วนเป็นค่าดำเนินการ ซึ่งศาลอาญาได้ดำเนินการไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาลดังกล่าว และศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2560 โดยสั่งปรับเจ๊ดา 500 บาท และห้ามเข้าบริเวณศาลอาญาเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.2560 -17 ก.ค.2562 ด้วย