4 เคล็ดวิชาสำหรับผู้ที่ต้องการความก้าวหน้าในชีวิต
1. รักในงาน (ทัศนคติ)
ถ้าเป็นไปได้ จงทำในสิ่งที่คุณรัก หากแม้ไม่รักโดยตรง ก็จงเชื่อมโยงงานของคุณเข้ากับทัศนะใหม่ๆ ที่จะทำให้คุณมองเห็นคุณค่าในงานของคุณขึ้นมา ขอให้คิดให้ได้ว่า งานของคุณมีคุณค่าต่อโลกใบนี้อย่างไร จงเชื่อมโยงงานของคุณกับผู้คน สังคม และการยกระดับจิตใจของคุณผ่านงานที่คุณทำ เพื่อที่ว่าคุณจะได้มีความภาคภูมิใจในงานของตน และเห็นงานของตนเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนโลก ผู้คน และสังคมอย่างแท้จริง
2. ทุ่มเทในงาน (เวลา)
ไม่มีความสำเร็จใดได้มาโดยปราศจากความทุ่มเท สิ่งนี้คือสิ่งที่คุณต้องเข้าใจและตระหนัก จงเลือกที่จะทุ่มเท จงเลือกที่จะโถมทุ่มความเพียรเข้าไปในสิ่งที่ทำ ยิ่งคุณอุทิศเวลาให้การงานของคุณมากเท่าไหร่ ความสำเร็จยิ่งใกล้เข้ามามากเท่านั้น ที่สำคัญยิ่งกว่าความสำเร็จก็คือ จิตใจของคุณ เพราะจิตใจของผู้ที่มีความเพียรนั้นไม่ใช่จิตใจธรรมดาสามัญ หากแต่เป็นจิตศักดิ์สิทธิ์ที่จะเสกสรรค์อะไรก็ได้ เป็นจิตที่สามารถนำไปสู่แสงสว่างได้ทั้งทางโลกและทางธรรม
3. มีความเบิกบานในการทำงาน (จิตใจที่ทรงพลัง)
ความสุข ความเบิกบาน ความปิตินั้นเป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงให้หัวใจของคุณชุ่มฉ่ำ สิ่งนี้คือสิ่งที่คุณต้องสังเกต และเฝ้าดู เมื่อคุณทำสิ่งใด จงใส่ความสุขลงไปด้วย สมาธิ ความตั้งมั่น และกำลังใจที่แข็งแกร่ง เหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีความสุขเป็นจุดเริ่มต้น ดังนั้น นอกจากที่คุณจะโถมทุ่มความเพียรใส่เข้าไปในงานแล้ว คุณจะต้องมีอุบาย กล่อมเกลาให้จิตรู้สึกเอิบอิ่มไปด้วยในขณะทำงาน
4. มีปัญญาที่เปิดกว้าง (การหาความรู้)
การทำงานนั้นเหมือนการรบ เป็นสมรภูมิที่คุณต้องรับมือกับอุปสรรคต่างๆ อย่างไร้รูปแบบ กลยุทธเป็นสิ่งสำคัญ ความรู้ใหม่ๆ เป็นสิ่งสำคัญ การประเมินผล วัดค่า และพัฒนาตนเองไปสู่องค์ความรู้ใหม่ ๆ เป็นสิ่งสำคัญ เหล่านี้มีความจำเป็นที่คุณจะต้องทำอยู่ตลอดเวลาจนเกิดเป็นอุปนิสัย เพราะความรู้นั้นมีอยู่ทุกที่ แต่คุณจะต้องมีสายตาอันชาญฉลาดพอที่จะมองเห็นมัน
จงพัฒนาความรู้ในงาน พัฒนาความรู้อันเกี่ยวข้องกับโลก พัฒนาความรู้อันเกี่ยวข้องกับจิตใจของตนเอง เพื่อที่คุณจะสามารถยกระดับคุณภาพงานของคุณได้ และงานของคุณก็จะยกระดับโลกใบนี้ให้สูงขึ้น จงท่องจำให้ขึ้นใจว่า ปัญญาและความรู้เท่านั้นที่จะทำให้คุณก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง
สมการของเคล็ดวิชานี้มีอยู่ว่า…
ทัศนคติที่ดีเลิศ+โมงยามแห่งความเพียร+ความสุข+การพัฒนาปัญญา = สำเร็จทุกประการ
ถ้าคนเรามีความพยายามซะอย่าง ยังไงก็ย่อมประสบกับในความสำเร็จอย่างแน่นอน.
29 ส.ค. 2562 เวลา 13.51 น.
T.cho การทำงานจริงถ้าได้ทั้ง4 ข้อต้องถือว่าโชคดี แต่โดยความเป็นจริง หลายข้อไม่ได้ขึ้นอยู่กับผู้ปฎิบัติทั้งหมด
29 ส.ค. 2562 เวลา 13.30 น.
thee อิทธิบาท4ของพระพุทธเจ้านั่นแหละแค่เปลี่ยนคำใหม่
30 ส.ค. 2562 เวลา 03.28 น.
pongsai klommit เก่งมาจากไหนตัวเองพบความสำเร็จรึยัง
30 ส.ค. 2562 เวลา 04.21 น.
Vachara.m เป็นคำแนะนำที่บางคนคิดอะไม่ออกความรู้น้อยด้อยปัญญานำไปปฏิบัติได้
30 ส.ค. 2562 เวลา 09.06 น.
ดูทั้งหมด