การเมือง

สภานโยบายฯ เคาะวงเงินงบประมาณการอุดมศึกษา 117,880 ล้านบาท เตรียมชง ครม.ตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาการศึกษ

สยามรัฐ
อัพเดต 04 ก.พ. 2564 เวลา 11.13 น. • เผยแพร่ 04 ก.พ. 2564 เวลา 11.13 น. • สยามรัฐออนไลน์

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 ว่าได้มอบนโยบายสำคัญ 3 เรื่องให้กับที่ประชุมเรื่องแรก โมเดลเศรษฐกิจเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือบีซีจีโมเดลซึ่งรัฐบาลอนุมัติให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งตนได้เน้นย้ำว่าให้เร่งรัดการนำบีซีจีไปปฏิบัติให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด เพราะบีซีจีเป็นรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับหลักคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเป็นการทำงานร่วมกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในหลายภาคส่วน

นายดอน กล่าวว่า เรื่องที่สอง บทบาทด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย นวัตกรรม ในการบริหารสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะการวางรากฐานองค์ความรู้และทรัพยากรบุคคลด้านยาและวัคซีนที่ต่อยอดไปได้ไม่สิ้นสุด และการเตรียมความพร้อมรองรับความท้าทายด้านความมั่นคงทางสุขภาพในอนาคต เรื่องที่สาม การพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการอุดมศึกษา ที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศและเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชน โดยขณะนี้การลงทุนด้านวิจัยและพัฒนาของไทย คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 1 ของจีดีพีและงบประมาณในด้านการอุดมศึกษาก็ได้รับความสำคัญเช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือ การลงทุนในด้านเหล่านี้จะต้องช่วยตอบโจทย์การพัฒนาประเทศและเป็นประโยชน์กับประชาชน เพื่อช่วยฟื้นฟูและทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

ขณะที่นาย เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบถึงมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.2563 ที่มีมติอนุมัติแต่งตั้งนายสมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสภานโยบายฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้ง นายประดิษฐ์ วรรณรัตน์ เป็นประธานกรรมการพิจารณางบประมาณด้านการอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และแต่งตั้ง นายสุรพล นิติไกรพจน์ เป็นประธานกรรมการพิจารณางบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

“ที่ประชุม มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณประจำปีด้านการอุดมศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จำนวนวงเงินทั้งสิ้น 117,880 ล้านบาท โดยจำแนกตามประเภทงบประมาณที่สอดคล้องกับมาตรา 45 แห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 ประกอบด้วย งบบุคลากร จำนวน 70,427 ล้านบาท (ร้อยละ 60) งบดำเนินงานและงบรายจ่ายอื่น จำนวน 38,653 ล้านบาท (ร้อยละ 33) และได้จัดให้มีงบประมาณเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาความเป็นเลิศของสถาบันอุดมศึกษา และการผลิตกำลังคนระดับสูงเฉพาะทางตามความต้องการของประเทศ จำนวน 8,800 ล้านบาท (ร้อยละ 7) รวมถึงที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ ซึ่งจะมีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป” นายเอนก กล่าว

นายเอนก กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้รายงานความก้าวหน้าในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ซึ่งประกอบด้วย 1. การพัฒนาเศรษฐกิจบีซีจีภายใต้ ยุทธศาสตร์หลักคือ สร้างความยั่งยืนของฐานทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพ ,พัฒนาชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งด้วยทุนทรัพยากร อัตลักษณ์ ความคิดสร้างสรรค์,และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ,ยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมภายใต้เศรษฐกิจบีซีจีให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน และ เสริมสร้างความสามารถในการตอบสนองต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลก 2. บทบาทของการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อววน.) ในการบริหารสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้รับมอบหมายในฐานะศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมทางการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนา ศปก.ศบค. โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านวิชาการ จากมหาวิทยาลัยต่างๆ และสถาบันวิจัยทั่วประเทศ รวมทั้งภาคีเครือข่ายทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้ามาร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา 3. บทบาทของเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ โดยกระทรวง อว. ได้จัดทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางนิวเคลียร์ของประเทศ พ.ศ. 2561 - 2580 ขึ้น เพื่อให้การวิจัยและพัฒนาด้านนิวเคลียร์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศ

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
ดูข่าวต้นฉบับ