ผกก.ขับรถชนเด็กชาวเขาดับ 2 ศพ ยังไม่มาพบครอบครัวผู้เสียชีวิต ขอรับทราบข้อกล่าวหาทางโทรศัพท์เหตุไม่อยากเป็นข่าว ญาติประกาศหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจะขอเดินทางไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

จากกรณีคดีที่เด็กสาวอายุ 17 ปี และเด็กหญิง อายุ 12 ปี เชื้อสายลีซู ถูกรถกระบะขับทับจนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป เมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งญาติได้เข้าร้องขอความเป็นธรรม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว หลักฐานชัดกระบะ ‘ผกก.’ ชน 2 สาวดับแล้วหนี แต่อ้างลูกชายขับ หลังญาติตามจี้คดี

ชนเด็กลีซู/ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายเจริญ สินลี้ ประธานสมาพันธ์ลีซูแห่งประเทศไทย พร้อมนางจิตตานันท์ เลาลี อายุ 39 ปี ป้าของเด็กสาวทั้ง 2 คนที่เสียชีวิตและญาติ ที่มารอพบกับ พ.ต.อ.สรโชติ บุญวิเศษ ผกก.กลุ่มงานสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ คู่กรณี ที่นัดจะมาพบและเจรจากันที่สภ.แม่ปิงเชียงใหม่ ช่วงเวลา 19.00 น. วันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่าไร้วี่แวว ของพ.ต.อ.สรโชติ หรือตัวแทนแต่อย่างใด

กระทั่งประมาณ 20.30 น วันเดียวกัน ทางพ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ ผกก.สภ.แม่ปิง จึงเชิญครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมดเข้ามาพูดคุยที่ห้องประชุมของโรงพักชั้น 2 โดยทาง พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ ศิริเดชอนันต์ ผกก.สภ.แม่ปิงเชียงใหม่ได้แจ้งให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า ทางตำรวจสภ.แม่ปิง ดำเนินการอย่างถูกต้องเที่ยงธรรมตรงไปตรงมา 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ทำให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตพอใจ และแยกย้ายกันกลับ

นายเจริญ สินลี้ ประธานสมาพันธ์ลีซูแห่งประเทศไทย ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตมารอพบกับ พ.ต.อ.สรโชติว่าจะเดินทางมาพบกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและเจรจากัน แต่ปรากฏว่าไม่มา*ไม่มาก็รู้สึกเสียใจ เราอยากพบท่านเราไม่ได้มีอะไรแอบแฝง แต่ครั้งที่ 2 ที่เขาไม่มานั้นรู้สึกผิดหวัง *

ตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกัน ตอนนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็จะกลับไปพูดคุยกันเองอีกครั้ง เพื่อหาแนวทางกันต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อยากฝากไปยังคู่กรณีว่า พวกเราก็ไม่มีอะไรให้มาพูดคุยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นอุบัติเหตุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางคู่กรณีได้ประสานมายังตำรวจสภ.แม่ปิงเพื่อขอรับทราบข้อกล่าวหาทางโทรศัพท์ เพราะไม่อยากเจอนักข่าว ส่วนคู่กรณีก็จะขอไปพบไปเจรจาภายหลัง ส่วนทางครอบครัวผู้เสียชีวิตแจ้งว่าหากคดีนี้ผู้เสียหายยังไม่มาพบและยืดเยื้อออกไป ก็จะพากันเดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง เพื่อร้องขอความเป็นธรรม