ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ชมกันบ้างเถอะ! ความในใจจากพนักงานที่เลือกไม่ไปต่อกับบริษัทเดิม

Next Empire
อัพเดต 02 พ.ย. 2561 เวลา 13.38 น. • เผยแพร่ 21 ส.ค. 2561 เวลา 10.45 น. • Porjaii Suwannapho
ชมกันบ้างเถอะ! ความในใจจากพนักงานที่เลือกไม่ไปต่อกับบริษัทเดิม

    วันก่อนไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้ามาค่ะ เลยแวะเข้า Sephora…ออกตัวก่อนว่าเป็นคนที่เครื่องสำอางเยอะมาก ต่อให้วันนั้นไม่ได้มีอะไรติดมือกลับไปเลย ก็ยังมีเครื่องสำอางใช้ไปถึงสามปีข้างหน้าอยู่ดี 

    ในใจก็คืออยากเดินดูไปเรื่อย ไม่ได้คิดอยากได้อะไรเป็นพิเศษ แต่ไม่ว่าจะหยิบสินค้าชิ้นไหนขึ้นมา ก็จะมีเสียงของพนักงานคอยกระซิบอยู่ข้างหูตลอดเวลา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

"ลูกค้าตัดสินใจถูกแล้วค่ะ ชิ้นนี้สีสวยมาก"

พนักงานบอก

เออ…สงสัยจะสวยจริง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

"ที่เขียนคิ้วเบอร์นี้นิยมกันมากนะคะ ลูกค้ารสนิยมดีจริง ๆ"

พนักงานยังพูดต่อ

เออ…สงสัยจะฮิตจริง

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

    กลับมาถึงบ้านตอนนั่งดูใบเสร็จ ซื้อที่เขียนคิ้วไปพันสาม ลิปสติกหมดไปสองพัน นี่ขนาดทำงานเป็นมาร์เก็ตติ้ง ยังเป็นเเหยื่อการตลาด ทาสแรงกระตุ้นได้รุนแรงถึงเพียงนี้

เรื่องนี้บอกอะไรเราเกี่ยวกับชีวิตการทำงานได้บ้าง?

เจ้าของกิจการหรือหัวหน้าทั้งหลาย บางคนอาจจะไม่เคยเอ่ยปากชมลูกน้องตัวเองเลย อาจเพราะเรารู้อยู่แล้วว่าลูกน้องเราเก่ง และคิดไปว่าอีกฝ่ายก็คงรู้อยู่แล้วว่าทำงานได้ดีแค่ไหนเช่นกัน

"ผมมีมาตรฐานในการทำงานสูงจะตาย ถ้าทำงานกับผมได้ แปลว่าคุณต้องรู้ตัวสิว่าคุณเก่ง"

    แต่ความเป็นจริงแล้วโดยเฉพาะกับเด็กรุ่นใหม่ การได้รับการยอมรับเป็นเรื่องที่สำคัญมาก

    เพราะการได้รับคำชมจากหัวหน้า เป็นแรงกระตุ้นการทำงานและเพิ่มระดับ self-esteem ของพนักงานได้อย่างไม่น่าเชื่อ

    และที่สำคัญ พนักงานที่ดีมีความสามารถส่วนใหญ่ "รู้สึกไม่อยากไปต่อ" และพร้อมจะเปิดโอกาสหางานใหม่ หากตัวเองรู้สึกว่าไม่ได้สำคัญมากพอ หรือเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กรได้

ชมกันบ้างเถอะ! ความในใจจากพนักงานที่เลือกไม่ไปต่อกับบริษัทเดิม

แล้วต้อง 'ชม' แบบไหนถึงจะได้ใจพนักงาน?

1. แค่พูดว่า "ขอบคุณ"

    สองคำที่เรียบง่าย แต่ได้ใจไปเกินครึ่ง เป็นคำที่ได้รับการยกย่องเลยนะว่าเป็นคำที่ทรงพลังมากสำหรับมนุษย์เรา อย่างการพูดว่า "ขอบคุณที่ทำงานหนัก" หรือ "ขอบคุณสำหรับไอเดียดี ๆ ในห้องประชุมวันนี้นะ" ลองพูดกับพนักงานของคุณทุกวันสั้น ๆ เท่านี้ก็ทำให้พนักงานรู้สึกประทับใจ หายเหนื่อยกับการทำงานไปเปราะนึงเลย

2. แค่แบ่งปันความสำเร็จ

    เวลาที่พนักงาน ลูกน้องในองค์กรของเราประสบความสำเร็จในการทำงาน อาจจะไปคว้ารางวัล หรือสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัท อาจจะทำการโพสต์ผ่านกรุ๊ป หรืออีเมล์บริษัทเป็นการยกย่องในความสำเร็จก็ย่อมได้ บางทีการแบ่งปันความสำเร็จอาจช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนก็เป็นได้

3, แค่แชร์คำชมส่งต่อ

    หากคุณได้รับคำชมจากลูกค้า หรือพาร์ทเนอร์ เพื่อนร่วมงานอื่น ๆ อย่าเก็บมันไว้คนเดียว! ถ้างานนั้นมีคนร่วมความสำเร็จด้วย แชร์บอกต่อกันไปเลยว่าเขาชมมาว่าอย่างไร งานของเราไปโดนใจลูกค้าตรงไหน นอกจากจะทำให้พนักงานดีใจแล้ว ยังมีกำลังใจที่จะทำงานต่อ ๆ ไปด้วยนะ

4. แค่ชมให้ถูกเวลา

    บางสถานการณ์การ 'ชม' ให้ถูกที่ ถูกเวลาก็เป็นสิ่งสำคัญ อย่ารอให้เวลาล่วงเลยถ้าคุณเล็งเห็นแล้วว่าเขาหรือเธอควรได้รับคำชมนั้น อาจจะเป็นการทำงานที่ทุ่มเท การเสนอไอเดียเจ๋ง ๆ เพราะถ้าคุณเอาแต่คิดเองว่าเขาคงรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเก่งที่ทำได้ ในอนาคตคนเก่งคนเดิมอาจไม่อยู่กับคุณแล้วก็ได้

5. แค่ให้รางวัลตอบแทน

    รางวัลที่ว่าไม่ใช่การมอบเงินแสน หรือของราคาแพงเกินเหตุ อาจจะเป็นแค่การเลี้ยงข้าวมื้อเล็ก ๆ ก็ยังได้ เพื่อเป็นการตอบแทนในสิ่งที่พนักงานทำงานอย่างหนัก เป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยสร้างกำลังใจให้กับคนในองค์กรของคุณ

ชมกันบ้างเถอะ! ความในใจจากพนักงานที่เลือกไม่ไปต่อกับบริษัทเดิม

เคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Intern ตอนที่ผู้ช่วยของนางเอกร้องไห้โฮออกมา ว่านางเอกดูเหมือนไม่เคยใส่ใจสิ่งที่เธอทำเลย ทั้งที่เธอจบมหาวิทยาลัยชั้นนำ คณะชั้นเลิศ ทำงานอยู่ออฟฟิศจนดึกดื่น แต่เหมือนไม่เคยทำอะไรได้ดีหรือถูกใจสักอย่าง 

    การที่เราต้องการพนักงานชั้นยอด เจ้าตัวก็ควรจะรู้เช่นกันว่าตนเองนั้นยอดเยี่ยมเช่นกัน…ต้นไม้ในใจพนักงานจะเติบโตได้ดีแค่ไหน อยู่ที่เราเป็นคนรดน้ำนะ 

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 1
  • นงลักษณ์
    ปิ๊ง หลายๆบริษัท หัวหน้าชอบคน ประจบ สอพลอ พวกนี้จะก้าวหน้า แต่คนที่ประจบ สอพลอไม่เป็น ทำดีแทบตาย ก็อย่าหวังความก้าวหน้า
    22 ส.ค. 2561 เวลา 02.25 น.
ดูทั้งหมด