มีทางเลือกอื่นอีกไหมในการออกกำลังกายเพื่อบริหารหัวใจ? เชื่อไหมว่ายังมีวิธีอื่นที่ดีและสะดวกกว่าการคาร์ดิโอในการเผาผลาญไขมัน แม้ว่าคาร์ดิโอจะเป็นการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพมากก็ตาม กฎเหล็กข้อหนึ่งของการลดน้ำหนักที่ดีคือไม่ควรปล่อยให้ร่างกายหิวและเหนื่อยมากจนถึงขีดสุด! และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงควรคิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะวิ่งออกกำลังกายแบบหักโหมอีกครั้ง
ประเด็นที่ 1
คุณมักคิดว่า “การลดน้ำหนัก” กับ “การลดไขมัน” มีความสำคัญเท่าเทียมกันหรือเปล่า? คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าคนอ้วนคือคนที่มีน้ำหนักเกิน แต่เราควรทำความเข้าใจถึงความหมายของสองคำนี้ให้ถูกต้อง การคาร์ดิโอคือการเผาผลาญแคลอรี่จากไขมัน แต่เราสามารถเผาผลาญแคลอรี่จากกล้ามเนื้อได้เช่นกัน! เชื่อสิว่าไม่มีใครต้องการให้มวลกล้ามเนื้อของร่างกายลดลงจากการเผาผลาญไขมันหรอก ซึ่งการสูญเสียมวลกล้ามเนื้อจะหมายถึงพลังงานที่ลดลงและร่างกายอ่อนแอปวกเปียก
ประเด็นที่ 2
เมื่อคุณออกกำลังกายมากเกินไประดับคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดจะสูงขึ้น ทำให้เกิดอาการอยากอาหารตามมาและมีการชดเชยปริมาณแคลอรี่ที่สูญเสียไปมากเกินความจำเป็น เช่นเดียวกับการดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ สุดท้ายคุณจะได้รับปริมาณแคลอรี่มากกว่าที่เพิ่งเผาผลาญไปจากการวิ่งบนสายพานมานานกว่าหนึ่งชั่วโมง การออกกำลังกายมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนไม่ต่างจากการอดนอน ทำให้คุณอยู่ในภาวะต่อต้านเลปติน (ไม่สามารถส่งสัญญาณไปยังสมองว่าคุณอิ่มแล้ว) และยังเพิ่มระดับเกรลิน ในที่สุดร่างกายก็จะต่อต้านอินซูลินเนื่องจากระดับคอร์ติซอลสูงบ่อยครั้งเกินไป พร้อมกับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น
คำเตือนอีกข้อหนึ่งของการบริหารหัวใจคือผลกระทบในแง่ลบซึ่งจะเกิดกับการทำงานของต่อมไธรอยด์ T4 คือฮอร์โมนที่ถูกสร้างขึ้นจากต่อมไธรอยด์ จากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็น T3 เพื่อการเผาผลาญอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ การมีระดับคอร์ติซอลสูงเกินไปจะส่งผลกระทบต่อร่างกายในการสร้างฮอร์โมน T4 และขัดขวางการเปลี่ยนจาก T4 เป็น T3 จนทำให้ระบบเผาผลาญทำงานบกพร่อง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการเผาผลาญไขมันลดลง สูญเสียพลังงาน และเกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆตามมา
ประเด็น 3
การวิ่งกลางแจ้งหรือการวิ่งบนสายพานล้วนต้องใช้ความอุตสาหะ แต่ก็ยังถือว่าได้ประโยชน์น้อยกว่าที่ควร ที่สำคัญมีผลข้างเคียงด้วย เช่น การเพิ่มรอบวิ่งให้มากขึ้นจะยิ่งทำให้เท้าของคุณมีโอกาสบาดเจ็บมากขึ้นด้วย และถ้าคุณมีน้ำหนักตัวมากเกินไปการวิ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อข้อต่อ (โดยเฉพาะเข่า) หวังว่าคุณคงทราบสาเหตุแล้วว่าทำไมการเดินจึงมีประโยชน์มากกว่าการวิ่ง นอกจากนี้การเดินยังช่วยทำให้คุณหุ่นเพรียวบางและไม่ได้ทำให้หิวมากกว่าเดิม แม้ว่าการเดินจะเผาผลาญแคลอรี่ได้ไม่เท่ากับการวิ่ง แต่ก็มีการพิสูจน์แล้วว่าเป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพที่ควรพิจารณา (โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเข่า) การวิ่งจะทำให้ระดับคอร์ติซอลเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่การเดินช่วยลดระดับคอร์ติซอล
คุณควรเดินบ่อยแค่ไหน?
บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้! หากคุณอยู่ในสภาพภูมิอากาศที่ร้อนควรเดินประมาณ 30-60 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง หรือ 6 ครั้งถ้าเป็นไปได้ และพยายามหากิจกรรมคลายเครียดอื่นๆร่วมด้วย เช่น การนวด อบซาวน่า อาบน้ำอุ่น หรือแม้กระทั่งเลี้ยงฉลอง!
เดินให้ได้สุขภาพ,,,ต้องเดินเร็วจะได้ประโยชน์อย่างน้อย30นาทีขึ้นไป ไม่ว่าออกกำลังกายแนวไหนได้สุขภาพทั้งนั้นแล่วแต่ไลฟต์สไตล์ของแต่ละบุคคลแตกต่างกันไป**ออกกำลังกายวันนี้เพื่อสุขภาพดีเพื่อวันข้างหน้า**
18 ธ.ค. 2561 เวลา 08.52 น.
บพิตร แอดมิน มั่วมาก
16 ต.ค. 2561 เวลา 14.36 น.
parn(thongserm) ตรรกะเยอะมาก บางทีก็ไม่รู้จะตามวิจัยไหนดี
12 ต.ค. 2561 เวลา 02.15 น.
Tandy ไร้สาระนะ แง่มุมของคนขี้เกียจ
11 ต.ค. 2561 เวลา 14.14 น.
ดูทั้งหมด