ทั่วไป

“โควิดพรากทุกอย่างไปจากชีวิต” เปิดใจลับเฉพาะ “แมทธิว ดีน” 1 เดือนในรพ. รักษาโควิด19

daradaily
อัพเดต 20 ส.ค. 2564 เวลา 05.40 น. • เผยแพร่ 20 ส.ค. 2564 เวลา 06.30 น.

“โควิดพรากทุกอย่างไปจากชีวิต”
เปิดใจลับเฉพาะ  “แมทธิว ดีน” 1 เดือนในรพ. รักษาโควิด19
       เอ่ยชื่อ “แมทธิว ดีน” เขาน่าจะเป็นดาราคนแรกๆ ที่เปิดชื่อและเผยว่าตรวจโควิด19 ในไทย และครั้งนั้นสังคมไทยรับรู้เรื่องโควิด19 กันอย่างมาก 
      ไม่นาน “ลิเดีย” ภรรยาเขาก็ประกาศติดโควิด19และเข้ารับการรักษานานนับเดือน
เป็นดราม่าชีวิตที่คนไทยติดตามและตื่นตัว

อ่านข่าวต่อ:ภูมิใจ! “แมทธิว ดีน” เชียร์ “เทนนิส” ติดขอบสนาม ขอบคุณที่

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง
โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

       ดาราเดลี่ได้เปิดใจสัมภาษณ์ว่าด้วยโควิดเป็นซีรีส์จากนักแสดงหลายท่าน ประเดิมด้วย  “แมทธิว ดีน” และหลายเรื่องเกี่ยวกับโควิด19 ที่หลายคนไม่รู้

       ดาราเดลี่ : ช่วงนี้โควิดมันระบาดหนัก อยากให้แมทธิวพูดนิดนึง ตอนที่ติดครั้งแรกแมทธิวตัดสินใจนานมั้ย ที่จะโพสต์บอกตอนนั้น ที่ครั้งแรกเลย สังคมยังไม่ค่อยรับรู้เรื่องนี้ ?
แมทธิว : โอ้ ครั้งแรกที่ติด ไม่นานครับ คือแทบจะทันทีเลยแหละ เพราะว่าด้วยสายงานของเราที่รู้คือเราก็มันเจอคนเยอะ ช่วงก่อนโควิดหนักเราทำงานที่นึง ก็ต้องเจอ 50 คนแน่ ๆ ไปอีกตึกนึงก็เจอ 50-100 ขึ้นลิฟต์มากมาย เดินช็อปปิ้ง พาลูกไปเที่ยวสวนสนุกก็เจอคนเยอะแยะ ด้วยการใช้ชีวิตของเราในช่วงนั้น เพราะฉะนั้นพอติดปั๊ปก็รู้เลยเปอร์เซ็นต์ที่จำเป็นจริง ๆ คือต้องบอกทุกคน อย่างที่ต้องทราบให้ตัวเค้าระวัง แล้วก็ไปเช็คให้เป็นเรื่องเป็นราว 
       ก็โชคดีที่มันไม่มีใครติดจากผม ถึงจะเจอคนเยอะเจอแบบตอนนั้นแก๊งค์ 10 fight 10 ทุกคนก็คือซ้อมมาด้วยกัน แบบว่าซ้อมด้วยกันแทบจะทุกวันเลยด้วยซ้ำตอนนั้น ถ้าติดขึ้นมาเค้าก็เหนื่อย เค้าก็ตกใจ และพวกเค้าก็คือสายงานเหมือนกัน พวกเค้าก็ไปเจอคนมาอีกร้อย สองร้อยคน ซึ่งก็โชคดีที่เป็นกันไม่เยอะในตอนนั้น แล้วก็ทุกคนก็เริ่มจะหวั่นแต่ก็เข้าใจว่าในเรื่องเวลามันผ่านไปแล้ว ตอนนั้นมันคือปีนึงแล้วแหละ บางอย่างก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปก็เริ่มมีความรู้มากขึ้นกับโรคนี้ เริ่มจะมีวิธีระวังตัวเองเจอคนน้อยลง อะไรอย่างงี้ ที่เป็นก็จะมีความเสี่ยงน้อยลง

       ดาราเดลี่ : แมทธิวเข้ารักษาในรพ. ตอนนั้นเดือนนึง เป็นยังไงบ้าง ชีวิตในรพ. ?

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

       แมทธิว : ตอนนั้นอยู่โรงบาลเดือนกว่าครับ ใช่ครับ โห้พี่มันก็ มันไม่สนุกครับ ผมก็ยังย้ำอยู่ทุกวันว่าตอนนี้บางคนก็กลัวนะ บางคนก็กลัวโควิด บางคนก็ไม่ค่อยกลัว อันนี้คือเข้าใจได้เลย จากตัวเลข จากข้อมูลทุกอย่างคือคนที่อายุไม่มาก ไม่มีโรคอะไรแทรกซ้อนมากมาย คือโอกาสเป็นโควิดแล้วรอดมันคือสูง ค่อนข้างเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นจะไม่ค่อยกลัวกัน แต่ว่าสิ่งที่น่ากลัวคือว่าถ้าเกิดคนเป็นแต่ไม่รู้ตัว ไม่หนักแต่ก็ไปส่งต่อให้เด็กเล็กคนนึง ส่งต่อให้กับผู้ใหญ่คนนึงซึ่งมีโอกาสเสี่ยงชีวิต มันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะต้องทำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นระวังไว้ก่อนเพื่อตัวเอง เพื่อคนรอบข้าง เพื่อคนอื่นในสังคม มันเป็นสิ่งที่เราจะต้องระวังเป็นอย่างมาก มันเป็นแล้วถึงแม้ว่าคุณเป็นแล้วอาการไม่หนัก มันก็ไม่สนุกอยู่ดี คือการที่เราจะต้องไปอยู่ในที่หนึ่งกักตัวสองอาทิตย์ จะเป็น Hospitel จะเป็นโรงบาล หรือจะเป็นโรงบาลสนาม อะไรก็แล้วแต่ มันไม่สนุกหรอกครับ มันเหงา 

       แล้วมันก็ยังน่ากลัวอยู่ด้วยซ้ำว่าเราไม่รู้ว่า วันไหนเราจะแย่ลง มันจะลงปอดหนักแค่ไหน มันแปลคลื่นไม่ค่อยแน่นอนหลายอย่าง เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ก็เลี่ยงนะฮะ อยู่บ้านดูตัวเอง ดูแลคนในครอบครัว คนที่จำเป็นจะต้องออกไปทำงานก็คือทำฮะ แต่ว่าทำด้วยความระมัดระวัง ยิ่งเราเห็นตัวเลขที่มันพุ่งขึ้น ๆ แบบนี้เราก็เห็นว่ามันมีตัวเดลต้า เราก็เห็นว่ามันติดกันง่าย เผลอแปปเดียวถอดหน้ากากนั่งคุยกัน นั่งกินข้าว ฝั่งตรงข้ามกันมันก็ติดได้ มันเป็นแล้วไม่สนุก เพราะฉะนั้นอย่าเป็นดีกว่า ระวังไว้ก่อนไม่เสียหายหรอก

       ดาราเดลี่ : ตอนนี้วัคซีนของแมทธิวนี่ครบแล้วใช่ไหมครับ 
       แมทธิว : ผมฉีดแอสตร้าเซเนก้าไปหนึ่งเข็มฮะ ยังไม่ครบ รอครบกำหนด เพราะว่ามันประมาณ 3 เดือนกว่าจะฉีดเข็มสอง แล้วก็รอตามคิวฮะ 

       ดาราเดลี่ : จริง ๆ ในบ้านเราประเทศเราก็กำลังระดมฉีดกัน จริง ๆ ก็ที่บ้านของ อย่างลิเดียก็ไปตรวจปอด ตรวจร่างกายดูเหมือนกัน แล้วพบสภาพใช่ไหมครับ เห็นไปตรวจ  

       แมทธิว : ใช่ครับใช่ ก็คือหลังจากที่หายดีแล้ว ประมาณ 6 เดือนก็ไปตรวจ เพื่อเป็นความรู้ แล้วก็เพื่อความสบายใจของเราเอง ตอนนั้นผมก็น่าจะโอเคนะ ปอดผมโอเคเลย แต่ปอดของเดียก็จะมีอยู่นิดหน่อยที่มันยังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ไม่ได้ถือว่าอยู่ในระดับที่แย่มากแต่ยังโอเค แล้วผมเชื่อว่ายังไงก็ตามใช้เวลานิดนึง เดี๋ยวยังไงร่างกายของเราก็จะแบบฟื้นฟูเองได้ก็ดูไม่น่าเป็นห่วง 

 

       ดาราเดลี่ : แมทธิวเชื่อว่าอีกนานไหม กว่าจะได้ขึ้นไปเป็นสปีคเกอร์บนเวทีมวยอีกครั้งหนึ่ง เหมือนที่เราเคยทำ 
       แมทธิว : โห อยากสุด ๆ อันนี้ อยากทำงาน อยากลุย อยากไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม แต่ดูแล้วสักพักนึงก็ผมว่าตัวเลขของบ้านเรามันสูงนั้นแหละ หวังว่ามันจะพีคไปแล้วแหละ หมื่นสองหมื่น สองหมื่นกว่า หวังว่ามันจะลดลง ถ้าลดลงเหลือแบบน้อย ๆ แล้วอะผมเชื่อว่าเราก็จะทยอยเปิดนู้นเปิดนี่ได้ มวยมันก็ผมว่าทำได้นะถ้าเกิดมันตัวเลขน้อย เพราะว่าก็สามารถจัดด้วยระบบปิดได้เหมือนที่เคยทำมา ไม่มีคนดู มีแต่นักมวยกับทีมงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งทุกคนที่เราไปก็จะมีการเทส พวก rapid test หรืออะไรต่าง ๆ เพื่อที่จะมีการแบบโอเคปลอดภัย ผมก็คิดว่าทำได้แต่รอซักนิดนึง สองเดือน สามเดือนหวังว่าจะโอเคนะ ทุกคนก็อยากทำงานเหมือนเดิม

       ดาราเดลี่ : สุดท้ายในหน้าที่เราผ่านโควิดมาแล้ว รักษาหายแล้ว ตอนนี้มีคนมากมายเลยเป็นแสนนอนป่วยอยู่ มีคนอาจจะต้องใช้ rapid test บางคนเข้าคิวไปตรวจ บางคนกำลังรอวัคซีน แมทธิวพูดหน่อย
       แมทธิว : ผมก็อยากให้ทุกคนที่ต้องเจอกับโควิด-19 ในตอนนี้ที่มีผลกระทบไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของงาน เรื่องของเศรษฐกิจ เรื่องของร่างกายอะไรต่าง ๆ คือก็อยากให้เข้มแข็งจริง ๆ ฮะ สิ่งที่จะช่วยเราได้คือความเข้มแข็งของเรา เราต้องสู้กับมันได้จริง ๆ นอกจากร่างกายที่มันจะสู้ได้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือกำลังใจแล้วก็จิตใจของเราที่จะต้องเข้มแข็งแล้วก็มั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมามันจะทำให้เราอยู่รอดไปได้หลังจากนี้ เราจะต้องพักผ่อนให้เพียงพอแน่นอน กินน้ำกินข้าวให้ดีที่สุด มันจะต้องดูแลตัวเองมาก ๆ แล้วก็ดูแลคนข้าง ๆ รวมไปถึงสังเกตอาการของตัวเองถ้ามันมีอะไรที่ผิดปกติ หรือว่าดูน่าเป็นห่วงก็รีบปรึกษาคุณหมอ 

        อาจจะไม่ได้เข้าไปถามคุณหมอถ้ามันไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่ว่ามันจะมีข้อมูลออนไลน์เยอะ มีอาสาสมัครที่สามารถไปเยี่ยมตามบ้าน สังเกตอาการคร่าว ๆ ได้ แล้วก็เอายาไปช่วยในการรักษา แล้วก็เป็นกำลังใจให้จริง ๆ ครับจากผู้ที่เจอมาแล้วโดยตรง ผมเข้าใจว่ามันคือความเครียด มันคือความเซ็ง ความเศร้าที่เราไม่อยากให้มันเกิดขึ้น แต่ว่าในเมื่อเกิดขึ้นแล้วอย่างที่บอกไปคือเข้มแข็งไว้แล้วก็สู้กับมันฮะ มันจบแน่แต่ว่าเราแค่ต้องใช้ความอดทนมากนิดนึงฮะ สู้ ๆ ทุกคนครับ

ดูข่าวต้นฉบับ