ทั่วไป

กรมอนามัย แนะ ท้องถิ่นคุมเข้มน้ำประปาช่วง COVID-19 ตามคำแนะนำ WHO

NATIONTV
อัพเดต 05 เม.ย. 2563 เวลา 12.03 น. • เผยแพร่ 05 เม.ย. 2563 เวลา 23.00 น. • Nation TV
กรมอนามัย แนะ ท้องถิ่นคุมเข้มน้ำประปาช่วง COVID-19 ตามคำแนะนำ WHO

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควบคุม กำกับ ดูแลและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปาให้สะอาด ปลอดภัยตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำ เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19

นายแพทย์ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ยังไม่พบหลักฐานยืนยันว่าพบเชื้อไวรัสโคโรน่าในน้ำผิวดิน น้ำบาดาล น้ำประปาหรือน้ำบริโภค เนื่องจากไวรัสชนิดนี้มีเยื่อหุ้มที่มีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อมได้ต่ำและถูกทำลายได้ง่ายจากสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อ เช่น คลอรีน ดังนั้น ความเสี่ยงที่จะพบเชื้อไวรัสโคโรน่าในน้ำประปาจึงค่อนข้างต่ำ แต่องค์การอนามัยโลก ก็ได้ให้คำแนะนำในการจัดการน้ำสะอาดเพื่อป้องกันการปนเปื้อน โดยเฉพาะระบบการผลิตน้ำประปาให้มีการควบคุม กำกับ ดูแลและเฝ้าระวังตามปกติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบกำจัดเชื้อโรคในกระบวนการผลิตน้ำประปาต้องเพิ่มความเข้มงวดให้มากกว่าเดิม กรมอนามัยจึงได้จัดทำคำแนะนำในการดูแลคุณภาพน้ำประปา เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางในการควบคุม กำกับ ดูแลและเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปา ในช่วงการเกิดโรคติดเชื้อ COVID19 ดังนี้ 1) แหล่งน้ำดิบ ดูแลรักษาความสะอาดของแหล่งน้ำดิบตามปกติ เพิ่มความเข้มงวดไม่ให้มีขยะโดยเฉพาะหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว บริเวณใกล้เคียงกับแหล่งน้ำดิบ หากพบต้องดำเนินการกำจัดอย่างถูกหลักสุขาภิบาลทันที 2) ระบบผลิตน้ำประปา ควบคุมกระบวนการผลิตตามแนวทางปกติ เพื่อให้ได้คุณภาพน้ำประปาตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด และเข้มงวดในการควบคุมค่าความขุ่นให้น้อยกว่า 1 NTU และค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ให้ได้ตามมาตรฐานแต่ไม่เกิน 8.0 เพื่อประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค ที่สำคัญเพิ่มปริมาณความเข้มข้นของคลอรีนในกระบวนการฆ่าเชื้อโรคให้มีคลอรีนอิสระคงเหลือไม่ต่ำกว่า 1 มิลลิกรัมต่อลิตร (ppm.) ที่ต้นทางของน้ำประปา

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

"3) ระบบการจ่ายน้ำ ดูแลระบบท่อจ่ายน้ำไม่ให้แตก รั่ว หากพบให้ดำเนินการซ่อมแซมทันที เข้มงวดการระบายน้ำทิ้งหลังจากการซ่อมแซม เพื่อรักษาคุณภาพน้ำในระบบจ่ายให้มีคุณภาพคงที่อยู่เสมอ และเพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังปริมาณคลอรีนอิสระคงเหลือในระบบจ่ายน้ำจนถึงบ้านผู้ใช้น้ำ ให้มีไม่ต่ำกว่า 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร (ppm.) 4) เจ้าหน้าที่ดูแลกระบวนการผลิตน้ำประปา ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข เช่น กินอาหารร้อน ใช้ช้อนส่วนตัว หมั่นล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างในการติดต่อประสานงานกันอย่างน้อย 1-2 เมตร คัดกรองและเฝ้าระวังอาการป่วยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตน้ำประปา โดยการวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเวลาปฏิบัติงานและสังเกตอาการ หากมีอุณหภูมิร่างกาย 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือพบอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจลำบาก ครั่นเนื้อตัว ให้หยุดปฏิบัติงาน แจ้งหน่วยงานและไปพบแพทย์ และ 5) อาคารสถานที่ผลิตน้ำประปา ต้องดูแลรักษาความสะอาดของอาคารสถานที่ผลิตน้ำประปาให้สะอาดอยู่เสมอ ตามมาตรการ 5 ส. และเข้มงวดการทำความสะอาดตามจุดเสี่ยงที่ใช้ร่วมกัน ได้แก่ ลูกบิดประตู ราวบันได ห้องน้ำ โต๊ะ เก้าอี้ ในอาคารสถานที่ดังกล่าว ทั้งนี้ ในการตรวจหาปริมาณคลอรีนอิสระในน้ำประปานั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถใช้ชุดทดสอบปริมาณคลอรีนอิสระในน้ำ (อ 31) ของกรมอนามัย ดำเนินการได้ ซึ่งใช้งานง่าย สะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย" รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
ความเห็น 5
  • CCN
    นำ้_ๆๆๆ_ไฟฟ้า_ๆๆๆ_สมควรทำยิ่ง_ๆๆ_คือลดค่านำ้_ไฟฟ้า 10. ‘/,;;;;;; ให้_ปชชชชชชชน. ทั้งชาติ. ดีที่สุด ครับท่าน. ควรทำยิ่งที่น_นายก. ครับ. ทำเุอะ_ให้ชาติ ปชช. ___ได้ดีใจบ้าง
    06 เม.ย. 2563 เวลา 04.28 น.
  • แม่มด
    แล้วน้ำดื่มหยอดเหรียญตามตู้กด มีหน่วยงานไหนควบคุมดูแลบ้างไหมคะ???
    06 เม.ย. 2563 เวลา 03.23 น.
  • Explusone89
    น้ำแข็งละท่าน ควบคุมไหม น้ำแข็งบด อะมีความเสียงไหม ครับ
    06 เม.ย. 2563 เวลา 01.15 น.
  • วัฒนชัย จิโสะ
    ทุกวันนี้มาตรฐานน้ำประปาก็ถือว่าดีอยู่แล้วแค่เข้มงวดในช่วงนี้หน่อยเท่านั้นเองครับ ปัญหาน่าจะอยู่แหล่งน้ำมากว่า ส่วน WHO คือใคร ทำอะไร ทั่วโลกยังรู้จักองค์กรนี้อีกเหรอ
    06 เม.ย. 2563 เวลา 00.55 น.
  • ฟ้าใส
    เรียนตามตรง ทุกวันนี้ยังสนใจ และ เชื่อมั่น ในมาตรฐาน ของ WHO อีกหรือ WHO ไม่ใช่หรือ ที่แนะนำว่า ไม่จำเป็นต้องใส่ หน้ากากอนามัย สุดท้าย คนตายไปเท่าไหร่ เชื่อในตัวเองดีสุด ตั้งมาตรฐาน ของเราเองให้สูงเข้าไว้ วัฒนธรรม ความเชื่อต่างกัน ย่อมมีผล
    06 เม.ย. 2563 เวลา 00.31 น.
ดูทั้งหมด