7 เม.ย. 63 - จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจมุกดาหารได้จับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 การห้ามออกจากเคหสถานเวลาที่กฎหมายกำหนด ในช่วงดึกวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่จุดตรวจ 4 แยกไฟแดงเมืองใหม่ โดยพบ น.ส.อภิญญา ขำสุภาพ อายุ 19 ปี และ น.ส.เปรมประภา เอกภาพันธ์ อายุ 29ปี ขับรถ BMW สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 กธ 1986 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคนขับมีอาการคล้ายคนเมาสุราโวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พอใจที่ตำรวจตรวจสอบ โดยอ้างว่าตนเองเป็นลูกของผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 รายฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ของวันนี้ นายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจประชุมมอบนโยบายส่วนราชการ สถานการณ์โควิด19 ได้โพสต์ชี้แจงผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ใจความว่า "ลูกของใครไม่สำคัญ ลูกชาวบ้าน ลูกกำนัน #ลูกผู้ว่า ถ้าผิดกฏเคอร์ฟิว # ให้ลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุดไม่มีข้อยกเว้นครับ #กฎหมายต้องเป็นกฎหมายไม่มีข้อยกเว้นสำหรับใครครับ" ซึ่งก็มีประชาชนเข้ามาโพสต์แสดงความเห็นใจ และให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกเป็นจำนวนมาก.
Natalie ณัฐณาฬี น้องน่าจะปฏิบัติตัวให้สมกับมีพ่อเป็นถึงผู้นำจังหวัด ท่านฯพูดถูกที่สุดค่ะ “กฎหมายต้องเป็นกฎหมายและใช้เท่าเทียมกันทุกคน” ถ้าทุกวันนี้ประเทศไทยทุกๆคนทำอย่างท่านฯพูด..บ้านเมืองเราก็จะไม่มีคำว่า”สองมาตรฐาน”แน่นอนค่ะ!
07 เม.ย. 2563 เวลา 12.04 น.
sunee ยกย่องท่านผู้ว่าฯ ค่ะ ผู้นำและบริวารของผู้นำต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน
07 เม.ย. 2563 เวลา 11.47 น.
กัดลิ้นพูด
07 เม.ย. 2563 เวลา 11.27 น.
freeimage พ่อแม่รักษากฎระเบียบและสั่งสมความดี ลูกเด็กรุ่นใหม่คิดอาศัยบารมีทำผิดกฎหมายอย่างไร้สำนึก ในกรณีนี้ยังเมาแล้วขับรถด้วย
กราบขอบพระคุณท่านผู้ว่าเลยครับ ที่บอกให้ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องดูว่าเป็นลูกใคร กฎหมายเมืองไทยจะได้ศักสิทธิ์เข้มแข็งครับ
07 เม.ย. 2563 เวลา 12.18 น.
Nu 096 น่าเห็นใจท่านผู้ว่าจริงๆค่ะ
07 เม.ย. 2563 เวลา 12.08 น.
ดูทั้งหมด