ปกติเราซื้อเสื้อผ้ากันยังไงเอ่ย ต้องลองก่อนมั้ย ราคาสำคัญรึเปล่า หรือว่าถ้าชอบก็ซื้อเลย ใครเคยเจอปัญหาซื้อมาแล้วไม่ได้ใส่บ้างมั้ย วันนี้แพรขอมาแชร์เคล็ดลับส่วนตัว ที่แพรใช้ เวลาจะซื้อเสื้อแต่ละครั้ง อยากให้ลองเอาไปปรับใช้กันดู จะได้มีแต่เสื้อผ้าที่เราแฮปปี้ทุกครั้งที่ใส่ ไม่มีปัญหาปวดหัวหลังซื้อนะจ๊ะ
1. ถามย้ำว่าเราจะใส่เสื้อตัวนี้จริงๆ
ฟังแล้วอาจจะดูงงๆ เอ๊า เราก็ต้องรู้ตัวเองดีสิ ว่าชอบไม่ชอบ ใส่ไม่ใส่ชุดที่จะซื้อมั้ย แต่แพรยอมรับว่าแต่ก่อนแพรเคยตัดสินใจซื้อเสื้อแค่เพราะเห็นนางแบบใส่แล้วสวยดี บางครั้งไม่ได้เป็นสไตล์ของตัวเองซะด้วยซ้ำ พอซื้อมาสุดท้ายก็ไม่ได้ใส่ เพราะใส่แล้วไม่มั่นใจ เลยอยากแนะนำว่า ถามตัวเองซ้ำๆ ย้ำๆ เลยค่ะว่า“เสื้อตัวนี้เราชอบจริงๆ นะ” เป็นสไตล์ของเรา เอาไปใส่กับชิ้นอื่นๆ ที่เรามีได้ไม่ยาก และถ้าใครไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร ลองสังเกตเสื้อผ้าที่เรามีในตู้ก็ได้ ว่าปกติเราชอบใส่ชุดหน้าตาประมาณไหน ก็ลองหาสไตล์เสื้อผ้าที่ใกล้เคียงกันดู ดีกว่าซื้อชุดที่คนละแนวมาเลย
2. ลองใส่ก่อนซื้อเถอะนะ
ถ้าไปซื้อเสื้อที่ร้าน แพรจะลองชุดทุกครั้ง เพราะชุดตัวเดียวกันที่นางแบบใส่แล้วสวยสุดๆ อยู่บนไม้แขวนก็ปัง อาจจะพังบนหุ่นของเราก็ได้ สรีระของเราไม่เหมือนกันเลย ความสูง สีผิวก็แตกต่าง ยิ่งถ้าเราไม่ได้มีหุ่นมาตราฐานนางแบบเอว24 สูง175 เหมือนที่เค้าเอามาตัดชุดยิ่งต้องลอง
การทาบดูบนกระจกอาจจะช่วยเรื่องสีได้ แต่สุดท้ายแล้วสำหรับเสื้อผ้า“การใส่สบาย” สำคัญไม่แพ้“ความสวยงาม” ซึ่งเราจะได้เห็นทั้ง2 อย่างจากการลองชุดแน่นอน เวลาลองชุด ลองเดินดูก็ได้นะ โดยเฉพาะชุดรัดรูป หรือชุดสั้นๆ จะได้รู้ว่าไม่โป๊ หรือถ้าเป็นกางเกง แพรชอบหยิบ2 ไซส์มาลอง บางครั้งใส่แล้ว เออเอวตัวนี้พอดีนะ แต่พอได้ลองอีกไซส์ สรุปอีกไซส์ใส่สบายกว่าแถมใส่พอดีเหมือนกัน ชุดบางตัวใส่แล้วถึงได้รู้ว่าติดสะโพก รู้ว่าคัน รู้ว่าใส่แล้วเราดูตัน ฉะนั้น ลองเถอะ
3. ราคาสอดคล้องกับคุณภาพ เน้นเสื้อผ้าที่คุณภาพ ราคาแพงใช่ว่าดี
เสื้อผ้าบางตัวก็มีราคาแพงเกินคุณภาพไปมากๆ ลองสังเกตจากการตัดเย็บ พลิกตะเข็บดู ว่าเย็บเรียบร้อย ไม่เบี้ยว ใช้มือสัมผัสผ้า หรือจะหยิบป้ายติดเสื้อมาดูเส้นใยก็ยังได้ อย่างเส้นใยพวกโพลีเอสเตอร์ ก็จะมีราคาถูกกว่าคอตตอนหรือไหม เป็นต้น ถ้าให้ดี แพรแนะนำว่าเลือกชุดที่มีคุณภาพหน่อยจะดีกว่า อาจจะต้องจ่ายแพงขึ้นนิด แต่ในราคาที่สมเหตุสมผลกับเรานะ แพรคิดว่าเราเจอชุดที่ชอบทั้งที ก็อยากให้มันอยู่กับเรานานๆ เนอะ เสื้อผ้าคุณภาพแย่ๆ บางตัวซักได้3-4 ครั้งก็ดูเก่าจนไม่กล้าใส่แล้ว ลงทุนซื้อน้อยชิ้นแต่อยู่กับเรานานๆ คุ้มราคามากกว่า ดีกับสิ่งแวดล้อมกว่าด้วยเนอะ
4. อย่าซื้อเพราะลดราคา
ของถูก โปรโมชั่น เห็นป้ายสีแดงๆ มีต้องแว่บเข้าไปดู ใครแพ้ของเซลล์บ้างคะ แพรก็เป็นน้าาา อันนี้ไม่ได้ห้ามซื้อของเซลล์ แต่แนะนำว่าเหตุผลในการซื้อชุด ไม่ควรเป็นเพราะมันลดราคา แพรเจ็บมาเยอะ กับการยอมซื้อชุดที่ถูกลงแม้ว่าไซส์จะหลวมไปนิด หรือรีบๆ หยิบมาโดยยังไม่ทันคิดว่าจะเอาไปแมทช์กับอะไรที่มี สุดท้ายของเซลล์หลายชิ้น ถูกนำมาใส่แค่ครั้ง2ครั้ง ก่อนส่งต่อ เพราะจริงๆ แล้ว เราไม่ได้ชอบชุดตัวนั้นจริงๆ ยังไงล่ะ สู้เก็บเงินไปซื้อชุดที่ชอบเลยดีกว่า
5. ดูตำหนิ รอยเปื้อนก่อนซื้อ
อันนี้เป็นสิ่งที่“ต้อง” ทำ ก่อนซื้อของทุกอย่างแหละเนอะ เสื้อผ้าก็เหมือนกันนะ แพรนี้เลือกแล้วเลือกอีก ดูหมดทั้งราวว่าตัวที่เราได้ไปต้องดีที่สุดในดีไซน์นั้น ดูว่าไม่มีรอยเกี่ยวรอยขูด รอยลิป ตะเข็บไม่รุ่ย กระดุมครบ ซิปรูดง่าย จะได้ยิ้มจ่ายเงินแบบไร้กังวล
6. ซัก ก่อน ใส่
ข้อสุดท้าย เป็นข้อที่ควรท่องขึ้นใจ“ซัก ก่อน ใส่” โดยเฉพาะชุดชั้นใน กางเกงใน และเสื้อชิ้นบน คือจริงๆ ก็ทุกๆ ชิ้นนั้นแหละค่ะ แพรอยากบอกว่า กว่าจะเป็นชุดที่เราเห็นบนราว เค้าผ่านทั้งโรงงานผ้า โรงงานตัดเย็บ โกดังเก็บของ จนมาถึงในร้านแล้วอาจจะมีคนลองอีกตั้งไม่รู้กี่คนกว่ามันจะมาถึงมือเรา คือต่อให้ตัวใหม่ไม่มีใครลอง กระบวนการก่อนหน้าที่แพรบอกก็น่าจะพอเข้าใจได้ว่าเสื้อผ้าไม่ได้สะอาดมาอยู่แล้วนะ เชื้อโรค แบคทีเรียอะไรบ้างก็ไม่รู้ เสื้อผ้ามันใกล้ชิด ติดผิว ใกล้ใบหน้าเราเลย ถ้าให้ดีได้มาแล้วอย่าโยนเข้าตู้เสื้อผ้านะ โยนเข้าตะกร้าซักเลย ซักก่อนใส่เถอะเนอะ เพื่อสุขภาพของเราเอง
เป็นไงบ้าง บทความนี้แอบยาวหน่อย แต่รับรองว่าถ้าใครทำตาม จะไม่ต้องปวดหัวกับเสื้อผ้าในตู้อีกแน่นอน เราแก้ปัญหาที่ต้นเหตุไปเลย จะได้มีแต่เสื้อดีๆ ที่เราชอบ ใส่ก็สบาย ส่วนใครซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ แพรแนะนำว่าอาจจะต้องลองสั่งมาก่อนว่าร้านนี้เชื่อถือได้แค่ไหน ดูสไตล์ คุณภาพที่เราโอเค ถามข้อมูลไซส์จากร้านค้า หรือถ้าบางร้านให้คืนของได้ ก็ลองก่อนค่อยตัดป้ายห้อยเนอะ จะได้เอาไปคืนได้ถ้าใส่แล้วไม่โอ ยังไงก็ลองเอาไปปรับใช้ดูค่า
ติดตามบทความใหม่ ๆ จากเพจฉันเรียนแฟชั่นที่มิลาน ได้ทุกวันอาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือน บน LINE TODAY และหากสามารถอ่านบทความอื่นได้ที่เพจฉันเรียนแฟชั่นที่มิลาน
